เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2564 น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ แถลงข่าวกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.)มอบของขวัญปีใหม่ พ.ศ. 2565 ให้แก่ประชาชน 6 โครงการ คืนความสุขให้กับครอบครัว-ดูแลเด็กพื้นที่ห่างไกล-พัฒนากำลังคนอาชีวะ-เสริมสร้างอาชีพ-ให้บริการ Fix it Center เพื่อส่งความสุขให้คนไทยทั้งประเทศ ดังนี้

  1. Chance – พาน้องกลับห้องเรียน” ค้นหาและติดตามเด็กตกหล่นและออกกลางคันกลับเข้าสู่ระบบการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ให้ความสำคัญอย่างยิ่งการเสริมสร้างโอกาสทางการศึกษาให้เด็ก เยาวชน และประชาชน อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพสูงสุด ภายใต้แนวคิดการศึกษาไทยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ด้วยการบูรณาการระหว่างหน่วยงานในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ได้แก่

               – สพฐ. ห่วงใย ปักหมุด นำนักเรียนไทย กลับสู่ห้องเรียน ค้นหาและติดตามเด็กตกหล่นและออกกลางคันกลับเข้าสู่ระบบการศึกษา ให้ได้รับการศึกษาอย่างมีคุณภาพและศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น รวมทั้งสร้างระบบเครือข่ายการส่งต่อข้อมูลสารสนเทศทางการศึกษาของเด็กตกหล่นและออกกลางคันที่กลับเข้าสู่ระบบการศึกษา และนำไปใช้ในการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ โดยสถานศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ทุกแห่ง และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา 245 เขต ดำเนินการปีงบประมาณ พ.ศ. 2565

           – กศน.ปักหมุด เพื่อสร้างโอกาสทางการศึกษาสำหรับคนพิการและผู้ด้อยโอกาส ปักหมุดบ้านคนพิการและผู้ด้อยโอกาส อายุ 18 ปีขึ้นไป จำนวน 12,649 คน ได้เข้าสู่ระบบการศึกษา โดย ครู กศน.ตำบล ลงพื้นที่สำรวจความต้องการของผู้พิการและผู้ด้อยโอกาสทางการศึกษา และนำข้อมูลเข้าสู่ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ caper พร้อมปักหมุดทุกบ้าน เพื่อจัดการศึกษาและการเรียนรู้ให้กับผู้พิการและผู้ด้อยโอกาสในสถานศึกษาสังกัด กศน. อย่างเหมาะสมตามศักยภาพและความต้องการจำเป็น และสามารถศึกษาต่อในระดับสูงขึ้น รวมทั้งสามารถประกอบอาชีพ มีงานทำ พึ่งพาตนเองได้ โดยเริ่มดำเนินการนำร่องไปเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2564 ณ จังหวัดระนอง และในช่วงระหว่างวันที่ 2 ธันวาคม 2564 – 7 มกราคม 2565 ดำเนินการต่อยอดขยายผลสู่ 18 จังหวัดตามเขตตรวจราชการ 17 เขต ประกอบด้วย จังหวัดชัยนาท ปทุมธานี กาญจนบุรี เพชรบุรี พัทลุง ปัตตานี ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี สระแก้ว อุดรธานี นครพนม ขอนแก่น นครราชสีมา ศรีสะเกษ ลำปาง พะเยา สุโขทัย และกำแพงเพชร

  1. ศ.ค.ส. ศึกษาธิการ ส่งความสุขให้น้องปีที่ 3 สำนักงาน กศน.จังหวัดทุกแห่ง/กทม. และ กศน.อำเภอ/เขต ส่งมอบความสุขให้กับน้อง ๆ เด็กด้อยโอกาส และผู้สูงอายุ ในพื้นที่ห่างไกล ทุรกันดาร และชายแดน จำนวน 46,400 คน โดยมอบสิ่งของ อาทิ ของเล่น อุปกรณ์การเรียน อุปกรณ์กีฬา เครื่องนุ่งห่ม ชุดกีฬา ขนม อาหารแห้ง ระหว่างวันที่ 17 ธันวาคม 2564 ถึง 8 มกราคม 2565
  2. อาชีวะ สร้างโอกาสทางการศึกษาให้เยาวชนเพื่อผลิตกำลังคนของประเทศ “อาชีวะอยู่ประจำ เรียนฟรี มีอาชีพ” มอบทุนเรียนฟรีต่อเนื่อง 3 ปี มีหอพัก อาหาร 3 มื้อ ให้นักเรียนจบ ม.3 ได้เรียนต่อ 100% ในสถานศึกษา ม.ปลาย (สพฐ.) และ ปวช. (สอศ.) จำนวน 5,000 คน
  3. ฝึกอบรมอาชีพระยะสั้น Re – Skill, Up Skill และ New – Skill แก่นักเรียน นักศึกษา ผู้ปกครองและประชาชน ภายใต้ศูนย์พัฒนาอาชีพและการเป็นผู้ประกอบการ กระทรวงศึกษาธิการ ประจำจังหวัด (Ministry of Education Career and Entrepreneurship Center)

          – สอศ. ฝึกอบรมวิชาชีพระยะสั้น  Re-Skill, Up-Skill และ New-Skill แก่นักเรียน นักศึกษา ผู้ปกครอง และประชาชน 38,500  คน ไม่น้อยกว่า 77 หลักสูตร ดำเนินการใน 77 ศูนย์ทั่วประเทศ บูรณาการการดำเนินงานร่วมกันระหว่าง สอศ. กศน. สพฐ. และ สช. ในพื้นที่ ดำเนินการระหว่าง 27 ธันวาคม 2564  ถึง 31 มกราคม 2565

กศน. ฝึกอบรมอาชีพ ฟรี 1 สัปดาห์ 1 อำเภอ 1 อาชีพ  โดยศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน 928 กลุ่ม ดำเนินการระหว่างวันที่ 4 – 10 มกราคม 2565 โดยฝึกอบรมอาชีพระยะสั้นและการเป็นผู้ประกอบการให้กับประชาชน  150,000 คน และสถานศึกษา 1 อาชีพ สร้างรายได้ ต่อยอดสู่วิสาหกิจชุมชน เป้าหมาย 928 กลุ่ม 10,208 คน

  1. อาชีวะอาสา ร่วมด้วยช่วยประชาชน เทศกาลปีใหม่ ปี พ.ศ. 2565 ออกบริการประชาชนช่วงเทศกาลปีใหม่ตลอด 24 ชั่วโมง ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2564 – 4 มกราคม 2565 โดยให้บริการจุดพักรถ-พักคน บนถนนสายหลักและสายรอง 225 ศูนย์ ทั่วประเทศ กิจกรรม พักรถ ได้แก่ บริการตรวจสภาพรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และกิจกรรมพักคน ได้แก่ บริการสอบถามข้อมูลเส้นทาง/สถานที่ท่องเที่ยว /ที่พัก /ร้านอาหาร และอื่น ๆ รวมทั้ง ให้บริการที่นั่งพักผ่อน /บริการน้ำดื่ม กาแฟ ผ้าเย็น เป็นต้น
  2. ศูนย์ซ่อมสร้างเพื่อชุมชน เพื่อลดรายจ่ายให้แก่ประชาชน ผ่านแอปพลิเคชัน “ช่างพันธุ์ R อาชีวะซ่อมทั่วไทย” ทีมช่างพันธุ์ R อาชีวะจิตอาสา จาก 100 ศูนย์ Fix it Center ทั่วไทย ออกให้บริการซ่อมถึงบ้านฟรี โดยประชาชนสามารถใช้บริการผ่านแอปพลิเคชัน ทำให้มีความสะดวก รวดเร็ว ลดเวลา ลดค่าใช้จ่าย
    ในการเดินทาง ไม่ต้องนำเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้มาที่ศูนย์บริการ อีกทั้งยังสอดคล้องกับสภาพสังคม และวิถีชีวิตยุคใหม่ New Normal สร้างความมั่นใจการใช้บริการช่างอาชีวะ และยังเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดี สร้างความภาคภูมิใจให้แก่ผู้เรียนที่ใช้ทักษะจากการลงมือปฏิบัติช่วยเหลือประชาชน และสามารถสร้างอาชีพได้ในอนาคต ดำเนินการตลอดเดือนมกราคม 2565 และให้บริการต่อเนื่องทั้งปี

“กระทรวงศึกษาธิการขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการส่งมอบ ส.ค.ส. หรือ ส่งความสุข ให้กับคนไทย  ในการสนับสนุน ส่งเสริมให้สังคมไทย เป็นสังคมที่เปี่ยมไปด้วยความสุข ซึ่งความสุขถือเป็นรากฐานสำคัญต่อการดำรงชีวิตอย่างมีคุณภาพ ตลอดจนสร้างโอกาสให้คนไทยทุกคนได้รับการศึกษาอย่างทั่วถึง และเท่าเทียม เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ สร้างให้เกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต ภายใต้แนวคิดและเป้าหมายทางการศึกษาที่ไม่ต้องการทิ้งใครไว้ข้างหลัง”รมว.ศึกษาธิการ กล่าว

0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest

0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments