เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2566 ตามที่  พล.ต.อ.เพิ่มพูน  ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ ได้เสนอรายชื่อโยกย้ายแต่งตั้ง ข้าราชการพลเรือน สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.)ให้ดำรงตำแหน่งประเภทผู้บริหารระดับสูง ระดับ 11 จำนวน 4 ราย ได้แก่ ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) เป็นเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ดร.สุเทพ  แก่งสันเทียะ เลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) เป็น ปลัดศธ. ดร.อรรถพล สังขวาสี  ปลัดศธ. เป็น เลขาธิการสกศ. และนายยศพล เวณุโกเศศ รองปลัดศธ. เป็น เลขาธิการกอศ.เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)อนุมัติ

พล.ต.อ.เพิ่มพูน กล่าวว่า เหตุผลที่ตั้งว่าที่ร้อยตรีธนุ เป็นเลขาธิการกพฐ. เพราะ ว่าที่ร้อยตรีธนุ เคยเป็นรองเลขาธิการกพฐ.มาก่อน มีความรู้ความชำนาญ ทั้งนี้ในกระบวนการคัดเลือกตนได้ให้มีการเขียนวิสัยทัศน์ และเรียกแต่ละคนเข้ามาสัมภาษณ์ จากการพิจารณาแล้ว เมื่อ ดร.อัมพร พินะสา อดีตเลขาธิการกพฐ. เกษียณอายุราชการ ก็อยากได้คนที่สามารถไปทำงานร่วมกับทีมงานที่ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ ก็คิดว่า ว่าที่ร้อยตรีธนุ มีความเหมาะสม มีความคุ้นเคยกับการทำงานร่วมกับรองเลขาธิการกพฐ. ทั้ง 3 คนอยู่แล้ว จึงคิดว่าน่าจะทำงานร่วมกันได้ดี ไม่ต้องไปเริ่มนับหนึ่งใหม่ สามารถทำงานได้เลย ส่วน ดร.สุเทพ ในการสัมภาษณ์วิสัยทัศน์ ได้สอบถามว่าอยากกลับไป เลขาธิการกอศ.หรือไม่ แต่ ดร.สุเทพ ยืนยันว่า อยากกลับมาทำงานที่สำนักงานปลัดศธ. มากกว่า และเดิมทีจะให้ ดร.สุเทพ ไปเป็นเลขาธิการกพฐ. แต่เมื่อดูประวัติแล้ว ดร.สุเทพ ไม่เคยอยู่สพฐ. ดังนั้น ดร.นายสุเทพ  อาวุโสอันดับหนึ่งจึงให้สิทธิเลือก ได้มาเป็นปลัดศธ. เพราะเคยอยู่ที่สำนักงานปลัดศธ.มาก่อน ส่วนการที่ให้ ดร.อรรถพลไปอยู่สกศ. เพราะพิจารณาจากประวัติ  เคยดำรงตำแหน่งเลขาธิการสกศ.มาก่อน และเป็นผู้ที่มีความรู้เกี่ยวกับร่างพ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ… ซึ่งยังไม่ผ่านการพิจารณาของสภาฯ ดังนั้น จึงเห็นว่า ดร.อรรถพล น่าจะเหมาะสมที่จะไปเดินหน้าร่างพ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติต่อไม่ต้องนับหนึ่งใหม่ เพราะมีความเชี่ยวชาญอยู่แล้ว ส่วนที่ตั้งนายยศพล เป็นเลขาธิการกอศ. เพราะเคยเป็นรองเลขาธิการกอศ. และได้ลองสอบถามบุคลากรอาชีวะ ก็เห็นว่าเหมาะสม

รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า  ส่วนการที่ให้ ดร.อรรถพล ไปเป็นเลขาธิการสกศ.นั้น ไม่ได้เพราะทำผลงานไม่เข้าตา แต่อยากให้ไปจัดทำร่างพ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติให้แล้วเสร็จ  ถ้าให้คนอื่นที่มือไม่ถึงไปทำก็อาจเกิดความล่าช้า ดร.อรรถพลเป็นคนที่มีความรู้ความสามารถ ก็คิดว่า เป็นหน้าที่ที่เหมาะสม อีกทั้ง ดร.อรรถพลยังเหลืออายุราชการอีก 1 ปี ก็คิดว่าเพียงพอที่จะจัดทำร่างพ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติให้แล้วเสร็จได้ และเสนอให้สภาฯพิจารณาได้ทันและถ้าให้คนอื่นไปทำก็อาจจะต้องใช้เวลา ทั้ง 4 คนที่ได้รับการแต่งตั้งครั้งนี้ ถือว่าเหมาะสม มีความรู้ความสามารถเหมาะสมกับการทำงาน   และเร็ว ๆ นี้จะเรียกทั้ง 4 คนมาพูดคุยในเรื่องการทำงานอย่างเป็นทางการต่อไป

ดร.อรรถพล กล่าวว่า ส่วนตัวรู้สึกว่าการแต่งตั้งครั้งนี้ไม่เป็นธรรม และคิดว่า อยากจะลาออกจากราชการ ดังนั้นจึงได้เข้าไปสอบถามเหตุผลกับรมว.ศึกษาธิการ  ซึ่ง รมว.ศึกษาธิการ ก็ให้เหตุผลว่า อยากให้ช่วยเรื่องเดินหน้าพ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ  และขอให้ทำงานต่อไป เพื่อผลักดันงานวิชาการให้ประสบความสำเร็จ

“ยอมรับว่า ผมรู้สึกเสียใจ เพราะไม่ได้มีความผิดอะไร และจากนี้จะขอลาพักร้อนเป็นเวลา 10 วัน เพื่อให้ รมว.ศึกษาธิการ ทบทวนความเหมาะสม เพราะการให้ผมกลับไปนั่งเลขาธิการสกศ. เหมือนกับถูกลดศักดิ์ศรี และอาจจะพิจารณาใช้ฟ้องศาลปกครองเพื่อขอความเป็นธรรมต่อไป ส่วนเรื่องการลาออกจากราชการนั้น ก็จะนำไปไตร่ตรองดูอีกครั้ง ว่าจะอยู่ต่อหรือลาออก โดยจะขอกลับไปถามครอบครัวก่อน แต่ส่วนตัวกว่า 80% คิดว่าอยากลาออก เพราะรู้สึกว่าการแต่งตั้งครั้งนี้ไม่เป็นธรรม ผมรับราชการมากว่า 40 ปี หลายครั้งก็โดนการเมืองเล่นงาน ทำให้ไม่ได้รับความเป็นธรรมมาโดยตลอด ซึ่งผมเองก็ตั้งใจทำงานแต่เมื่อ มีมติดังกล่าวออกมา ผมก็เคารพ เพราะพล.ต.อ.เพิ่มพูน คงมีดุลยพินิจแล้ว แต่ถ้าจะให้ไปเริ่มต้นทำงานที่เคยทำมาแล้ว ก็ไม่อยากที่จะทำ และผมเองก็ครบ 60ปี แล้ว ปีนี้ถือว่าเป็นปีแถม ก็อาจจะเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่เข้ามาทำงานน่าจะดีกว่า เพราะผมเองก็ถือว่า ไม่ได้รับเกียรติเท่าที่ควร แต่ขอให้เวลาปรึกษาผู้ใหญ่และครอบครัวให้รอบคอบก่อน” ดร.อรรถพล กล่าว

5 1 vote
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest

0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments