เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2565 ที่ พิพิธภัณฑ์การศึกษาไทย อาคารราชวัลลภ กระทรวงศึกษาธิการ นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) ประธานกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ เปิดเผยว่า ศธ. จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับรัฐมนตรีด้านการศึกษาแห่งภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ว่าด้วยเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน เป้าหมายที่ 4 (การศึกษา 2030)ครั้งที่ 2 หรือ APREMC II ระหว่างวันที่ 5-7 มิถุนายน 2565  ณ โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพมหานคร โดย สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะเสด็จพระราชดำเนินเป็นการส่วนพระองค์เพื่อทรงเป็นประธานในพิธีและทรงปาฐกถาพิเศษ และทรงเปิดนิทรรศการ ในวันจันทร์ที่ 6 มิถุนายน 2565

รมว.ศธ.กล่าวว่า การประชุม APREMC II จะมีผู้แทนระดับรัฐมนตรีจากประเทศสมาชิกยูเนสโกในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก จำนวน 46 ประเทศ รวมถึง ผู้บริหารระดับสูงขององค์การระหว่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกว่า 300 คน เข้าร่วม โดยรูปแบบการจัดประชุมจะเป็นแบบผสมผสาน ทั้งการประชุมในสถานที่จริง (on-site) และการประชุมผ่านระบบทางไกล (online) โดยจุดเน้นของการประชุมครั้งนี้เป็นการตระหนักถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งก่อให้เกิดความผันผวนที่คาดการณ์ไม่ได้ และมีผลกระทบต่อการศึกษาทั้งในระดับโลกและภูมิภาค รวมถึงผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาและสุขภาพความเป็นอยู่ที่ดีของผู้เรียน ส่งผลกระทบต่อการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนโดยเฉพาะเป้าหมายที่ 4 ด้านการศึกษา นอกจากนี้ ยังมีการจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในฐานะทูตสันถวไมตรีของยูเนสโก ด้านการเสริมสร้างศักยภาพของเด็กชนกลุ่มน้อยด้านการศึกษา และอนุรักษ์มรดกวัฒนธรรม และนิทรรศการด้านการศึกษา

น.ส.ตรีนุช กล่าวต่อไปว่า สำหรับหัวข้อหลักของการประชุม APREMC II คือ “Education Recovery and Transformation towards more Responsive, Relevant and Resilient Education Systems : Accelerating progress towards SDG4 – Education 2030”  (การฟื้นฟูและการเปลี่ยนด้านการศึกษาเพื่อมุ่งสู่ระบบการศึกษาที่ตอบสนอง เชื่อมโยง และยืดหยุ่นมากขึ้น : การเร่งดำเนินความก้าวหน้าเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน เป้าหมายที่ 4 การศึกษา 2030) มีวัตถุประสงค์เพื่อติดตามความก้าวหน้าการดำเนินการตามเป้าหมายที่ 4 ด้านการศึกษาของวาระการศึกษา 2573  และเป็นเวทีสำหรับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก รวมถึงนักวิชาการ การศึกษา และผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาในภูมิภาค ที่จะร่วมกันหารือเกี่ยวกับประเด็นสิ่งท้าทาย และความสำคัญของการจัดการศึกษาที่ต้องดำเนินการในภูมิภาคและอนุภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกภายหลังการแพร่ระบาดของโควิด-๑๙ โดยจะนำไปสู่การฟื้นฟูและการจัดการวิกฤตการเรียนรู้ การพลิกโฉมการศึกษาและระบบการศึกษาเพื่อให้มีความเท่าเทียม ครอบคลุม เชื่อมโยง ตอบสนองและยืดหยุ่น ส่งผลต่อศักยภาพของเด็ก เยาวชน และผู้ใหญ่ทั่วทั้งภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก

“การที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมครั้งนี้ เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลไทยที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาการศึกษาท่ามกลางบริบทของสังคมโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และปัญหาท้าทายมากมาย โดยเฉพาะการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งมีผลกระทบอย่างมากต่อการศึกษา ตลอดจนยังเป็นการประสานความร่วมมือเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน เป้าหมายที่ ๔ (SDG4 Education 2030) ซึ่งจะช่วยให้สามารถจัด “การศึกษาที่มีคุณภาพ (Quality) ครอบคลุม (Inclusion) เท่าเทียม (Equity) และมีความเสมอภาคทางเพศ (Gender Equality) ตลอดชีวิตของเด็กและเยาวชน” อันจะส่งผลให้เด็กและเยาวชนไทยมีโอกาสเข้าถึงการศึกษาและเรียนรู้ทักษะ การเป็นพลเมืองโลก ทักษะของศตวรรษที่ ๒๑ และเป็นกำลังคนที่มีคุณภาพในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทย รวมถึงมีบทบาทสำคัญในเวทีโลกในอนาคตต่อไป”รมว.ศธ.กล่าว

5 1 vote
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest

0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments