เมื่อวันที่ 26 ก.ค. ที่จังหวัดนครราชสีมา  นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ร่วมแสดงพลังแห่งความเสียสละในกิจกรรมบริจาคโลหิตเพื่อสำรองให้แก่โรงพยาบาลในพื้นที่ชายแดน 4 จังหวัด ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ปะทะบริเวณแนวชายแดนไทย – กัมพูชา เพื่อส่งต่อพลังแห่งความช่วยเหลือแก่ผู้ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน และประชาชนที่ยังคงต้องการการดูแลอย่างต่อเนื่อง โดยมีลูกเสือ บุคลากรทางการลูกเสือ และประชาชนในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา และพื้นที่ใกล้เคียง กว่า 200 คน ร่วมบริจาคโลหิต ณ ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช

โดยนายเทวัญ กล่าวว่า การบริจาคโลหิตในวันนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งบทบาทสำคัญของขบวนการลูกเสือไทยในการช่วยเหลือสังคมในยามวิกฤต เพื่อเป็นการช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์ แสดงออกถึงการมีจิตอาสาและความเสียสละ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการเป็นลูกเสือ ที่พร้อมจะบำเพ็ญประโยชน์ต่อผู้อื่นอย่างแท้จริง ในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการและลูกเสือไทย ขอเชิญชวนลูกเสือ บุคลากรทางการลูกเสือ และพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ ร่วมกันบริจาคโลหิตเพื่อสำรองไว้ให้กับโรงพยาบาลในพื้นที่ชายแดน 4 จังหวัด รวมถึงคลังโลหิตกลาง เพื่อให้พร้อมรองรับเหตุฉุกเฉินและช่วยชีวิตผู้ที่กำลังเผชิญความทุกข์ยากจากสถานการณ์นี้ อย่างไรก็ตาม นอกจากการบริจาคโลหิต สำนักงานลูกเสือแห่งชาติยังคงเดินหน้าในการให้ความช่วยเหลือในหลายมิติ โดยเฉพาะการใช้ “ค่ายลูกเสือ” ในจังหวัดศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ จันทบุรี และจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกับการปะทะ  ให้เป็นศูนย์พักพิงชั่วคราวสำหรับประชาชนผู้ประสบภัย มีการจัดเตรียมความพร้อมทั้งในด้านสถานที่ ความปลอดภัย อาหาร และสิ่งของจำเป็นสำหรับการดำรงชีวิต ซึ่งอาคารสถานที่สามารถรองรับประชาชนทั้งที่พักภายในอาคารได้ประมาณ 2,000 คน และลานกางเต็นท์ได้ประมาณ 5,000 คน พร้อมดำเนินการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ความช่วยเหลือ โดยมี “ลูกเสือจิตอาสา” คอยดูแลอย่างเต็มกำลัง

รมช.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ขณะเดียวกัน สำนักงานลูกเสือแห่งชาติยังได้จัดเตรียมถุงยังชีพ เพื่อนำไปแจกจ่ายให้แก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจาก “พายุวิภา” ซึ่งส่งผลให้หลายพื้นที่ทางภาคเหนือประสบปัญหาน้ำท่วมอย่างหนัก โดยเน้นการส่งมอบผ่านเครือข่ายลูกเสือในพื้นที่ เพื่อให้สามารถเข้าถึงประชาชนได้อย่างรวดเร็วและตรงจุด ซึ่งการดำเนินการทั้งหมดนี้สะท้อนถึงบทบาทของลูกเสือไทย ที่ไม่เพียงแต่เป็นผู้ให้ความรู้ ความเข้มแข็งแก่เยาวชน แต่ยังเป็นกลไกในการร่วมดูแลสังคมในยามวิกฤตตามคำปฏิญาณ “ลูกเสือพร้อมช่วยเหลือผู้อื่นทุกเมื่อ และทำตนให้เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นทุกวัน” และยังคงเดินหน้าสนับสนุนและอยู่เคียงข้างประชาชนในทุกสถานการณ์ เพื่อสร้างสังคมไทยที่เข้มแข็งด้วยพลังของลูกเสือไทย ต่อไป

0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest

0 Comments
Oldest
Newest Most Voted
Inline Feedbacks
View all comments