เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2565  น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการพาน้องกลับมาเรียน ว่า หลังจากได้มีการทำบันทึกข้อตกลงระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ  ขณะนี้ผ่านมาแล้ว 1 เดือน พบว่า ทุกหน่วยงานได้ร่วมกันค้นหา และติดตามน้อง ๆ ให้กลับมาเรียนได้จำนวน 42,316 คน จากจำนวนนักเรียนที่หลุดจากระบบการศึกษา 110,755 คน อย่างไรก็ตามจากการสำรวจเพิ่มเติม พบว่า มีผู้พิการที่มีอายุมากกว่า 18 ปี ที่หลุดจากการศึกษาอีก 41,013 คน จึงเป็นภารกิจที่ทุกหน่วยงาน ต้องร่วมกันติดตามเด็กและเยาวชนให้กลับเข้าสู่ระบบการศึกษาอีก 109,452 คน หลังจากตามมาได้แล้ว 42,316 คน

รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่สามารถตามหาน้องๆ กลับเข้าสู่ระบบการศึกษาได้ แม้จะยังไม่ถึงครึ่งของจำนวนที่หลุดจากระบบ แต่กระทรวงศึกษาธิการก็ยังมุ่งมั่น และเดินหน้าเชิงรุกอย่างเต็มที่ที่จะตามหาน้องๆ ให้เจอ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่จะ “ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” เราให้ความสำคัญกับน้องทุกกลุ่ม และต้องการให้ทุกคนได้รับประโยชน์ทางด้านการศึกษาอย่างเท่าเทียมและเสมอภาค ได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพมาตรฐาน ซึ่งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่ควรจะได้รับ  อย่างไรก็ตาม สำหรับน้อง ๆ เด็กและเยาวชนที่จบชั้น ม. 3 แล้วไม่ได้เรียนต่อ หรือที่กำลังจะจบในปีนี้ ซึ่งรวมถึงผู้พิการด้วย แต่ครอบครัวไม่มีความพร้อมในการสนับสนุนทางการเงินเพื่อศึกษาต่อหรือการย้ายถิ่นฐาน หรือสูญเสียผู้นำครอบครัว หากมีความประสงค์จะเข้ารับการศึกษาต่อสายอาชีพ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(สอศ.)ก็มีโครงการอาชีวะอยู่ประจำ เรียนฟรี มีอาชีพ เป็นทางเลือกในการรองรับอยู่

ดร.อัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า วันนี้ยังมีเด็กและเยาวชนที่หลุดออกจากระบบอีกมาก ที่ สพฐ.กำลังเร่งรัดติดตาม และให้ความช่วยเหลือ คาดว่าในเดือนมีนาคม สพฐ.จะทราบจำนวนที่ติดตามได้ชัดเจนมากขึ้น ส่วนที่ไม่สามารถตามหาได้พบ เราจะส่งต่อให้พันธมิตรของเราช่วยติดตามต่อไป

ดร.สุเทพ แก่งสันเทียะ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) กล่าวว่า ในปีการศึกษา 2565 สอศ.สามารถให้การสนับสนุนน้อง ๆ ที่สนใจเข้าเรียนตามโครงการอาชีวะอยู่ประจำ เรียนฟรี มีอาชีพ จำนวน 8,445 คน ในวิทยาลัยการอาชีพ และวิทยาลัยเกษตร จำนวน 87 แห่ง ซึ่งเป็นการเรียนฟรี และมีที่พักมาตรฐานให้พักฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่ายตลอดระยะเวลา 3 ปีของการเรียน อีกทั้งยังสนับสนุนให้น้องๆ มีรายได้ผ่านการจัดทำโครงการหารายได้ระหว่างเรียน รวมถึงการหาแหล่งงานให้ทำภายหลังจบการศึกษาอีกด้วย คาดหมายว่าตลอด 10 ปีของโครงการ จะรับได้จำนวน 8 รุ่น มีน้องๆ ที่เข้าร่วมโครงการ ประมาณ 110,000 คน และขยายการดูแลของวิทยาลัยอาชีวศึกษาทั่วประเทศได้ครบ 77 จังหวัด รวม 169 สถานศึกษา

0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest

0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments