เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2567 รศ.ดร.ประวิต  เอราวรรณ์  เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เปิดเผยว่า ตามที่ สำนักงานก.ค.ศ. ได้จัดทำระบบจับคู่ครูคืนถิ่น Teacher Matching System (TMS) ที่จะใช้เป็นเครื่องมืออำนวยความสะดวกแก่ครูและบุคลากรทางการศึกษา ขอย้ายกรณีปกติในรูปแบบของการย้ายสับเปลี่ยน ซึ่งจะช่วยลดช่องว่างในการย้ายไม่เป็นธรรมระหว่างกระบวนการขอย้าย โดยได้เปิดระบบให้ครูได้ยื่นคำขอร้องย้ายสับเปลี่ยนตั้งแต่เที่ยงของวันที่ 16 มกราคม ซึ่งเป็นการเปิดระบบวันแรก จนถึงวันที่ 31 มกราคมนี้ โดยครูที่สนใจจับคู่ย้ายสับเปลี่ยนสามารถเข้ามาลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ได้ โดยระบบนี้จะทำการค้นหาครูที่ประสงค์จะย้ายสับเปลี่ยนที่มีวิชาตรงกัน ภูมิลำเนาที่ต้องการย้ายตรงกัน เมื่อหาคู่เจอแล้ว ระบบจะส่งผลเพื่อนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.)เขตพื้นที่การศึกษาเพื่อขออนุมัติ  และเมื่อจับคู่กันได้แล้วและอ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯอนมุติก็สามารถลงไปปฏิบัติหน้าที่ได้ภายในภาคการศึกษาหน้าหรือ วันที่ 16 พฤษภาคม ซึ่งถือเป็นการเริ่มภาคการศึกษาใหม่

“ระบบจะค้นหาครูที่มีความต้องการย้ายวิชาเดียวกัน หรือกลุ่มวิชาสาขาเดียวกัน โรงเรียนตรงกัน ตำบลตรงกัน อำเภอตรงกัน หรือจังหวัดตรงกัน โดยจะทำการค้าหาข้อมูลที่ละเอียดที่สุดก่อน หากไม่ได้ก็ค้นหาไปตามลำดับ ทำให้อย่างน้อยครูก็ได้ย้ายกลับจังหวัดที่เป็นภูมิลำเนาของตัวเอง โดยมีข้อกำหนดว่า โรงเรียนที่ขอย้ายไปครูจะต้องไม่เกินเกณฑ์ ระบบนี้จัดทำขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับครูที่จะขอย้ายกลับภูมิลำเนา ซึ่งการย้ายปกติอาจจะช้า แต่การย้ายแบบนี้จะทำให้ครูเจอคนที่ประสงค์จะย้ายสลับพื้นที่กันได้เร็วขึ้น ที่สำคัญการย้ายจะต้องไปกระทบทั้งสองฝ่าย มีการสลับกันมาสอนอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่เปิดระบบไปตั้งแต่เที่ยงคืนวันที่ 16 มกราคม มีครูสนใจเข้าระบบขอย้ายกลับภูมิลำเนาจำนวนมาก และสามารถจับคู่ได้แล้วบางส่วน”เลขาธิการ ก.ค.ศ. กล่าว

รศ.ดร.ประวิต กล่าวต่อไปว่า ในอนาคต ก.ค.ศ. ต้องการพัฒนาระบบดังกล่าว ให้เป็นระบบใหญ่ในการขอย้ายครูและบุคลากรทางการศึกษา เป็นระบบย้ายปกติที่ไม่จำเป็นต้องจับคู่ แต่ให้ครูยื่นขอย้ายผ่านระบบออนไลน์ โดยใช้ AI ในการวิเคราะห์ตัวชี้วัดที่เป็นผลงาน และตัวคะแนนในการย้าย เพื่อที่จะพิจารณาการย้าย เป็นระบบใหญ่ ทั้งกรณีปกติ การจับคู่ย้าย และกรณีที่กลับไปดูแลบิดา มารดา ซึ่งจะเรียกว่า ระบบTRS หรือ Teacher Rotation System โดยคาดว่าจะสามารถพัฒนาให้สำเร็จได้ภายในปี 2567 เนื่องจากต้องรองบประมาณที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร หากสภาฯเห็นชอบก็เชื่อว่าจะสามารถดำเนินการได้อย่างไม่มีปัญหา เพราะมีแนวคิด และวิธีการดำเนินการเรียบร้อยแล้ว โดยระบบใหญ่นี้จะป้องกันเรื่องการทุจริต การตกเบ็ดหรือเรียกรับผลประโยชน์จากการย้ายครูและบุคลากรทางการศึกษาได้100% ส่วนความคืบหน้า การขอมีและเลื่อนวิทยฐานะครูและบุคลากรทางการศึกษา ผ่านระบบ Digital Performance Appraisal : DPA นั้น เป็นไปอย่างราบรื่น โดยที่ผ่านมามีครูยื่นขอมีและเลื่อนวิทยฐานะผ่านระบบนี้แล้วในรอบ 10 เดือนที่ผ่านมากว่า 70,000 ราย มีครูผ่านการประเมินไปแล้ว กว่า 50,000 ราย ไม่ผ่านประมาณ 10% และโดยเฉลี่ยครูจะทราบผลการประเมิน ประมาณ 2-3 เดือน

0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest

0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments