ส่องรองนายกฯเรียกคุยมติบอร์ดกพฐ.”ประพันธ์ศิริ”สอนมวย อย่าทำผิดกฏหมาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.)ได้มีมติเลื่อนประกาศใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ หลักสูตรแกนกลางฐานสมรรถนะ ในเดือนตุลาคม 2565 จากเดือนตุลาคม 2566 และเห็นชอบแผนการทดลองใช้ร่างหลักสูตรแกนกลางฐานสมรรถนะ โดยปีการศึกษา 2565 ทดลองใช้ในโรงเรียนนำร่องในพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา ปีการศึกษา 2566 ทดลองใช้ในโรงเรียนทั่วไปที่พร้อม และปีการศึกษา 2567 ใช้ในโรงเรียนทั่วประเทศในระดับประถมศึกษาปีที่ 1 และ ระดับประถมศึกษาปีที่ 4 นั้น  วันนี้ (27 เม.ย.) ศาสตราจารย์กิตติคุณ วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฐานะกำกับดูแลกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.)ได้เชิญ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(รมว.ศึกษาธิการ) ดร.สุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ศ.ดร.บัณฑิต เอื้ออาภรณ์ อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประธานบอร์ด กพฐ. ดร.อัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.)และ รศ.ดร.ประพันธ์ศิริ สุเสารัจ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา เข้าพบ เพื่อขอทราบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการพูดคุยในที่ประชุม มีการพูดคุยกันอย่างกว้างขวาง โดยสรุปได้ว่า ดร.บัณฑิต พยายามจะอธิบายเรื่องของหลักสูตรที่ต้องเร่งนำมาใช้ จะรอทำไม เพราะต้องมีการเปลี่ยนแปลงโดยเร็ว ซึ่ง รศ.ดร.ประพันธ์ศิริ จึงได้ถามขึ้นว่า ดร.บัณฑิต รู้เรื่องหลักสูตรหรือไม่และตอนนี้ก็ยังไม่มีหลักสูตร ไม่มีโครงร่างฯมีแต่กรอบคร่าว ๆ จะเอาอะไรมาใช้ อีกทั้ง Big Rock  ในแผนปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา มีเรื่องที่ต้องเร่งดำเนินการ ได้แก่ การสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษา, การจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาสมรรถนะแบบผู้เรียนสร้างความรู้ด้วยตนเองมุ่งเน้นกระบวนการเรียนรู้แบบถักทอความรู้ทักษะคุณลักษณะผู้เรียนเข้าด้วยกันด้วยการลงมือปฏิบัติจริง(Active learning)มุ่งเน้นให้ผู้เรียนสามารถเข้าใจและเรียนรู้อย่างมีความสุขและพัฒนาความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์,การปฏิรูปกลไกและระบบการผลิตและพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาให้มีคุณภาพมาตรฐาน ,การจัดการอาชีวศึกษา ที่เน้นการฝึกปฏิบัติอย่างเต็มรูปแบบนำไปสู่การจ้างงานและการสร้างงาน และ การปฏิรูปบทบาทการวิจัยและระบบธรรมาภิบาลของสถาบันอุดมศึกษาเพื่อสนับสนุนการพัฒนาประเทศไทยออกจากกับดักรายได้ปานกลาง ดังนั้นหากไม่ดำเนินการตามนี้ก็ถือว่าทำผิดกฎหมาย ซึ่งรองนายกฯก็ได้ย้ำว่าเรื่องนี้เป็นกฏหมาย ถ้าไม่ทำ หรือไม่ทำตาม สามารถร้องคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ปปช.)ได้

ท้ายสุด ศ.กิตติคุณ ดร.วิษณู สรุปเลยว่า ให้ใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 และมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดฯ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ไปก่อนแต่เปลี่ยนวิธีการสอนเป็นแบบActive Learning และถ้าจะใช้หลักสูตรฐานสมรรถนะ ก็ให้ใช้ในพื้นที่นวัตกรรมเท่านั้น ไม่ให้นำมาใช้นอกพื้นที่ ซึ่งเป็นข้อตกลงเดิม อีกทั้งยังกล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า เห็นว่ารัฐบาลจะไม่อยู่แล้ว จะทำยังไงก็ได้หรือ