เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2565 ดร.อัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.)เปิดเผย กรณี ผู้ปกครองนักเรียนหญิงโรงเรียนการศึกษาสงเคราะห์แห่งหนึ่งใน จ.เพชรบูรณ์ ถูกนักเรียนชายในโรงเรียน ขึ้นมาที่หอกักตัวเด็กหญิงที่ติดโควิด แล้วบังคับข่มขืนเด็กหญิงที่ไม่สมยอมต่อหน้าเพื่อน ซึ่งเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา แต่ทางโรงเรียนได้ปิดข่าว กลัวจะเสียชื่อเสียง จึงได้ร้องไปที่กระทรวงศึกษาธิการ ว่า โรงเรียนได้รายงานว่า วันหนึ่งมีนักเรียนติดโควิด ครูได้แยกเด็กที่ติดโควิดพักอีกชั้นหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้หญิงประมาณ 5-6 คน ซึ่งครูหอจะอยู่ชั้นล่างและให้นักเรียนกักตัวอยู่ชั้นบน ขณะที่ครูอยู่ชั้นล่างเด็กหญิงก็ได้ส่งสัญญาณให้เด็กผู้ชายขึ้นไปหาบนชั้นสอง และไปทำในสิ่งที่ไม่ควรทำ ตามที่เป็นข่าว ซึ่งครูก็ไม่รู้เหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นในคืนนั้น  จนกระทั่งเด็กผู้หญิงคนหนึ่งมาเล่าให้เพื่อนฟังว่ามีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น ซึ่งเด็กผู้หญิงคนที่เล่าให้เพื่อนฟังคนดังกล่าวไม่ได้สมยอมที่จะให้เด็กผู้ชายมานอนด้วย แต่เพื่อนบังคับให้ทำ

เลขาธิการ กพฐ.กล่าวต่อไปว่า อย่างไรก็ตาม เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.)มีความเป็นห่วงในเรื่องระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน หรือระบบดูแลเฝ้าระวังนักเรียนของโรงเรียน ที่ยังไม่เข้มข้นพอ ยังหละหลวมอยู่ ซึ่งไม่น่าจะเกิดขึ้นได้  สพฐ.ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ และได้ตั้งกรรมการสืบข้อเท็จจริง เพื่อจะดูว่าความบกพร่องดังกล่าวเกิดขึ้นจากอะไร ขณะเดียวกันเรื่องนี้ถือว่าเป็นความรับผิดชอบของ ผู้อำนวยการโรงเรียน ตนจึงมีคำสั่งให้ย้ายมาประจำอยู่ สพฐ.เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ส่วนเด็กแม้จะมีเจตนาหรือไม่เจตนาก็ตาม ก็ถือว่าอยู่ในวัยเรียน และต้องให้เขามีที่เรียน โดยตนจะเชิญผู้ปกครองมาหารือว่าจะให้เด็กเรียนอยู่ที่เดิม โรงเรียนก็ยินดี และจะให้ครูพี่เลี้ยงคอยดูแล หรือประสงค์อยากกลับไปเรียนโรงเรียนใกล้บ้าน หรือโรงเรียนอื่น สพฐ.ก็ยินดีอำนวยความสะดวกและจะประสานโรงเรียนให้ ทั้งนี้ตนได้กำชับไปยังสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ ให้สั่งการไปที่โรงเรียนให้หามาตรการป้องกันเรื่องดังกล่าวให้มีความเข้มงวดมากขึ้น ไม่ว่าจะเรื่องดังบกล่าวเกิดขึ้นที่โรงเรียนหรือไม่ก็ตาม

ด้าน น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่า ตนได้รับรายงานเรื่องดังกล่าวแล้ว เรื่องที่เกิดขึ้นถือเป็นความบกพร่องของผู้อำนวยการโรงเรียน ซึ่งทราบว่า สพฐ.ได้ได้สั่งการให้ผู้อำนวยการโรงเรียนมาปฏิบัติงานที่ส่วนกลางแล้ว และมีการตรวจสอบทุกคนที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะครูเวรที่ดูแลเด็กในวันที่เกิดเหตุ

“เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องที่มีความบกพร่อง ต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างละเอียด ถ้า สพฐ. ตรวจสอบแล้ว พบว่าละเลยจริงๆ  ให้ดำเนินการทางวินัยอย่างเต็มที่  ศธ.ต้องดูแลนักเรียนทุกคน โดยเฉพาะเด็กกลุ่มเปราะบางที่ต้องมาเรียนร่วมกัน ฉะนั้นในบริบทที่นักเรียนต้องมาอยู่ร่วมกันนั้น โรงเรียนต้องเคร่งครัดในระเบียบต่างๆ ด้วย” น.ส.ตรีนุช กล่าวและว่า ส่วนนักเรียนผู้หญิงที่ได้รับผลกระทบ และยังอยู่ในโรงเรียน ศธ.จะดูแลสภาพจิตใจนักเรียนอย่างเต็มที่ ตนจะไม่ทอดทิ้ง และไม่ต้องการให้นักเรียนออกจากโรงเรียน โดยจะประสานให้นักจิตวิทยา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลอย่างใกล้ชิด รวมทั้งดูแลเรื่องการจัดการศึกษาด้วย ตนไม่นิ่งนอนใจ และไม่เพิกเฉย เพราะถือเป็นเรื่องสำคัญ และได้เน้นย้ำให้โรงเรียนในกลุ่มโรงเรียนประจำว่าจะต้องไม่ละเลยและไม่ให้เรื่องนี้เกิดขึ้นอีก

0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest

0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments