วันที่ 30 พฤษภาคม 2568 ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏบนสื่อออนไลน์ กรณีคุณตาพาหลานที่เป็นเด็กพิเศษไปซื้อชุดนักเรียน และได้รับความช่วยเหลือจากทางร้านให้การสนับสนุนชุดนักเรียน นั้น ตามเจตนารมณ์ของพลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มีความห่วงใยและเน้นย้ำให้เด็กทุกคนเข้าถึงสวัสดิการด้านการศึกษา โดยเฉพาะเด็กพิการหรือมีภาวะบกพร่อง ต้องได้รับการดูแลช่วยเหลือเป็นพิเศษตามสิทธิและสวัสดิการขั้นพื้นฐาน เพื่อให้เด็กทุกคนได้รับโอกาสในการเข้าถึงการศึกษาอย่างเท่าเทียมและทั่วถึง

สำหรับกรณีดังกล่าว สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้มอบหมายสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ (สศศ.) ซึ่งกำกับดูแลศูนย์การศึกษาพิเศษทั่วประเทศ ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่า เด็กนักเรียนรายดังกล่าว เป็นเด็ก LD (บกพร่องทางการเรียนรู้) และเป็นนักเรียนในโครงการการศึกษาพิเศษเรียนรวม ประเภท ความพิการทางสติปัญญา ของโรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) แห่งหนึ่งในจังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งได้มีการประสานการทำงานร่วมกับศูนย์การศึกษาพิเศษนครสวรรค์ ในเรื่องแผน IEP เพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณเป็นประจำทุกปี รวมถึงศูนย์การศึกษาพิเศษนครสวรรค์ยังได้สนับสนุนสื่อ สิ่งอำนวยความสะดวก และการคัดกรองร่วมกันมาโดยตลอด ทั้งนี้ เมื่อสอบถามกับทางผู้ปกครองซึ่งเป็นคุณตาของเด็ก พบว่ายังไม่ได้ลงทะเบียนขอรับบัตรประจำตัวคนพิการให้กับเด็ก จึงได้แนะนำและประสานกับทางศูนย์บริการคนพิการจังหวัด และสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด ในการพาเด็กไปขอออกบัตรประจำตัวคนพิการ เพื่อให้เด็กได้รับสิทธิ สวัสดิการ และความช่วยเหลือจากรัฐ ไม่ว่าจะเป็นสิทธิในการเข้าถึงบริการด้านการศึกษา การรักษาพยาบาล ด้านอาชีพ เบี้ยคนพิการ และอุปกรณ์จำเป็นสำหรับคนพิการต่างๆ เป็นต้น

“การดูแลช่วยเหลือเด็กทุกคนให้ได้รับโอกาสทางการศึกษา เป็นสิ่งที่ รมว.ศึกษาธิการ ให้ความสำคัญมาโดยตลอด พร้อมทั้งกำชับเน้นย้ำการกำกับ ติดตาม หน่วยงานในสังกัดทุกหน่วยให้ดำเนินการเบิกจ่ายเงินอุดหนุนการศึกษาให้ครบถ้วน ถูกต้อง รวดเร็ว รวมถึงการผ่อนปรนเรื่องเครื่องแต่งกายนักเรียนตามความเหมาะสมเป็นรายบุคคล ทั้งนี้ หากพบเด็กและเยาวชนที่ประสบความเดือดร้อน ต้องประสานให้ความช่วยเหลือโดยเร็ว เพื่อบรรเทาทุกข์ให้กับเด็กและผู้ปกครอง อย่างเช่นกรณีดังกล่าว ถึงแม้เด็กไม่ใช่นักเรียนของโรงเรียนในสังกัด สพฐ. แต่ด้วยสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ มีพันธกิจในการดูแลช่วยเหลือนักเรียนพิการหรือบกพร่องทุกคนในประเทศไทย ไม่ว่าจะอยู่ในโรงเรียนสังกัดใดก็ตาม จึงได้เร่งดำเนินการประสานในส่วนที่เกี่ยวข้องทันที เพื่อให้เด็กได้รับสิทธิ สวัสดิการ และความช่วยเหลือจากรัฐ ตามมาตรา 20 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ. 2550 หรือตามที่กฎหมายอื่นกำหนด เพื่อช่วยฟื้นฟูสมรรถภาพและพัฒนาตนเองได้เต็มศักยภาพ ให้พวกเขามีขีดความสามารถที่พร้อมปรับตัวอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข รวมถึงส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น ตามแนวทาง ‘จับมือไว้แล้วไปด้วยกัน’ โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง เพื่อให้นักเรียนทุกคน ‘เรียนดี มีความสุข’ ตามเจตนารมณ์ของรัฐบาลและกระทรวงศึกษาธิการต่อไป” เลขาธิการ กพฐ. กล่าว

0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest

0 Comments
Oldest
Newest Most Voted
Inline Feedbacks
View all comments