เมื่อวัน 23 เมษายน 2566 เวลา 10.30 น. พระสุมณฑ์ศาสนกิตติ์ เจ้าคณะจังหวัดแม่ฮ่องสอน  เป็นประธานฝ่ายสงฆ์  นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานฝ่ายฆราวาส  ได้ร่วมพิธีบรรพชาสามเณรเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ  สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ 2 เมษายน 2566 โดยมี นายเชษฐา โมสิกรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน นายชัยพล สุขเอี่ยม อธิบดีกรมการศาสนา พร้อมด้วยผู้บริหารหน่วยงาน ในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ผู้ปกครองและพุทธศาสนิกชน รวมทั้งเด็กและเยาวชนที่เข้าร่วมโครงการ  ณ วัดในสอย จังหวัดแม่ฮ่องสอน

 นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.)กล่าวว่า การจัดประเพณีปอยส่างลอง หรือ การบวชลูกแก้ว รวมถึงการบรรพชาสามเณร นับเป็นประเพณีอันยิ่งใหญ่ที่น่าเลื่อมใสศรัทธาของชาวไทใหญ่ ซึ่งมีการสืบทอดกันมาอย่างยาวนาน เป็นการส่งเสริมประเพณีวัฒนธรรม ได้ร่วมอนุรักษ์ ฟื้นฟู เผยแพร่ประวัติศาสตร์ รากเหง้าทางวัฒนธรรม ศิลปะ ภูมิปัญญา ตลอดทั้งภาษาไทย ภาษาถิ่น หลาย ๆ ชาติพันธุ์ ที่มีอัตลักษณ์และความหลากหลายซ่อนเร้นในประเพณี เป็นการรวมพลังศรัทธาของชาวบ้าน ซึ่งกระทรวงวัฒนธรรม  โดยกรมการศาสนาได้จัดบรรพชาสามเณรตามประเพณีปอยส่างลอง เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ 2 เมษายน 2566

ปลัดวธ.กล่าวต่อไปว่า กระทรวงวัฒนธรรมได้ดำเนินการจัดบรรพชาสามเณรและบวชศีลจาริณีเพื่อเป็นต้นแบบมาแล้ว โดยในส่วนกลางที่ วัดยานนาวา และส่วนภูมิภาคที่วัดพนัญเชิง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา วัดพิชโสภาราม จังหวัดอุบลราชธานี และวัดราชบุรณะ จังหวัดชุมพร  รวมถึงการจัดงานบรรพชาสามเณรตามประเพณีปอยส่างลอง เมื่อวันที่ 3-5 เมษายน 2566 ที่ผ่านมา ที่ วัดปางล้อ จังหวัดแม่ฮ่องสอน  และในครั้งนี้ในวันที่ 22-24 เมษายน 2566 ที่ วัดในสอย  ตำบลปางหมู  จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยในวันที่ 22 เมษายน 2566 เป็นวันรับส่างลอง/เรียกขวัญส่างลอง ปลงผมส่างลอง (จางลอง)และแห่ส่างลองเพื่อขอขมาพระสงฆ์/สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ (ศาลเจ้าเมือง)ขอขมาผู้ใหญ่บ้าน  และผู้ใหญ่ในหมู่บ้านที่เคารพนับถือ และวันที่ 23 เมษายน 2566 จะเคลื่อนขบวนแห่ปอยส่างลองเครื่องไทยธรรมและอัฐบริขารต่างๆ (ครัวหลู่) พิธีผูกข้อมือรับขวัญส่างลองเพื่อให้ญาติผู้ใหญ่ได้ผูกข้อมืออวยพร ให้พรแก่ส่างลอง และพิธีบรรพชาสามเณร (ข่ามส่าง) ตามประเพณีของชาวไทใหญ่ ในวันที่ 24 เมษายน 2566 และพิธีบรรพชาอุปสมบท (ข่ามจาง) ณ วัดในสอย

“ในปีงบประมาณ 2566 กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนา จะร่วมกับ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด หน่วยงานเครือข่ายในพื้นที่นำร่อง 76 จังหวัด ดำเนินโครงการบรรพชาสามเณรและบวชศีลจาริณีทั่วประเทศ ตั้งแต่เดือนมีนาคม  ถึงเดือน พฤษภาคม 2566  มีเด็กและเยาวชนเข้าร่วมโครงการ จำนวนกว่า 10,000 คน เป็นการเปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนได้แสดงความจงรักภักดี ทำความดีด้วยการบรรพชาสามเณรและบวชศีลจาริณีเพื่อถวายพระราชกุศล อีกทั้งยังเป็นการแสดงออกถึงความกตัญญูกตเวทิตาต่อบุพการีและผู้มีอุปการคุณอีกด้วย ซึ่งเด็กและเยาวชนที่เข้าร่วมโครงการจะได้ศึกษาและปฏิบัติธรรม อาทิ ธรรมวินัย พุทธประวัติ เทศนา ศาสนพิธี ภาวนาและฝึกสมาธิ เป็นการพัฒนาจิตให้สงบ ทั้งยังเป็นการจรรโลงศาสนาทำให้เกิดศาสนทายาทในบวรพระพุทธศาสนา  และสืบสานประเพณี ท้องถิ่นที่ดีงามให้คงอยู่คู่สังคมไทยสืบไป ซึ่งสิ่งที่ก่อให้ประโยชน์ที่ได้รับหลังการบวช จะทำให้เด็กและเยาวชนจะได้น้อมนำหลักธรรมคำสอนทางพระพุทธศาสนาไปปรับใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวัน ช่วยให้เกิดปัญญาในการเรียน ค่านิยมทำความดี มีคุณธรรมจริยธรรม มีวินัย รับผิดชอบ มีจิตสาธารณะ มีความกตัญญู ส่งผลให้มีจิตใจที่เข้มแข็ง เป็นคนดี คนเก่ง และคนมีคุณภาพ เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาสังคมและประเทศชาติในเจริญรุ่งเรืองสืบไป”นางยุพา กล่าว

0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest

0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments