*** หยอก หยอก วันที่ 11 มีนาคม 2567 *** “คนรู้ใจไม่ค่อยมี คนรู้ดีเต็มไปหมด” *** เริ่มแล้วกับฤกษ์รายงานตัวและสอบสัมภาษณ์ผู้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหาร ระดับต้น กระทรวงศึกษาธิการ จำนวน 6 ตำแหน่ง 13 อัตรา ใน 5 หน่วยงาน ประกอบด้วย รองศึกษาธิการภาค (ศธภ.) 7 อัตรา, รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเรียนรู้ (สกร.) 2 อัตรา, รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) 1 อัตรา ,รองเลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา(ก.ค.ศ.) 1 อัตรา ,ผู้ช่วยปลัดกระทรวงศึกษาธิการ 1 อัตรา และผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) 1 อัตรา โดยในวันที่ 11 มีนาคม รายงานตัวและสอบสัมภาษณ์รอบเช้าตำแหน่งรองเลขาธิการ ก.ค.ศ. รอบบ่าย รองศึกษาธิการภาค วันที่ 12 มีนาคม รายงานตัวและสอบสัมภาษณ์ตำแหน่งผู้ช่วยปลัดศธ. ผู้ช่วยเลขาธิการ กพฐ.และ รองเลขาธิการ กช. และ สุดท้ายวันที่ 13 มีนาคม รายงานตัวและสอบสัมภาษณ์ตำแหน่งรองอธิบดี สกร. โดยส่วนใหญ่ผู้มีคุณสมบัติครบถ้วน คนเดียวจะสมัครทั้ง 5 หน่วยงาน ซึ่งก็สามารถทำได้ *** ทั้งนี้จะสังเกตได้ว่า สอบสัมภาษณ์ในวันที่ 12 มีนาคม ตำแหน่งผู้ช่วยปลัด ศธ.กับตำแหน่งผู้ช่วยเลขาธิการ กพฐ.สอบสัมภาษณ์ในวันเวลาเดียวกัน *** ฮะฮะฮ่า…มีอะไรในก่อไผ่วังจันทร์เกษมมั้ยน้อ…แต่เขาก็ว่ากันว่ามีการวางตัวแต่ละตำแหน่งมากันแล้ว..เด้อออ…อุบ! *** ลือกันให้แซ่ดว่า อรรถพล สังขวาสี เลขาธิการสภาการศึกษา ที่ถูกหักอกย้ายไปอยู่สภาการศึกษา จะลาออกไปสมัครสมาชิกวุฒิสภา(สว.)เลยต่อสายตรงสอบถามให้หายคาใจ…ได้คำตอบชัดเจนว่า…รอเกษียณจร้า…ทราบแล้วก็เลิกลือกันซะ..***แต่ที่แน่ ๆ ดร.อัมพร พินะสา อดีตเลขาธิการ กพฐ. และ ดร.บุญรักษ์ ยอดเพชร อดีตเลขาธิการ กพฐ. ที่เกษียณอายุราชการในตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(กอศ.) ควงคู่กัน สมัคร สว.แน่นอน…เก่งทั้งคู่ สว.สายการศึกษาจะหลุดไปได้ไง…จริงมั้ย? *** ปรับโหมดใหม่ เมื่อเร็ว ๆ นี้ มีข่าวเรื่องเด็กติดต่อกันทั้งทางลบและทางบวก ซึ่ง “เสมา1” พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้ความสำคัญและแสดงความเป็นห่วง โดยเฉพาะความรุนแรงในเด็กและเยาวชน เนื่องจากเป็นช่วงวัยที่กำลังเรียนรู้และยังมีความเปราะบางทางอารมณ์ การนำเสนอภาพความรุนแรงต่อเด็กอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตของเด็ก หรือเกิดพฤติกรรมเลียนแบบได้ งานนี้ร้อนถึง ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการ กพฐ. ที่กุมบังเหียนการศึกษาขั้นพื้นฐาน ต้องส่ง เกศทิพย์ ศุภวานิช รองเลขาธิการ กพฐ. ออกมาปราม พร้อมวิงวอนผู้ใช้โซเชียลมีเดียทุกช่องทาง งดเผยแพร่ภาพความรุนแรงต่อเด็กในทุกกรณี และให้นำออกจากสื่อต่าง ๆ เพื่อป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพจิตของเด็ก หากพบว่าสื่อประเภทใดมีเจตนาที่จะทำให้เกิดความเสียหายต่อจิตใจ ชื่อเสียง เกียรติคุณ หรือสิทธิประโยชน์ของเด็ก เป็นการฝ่าฝืนข้อห้าม ตามมาตรา 27 แห่ง พ.ร.บ. คุ้มครองเด็ก พ.ศ 2546 มีโทษตามมาตรา 79 ของ พ.ร.บ.เดียวกัน จำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หน่วยงานที่มีหน้าที่เกี่ยวกับการคุ้มครองเด็ก สามารถแจ้งความได้…ทราบแล้วเปลี่ยน … งานนี้ สพฐ.เอาจริง ไม่ใช่แค่ขู่แล้วนะ ใครจะเป็นรายแรกรอดูกัน***

0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest

0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments