เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2568 ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงสถานการณ์น้ำในหลายพื้นที่ของประเทศ ภายหลังกรมชลประทานรายงานว่ามีปริมาณน้ำไหลผ่านแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้น และจะปรับเพิ่มการระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยาเป็น 2,900 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ตั้งแต่ช่วงเย็นของวันนี้ (10 พ.ย.) จนถึงเช้าวันที่ 11 พ.ย. ซึ่งอาจส่งผลให้ระดับน้ำในพื้นที่ลุ่มต่ำ โดยเฉพาะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สิงห์บุรี อ่างทอง และชัยนาท เพิ่มสูงขึ้น ว่า กระทรวงศึกษาธิการได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานทั้งส่วนกลางและในพื้นที่ เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมเตรียมแผนเผชิญเหตุและมาตรการช่วยเหลือสถานศึกษาในพื้นที่เสี่ยง เพื่อให้สามารถดูแลนักเรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษาได้อย่างปลอดภัย โดยขอให้ผู้บริหารสถานศึกษาและคณะครูร่วมกันตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของอาคารเรียน ระบบไฟฟ้า และครุภัณฑ์ที่สำคัญ หากพื้นที่มีแนวโน้มที่อาจจะประสบน้ำท่วมหรืออยู่ในเขตเสี่ยง ขอให้เร่งเคลื่อนย้ายเอกสาร อุปกรณ์การเรียนการสอน และทรัพย์สินที่จำเป็นขึ้นที่สูง พร้อมเตรียมพื้นที่ปลอดภัยภายในโรงเรียน และชักซ้อมแผนอพยพอย่างรอบคอบ โดยยึดความปลอดภัยของนักเรียนและครูเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า หากพื้นที่ใดได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ขอให้สถานศึกษาพิจารณาปรับรูปแบบการจัดการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับสถานการณ์และบริบทของพื้นที่ เช่น ปรับเป็นการเรียนการสอนออนไลน์ การชะลอกิจกรรมที่อาจเสียงต่อความปลอดภัย ทั้งนี้ หากมีความจำเป็น สามารถพิจารณาปิดเรียนชั่วคราวได้ตามอำนาจของผู้อำนวยการสถานศึกษา โดยให้รายงานต่อสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทราบทันที นอกจากนี้ กระทรวงศึกษาธิการได้มอบหมายให้หน่วยงานส่วนกลาง โดยเฉพาะสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน (สช.) จัดเจ้าหน้าที่ประจำการตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเตรียมรับการประสานและให้ความช่วยเหลือสถานศึกษาในพื้นที่ประสบภัย พร้อมประสานงานร่วมกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) และหน่วยงานท้องถิ่น เพื่อให้ความช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็วและทั่วถึง
“กระทรวงศึกษาธิการจะติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และพร้อมให้ความช่วยเหลือสถานศึกษาในทุกพื้นที่อย่างเต็มกำลัง ขอให้ทุกโรงเรียนและหน่วยงานทางการศึกษาให้ความสำคัญกับการวางแผนรับมืออย่างรอบคอบ ทั้งในด้านความปลอดภัยของนักเรียน ครู และบุคลากร ตลอดจนการดูแลอาคารสถานที่และทรัพย์สินทางการศึกษาให้อยู่ในสภาพปลอดภัย หากพื้นที่ใดประสบปัญหาหรือได้รับผลกระทบ ขอให้รีบประสานหน่วยงานต้นสังกัดทันที เพื่อให้สามารถเข้าไปช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที และขอย้ำว่า ชีวิตและความปลอดภัยของครู-นักเรียนคือสิ่งที่มีค่าที่สุด กระทรวงศึกษาธิการจะอยู่เคียงข้างทุกโรงเรียนทุกพื้นที่ จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายและสามารถกลับเข้าสู่ภาวะปกติ” ศ.ดร.นฤมล กล่าว







