เมื่อวันที่ 9 พ.ค.2566 คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 7-8 พ.ค.ที่ผ่านมา ตนได้ลงไปพื้นที่ไร่แสนดี จังหวัดมหาสารคาม ดำเนินการโดยวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีมหาสารคาม วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีร้อยเอ็ด และวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีศรีสะเกษ เพื่อติดตามการดำเนินโครงการเกษตรประณีตทฤษฎีใหม่ 1 ไร่ มีรายได้ 100,000 บาทเดือน (เฉลี่ยทั้งปี)ทั้งนี้ จากการลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานการวางแผนการทําเกษตรอย่างเป็นระบบ (Coding for farm) สู่โครงการเกษตรประณีตทฤษฎีใหม่ ภายใต้แนวคิด “ทําเกษตรบนเนื้อที่ 1 ไร่ มีรายได้ 100,000 บาทต่อเดือน (เฉลี่ยทั้งปี) โดยกลุ่มเป้าหมาย คือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ไวรัสโคโรนา 2019 ผู้ที่ถูกเลิกจ้างงานและกลับถิ่นฐาน ตลอดจนคนที่สนใจเพิ่มทักษะด้านการเกษตร ให้มีโอกาสในการสร้างอาชีพ ด้วยการเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถ สร้างคน สร้างงาน ให้เกิดรายได้ เกิดการพัฒนาให้มีองค์ความรู้และทักษะต่อยอดอาชีพเกษตร เสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน เพื่อขับเคลื่อนฟื้นฟูเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ พร้อมปรับตัวรองรับต่อการเปลี่ยนแปลงในสถานการณ์ ปัจจุบันและอนาคตได้

รมช.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า โครงการเกษตรประณีตทฤษฎีใหม่ จัดขึ้นระหว่างพฤษภาคม-มิถุนายน 2566 มีหลักสูตรการอบรม ได้แก่ 1.เพื่อการวางแผนการทำการเกษตรอย่างเป็นระบบ (Coding for farm) เช่น การวิเคราะห์และสร้างทางเลือกในการผลิตและบริการ 2.การจัดการบริหารน้ำอย่างเป็นระบบ เช่น การเก็บกักน้ําและการระบายน้ำเพื่อการเกษตร หลักการใช้น้ําเพื่อประโยชน์ในการปลูกพืชอย่างมีประสิทธิภาพ 3.การปลูกพืช เช่น การปลูกข้าวโพดหวานระบบแม่นยํา การผลิตผักปลอดภัย การปลูกพืชไร่ผลิตอาหารสัตว์ 4.การเลี้ยงสัตว์ เช่น การเลี้ยงสัตว์ปีก การเลี้ยงโคพื้นเมือง การเลี้ยงกบ และการวางแผนการทําเกษตรอย่างเป็นระบบ ซึ่งการอบรมแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ภาคทฤษฎี 7 วัน (1 สัปดาห์) และภาคเรียนปฏิบัติ 21 วัน (3 สัปดาห์)โดยมีระยะเวลาอบรมรวม 1 เดือน โดยผู้ที่เข้ารับการอบรมและผ่านเกณฑ์จะได้รับเงินเริ่มต้นการลงทุน 1,300 บาท ต่อคน เพื่อใช้ในการประกอบอาชีพ ทั้งนี้ได้นำหลักสูตรการบริหารจัดการน้ำเพื่อการเกษตร (หลักสูตรชลกร) มาต่อยอดบูรณาการในหลักสูตร และในการอบรมยังได้รับความร่วมมือและให้การสนับสนุนจากเครือข่ายหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ประชาชนในชุมชน และวิสาหกิจชุมชนในพื้นที่ เช่น วิสาหกิจชุมชนผู้เลี้ยงโค วิสาหกิจชุมชนปลูกผักเพื่อสมุนไพรผลิตผลิตภัณฑ์ ร่วมกับครูจากวิทยาลัยในการให้องค์ความรู้ส่งต่อให้กับผู้รับการอบรม โดยเป็นไปอย่างเหมาะสมกับบริบทของพื้นที่ และเป็นไปตามมาตรฐานของหลักสูตร ซึ่งการดำเนินโครงการโดยสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) จะติดตามและประเมินผลจากการไปประกอบอาชีพเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์และเป้าหมาย โดยผู้ที่สนใจสามารถสมัครและเข้ารับการอบรมได้ทันทีที่วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีและประมง สังกัด สอศ. ทั้ง 47 แห่ง ทั่วประเทศ และวิทยาลัยการอาชีพโนนดินแดน จังหวัดบุรีรัมย์ และวิทยาลัยการอาชีพดอนตาล จังหวัดมุกดาหาร รวม 49 แห่ง

“ในพื้นที่ชุมชนของวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีมหาสารคาม วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีร้อยเอ็ด และวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีศรีสะเกษ ได้รับการตอบรับจากประชาชนในชุมชนเป็นอย่างดี นับได้ว่าเป็นที่น่ายินดีที่เกษตรกรและประชาชนให้ความสนใจเข้าร่วมการอบรม นอกจากการต่อยอดในอาชีพแล้ว ยังได้รับทุนในการประกอบอาชีพอีกด้วย จึงอยากชวนให้เกษตรกรและผู้ที่ต้องการมีอาชีพเข้าร่วมอบรม สิ่งสำคัญ อยากให้เลี้ยงตัวเองได้ เลี้ยงครอบครัว และเรียนรู้การจัดสรรอย่างเป็นระบบ การปลูกพืชผสมผสาน การจัดการน้ำ ดิน พืช และสัตว์ให้เกิดประโยชน์สูงสุดบนพื้นที่ พึ่งพาตนเองได้ วางแผนประเทศไทยให้เป็นผู้ผลิตอาหารเลี้ยงชาวโลก คนไทยจะมีอาชีพที่มั่นคง อยู่ดี กินดี มีคุณภาพ อย่างยั่งยืน”ดร.คุณหญิงกัลยา กล่าว

0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest

0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments