เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2566 ดร.อรรถพล สังขวาสี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ตนได้ลงนามในประกาศสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง การแบ่งหน่วยงานภายในสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด สังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ โดยแบ่งกลุ่มงานภายในออกเป็น 8 กลุ่ม คือ กลุ่มอำนวยการ กลุ่มบริหารงานบุคคล กลุ่มนโยบายและแผน กลุ่มพัฒนาการศึกษา กลุ่มนิเทศ ติดตาม และประเมินผล กลุ่มส่งเสริมการศึกษาเอกชน กลุ่มลูกเสือ ยุวกาชาด และกิจการนักเรียน และหน่วยตรวจสอบภายใน นอกจากนี้ยังได้ลงนามในประกาศสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง การแบ่งหน่วยงานภายในสำนักงานศึกษาธิการภาค สังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ โดยแบ่งกลุ่มงานภายในออกเป็น 5 กลุ่ม คือ กลุ่มอำนวยการ กลุ่มยุทธศาสตร์การศึกษา กลุ่มบริหารงานบุคคล กลุ่มพัฒนาการศึกษา และกลุ่มตรวจราชการและติดตามประเมินผล ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า และวันเดียวกัน ได้หารือผู้แทนสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม(กห.) เกี่ยวกับความร่วมมือโครงการ “จิตสำนึกรักเมืองไทย” ซึ่งโครงการดังกล่าวสอดคล้องกับพันธกิจสำคัญของกระทรวงศึกษาธิการ  ข้อที่ 1 ในเรื่องของศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม และกีฬา ซึ่งอยู่ในแผนการศึกษาแห่งชาติ 20 ปีของ ศธ. เพื่อส่งเสริมวินัย คุณธรรมจริยธรรม มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ รู้จักตนเอง รู้จักสังคมชุมชน ตลอดจนรู้จักประเทศและมีร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์พร้อมไปประกอบอาชีพ โดยเราจะทำงานควบคู่กันไปเพื่อส่งเสริมกิจกรรมที่เด็กจะได้ใช้ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ตามความสนใจและความถนัดให้เกิดประโยชน์กับสังคม

“ปัจจุบันเยาวชนในสังกัด ศธ.ทั้งในส่วนของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) ล้วนทำกิจกรรมสร้างสรรค์สังคมกันอยู่แล้ว เช่น วิทยาลัยเทคนิคสุพรรณบุรี ทำนวัตกรรมเครื่องมือแพทย์ แสดงให้เห็นว่าเด็กอาชีวศึกษาก็มีจิตสำนึกรักเมืองไทย หรือวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีทั่วประเทศก็ทำธนาคารน้ำใต้ดิน ทำกิจกรรมเทคโนโลยีด้านเกษตรกรรมมากมาย เพียงแต่ว่ายังขาดเวทีแสดงออกให้สังคมรับรู้อย่างทั่วถึง”ดร.อรรถพล กล่าวและว่า โครงการจิตสำนึกรักเมืองไทย จึงเป็นเวทีสำคัญที่ให้เยาวชนแสดงออกทางสังคม โดยนำความรู้ความสามารถ ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ที่ตนเองมีอยู่มาทำประโยชน์ให้กับสังคม ตอบโจทก์แผนการศึกษาแห่งชาติ หล่อหลอมเยาวชนในทุกมิติ สามารถกล่าวได้ว่า เยาวชนไทยจะเป็นคนที่สมบูรณ์ได้อย่างแท้จริง โดยบทบาทของ ศธ. จะดึงสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดทั่วประเทศมาเป็นกลไกขับเคลื่อนสถานศึกษาในพื้นที่ ตลอดจนร่วมมือกับองค์กรหลักของ ศธ. เพื่อดำเนินการเชิงนโยบายต่อไป

ดร.อรรถพล กล่าวต่อไปว่า  โครงการ “จิตสำนึกรักเมืองไทย” เป็นโครงการต่อเนื่องของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ในการสร้างจิตสำนึกในการป้องกันประเทศ และรักษาความมั่นคง มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างสำนึกและการมีส่วนร่วมของประชาชน ต่อสาธารณะ โดยโครงการนี้มีเป้าหมายเป็นเยาวชน อายุ 15 – 25 ปี ซึ่งเป็นพลังที่สำคัญต่ออนาคตของชาติ เน้นสร้างการมีส่วนร่วมของเยาวชน ด้วยการเปิดเวทีให้เยาวชนได้ร่วมสะท้อนแนวคิด มุมมองต่อสถานการณ์บ้านเมืองผ่านหัวข้อที่กำหนดเพื่อให้ส่งผลงานเข้าร่วมการประกวด ซึ่งในแต่ละปีจะกำหนดหัวข้อและกิจกรรมการประกวดให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในห้วงเวลานั้น สำหรับปี 2566 โครงการ “จิตสำนึกรักเมืองไทย” เปิดรับสมัครพร้อมส่งโครงการเข้าร่วมพิจารณาได้ตั้งแต่วันนี้ – 13 มิถุนายน 2566 ชิงรางวัลเงินสดเพื่อนำไปดำเนินโครงการให้เป็นจริง รวม 440,000 บาท สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ http://www.จิตสำนึกรักเมืองไทย.com, Facebook จิตสำนึกรักเมืองไทย

0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest

0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments