เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.2568 นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะโฆษกกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยวิสามัญ(พิเศษ)เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ที่ผ่านมา งบประมาณที่กระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.)ได้รับการจัดสรรจำนวน สามแสนห้าหมื่นบาทเศษ(355,108.4775)ต้องมีการนำไปเสนอถึงสาเหตุความจำเป็น ซึ่ง ศธ.คงไม่ทำคำขอแปรญัตติเพิ่ม แต่จะขอแค่โครงการที่ตกหล่นตามมติคณะรัฐมนตรี(ครม.)ที่ออกมาหลังคำของบประมาณเข้าเล่มไปแล้ว ซึ่งงบฯดังกล่าว ศธ.จะต้องของบประมาณมาขับเคลื่อนต่อไป เช่น เงินอุดหนุนรายบุคคลในส่วนของเงินสมทบเป็นเงินเดือนครู ของ สำนักงานส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.)  เงินอุดหนุน เพื่อเป็นค่าตอบแทนผู้สอนในศูนย์การศึกษาอิสลามประจำมัสยิด (ตาดีกา)และ แผนส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย “3 เร่ง 3 ลด 3 เพิ่ม”ซึ่งจะต้องมีงบประมาณมาดำเนินการเพื่อพัฒนาความรู้ใหม่ ๆ ต่อไป

นายสิริพงศ์ กล่าวต่อไปว่า ส่วนโครงการส่งเสริมการเรียนรู้ขั้นพื้นฐานทุกที่ ทุกเวลา Anywhere Anytime”ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.)ตอนนี้อยู่ในช่วงการเชิญชวนบริษัทเข้ามาจัดซื้อจัดจ้าง โดยวิธีการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์(e-bidding)ซึ่งจะมีการเสนอประกวดราคาประมาณต้นเดือนกรกฎาคมนี้  ทั้งนี้การดำเนินการดังกล่าวเราจะต้องได้ของที่มีคุณภาพสูง เพราะเด็กจะต้องใช้ถึง 5 ปี ดังนั้นจึงต้องมีการพิจารณาอย่างรอบคอบ ส่วนการจัดพิมพ์หนังสือเรียนองค์การค้าของสำนักงานส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา(สกสค.)นั้นคงต้องปรับรูปแบบใหม่ ซึ่งประเด็นที่สมาชิกสภาผู้ราษฎรอภิปรายก็มีคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าเรื่องที่มีปัญหามากก็คือเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างพิมพ์หนังสือ ดังนั้นเราก็ต้องมาปรับรูปแบบบริหารจัดการใหม่ ให้ถูกต้อง โปร่งใส

0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest

0 Comments
Oldest
Newest Most Voted
Inline Feedbacks
View all comments