เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2568 ดร.รังสิสวุฒิ สุวรรณ์โรจน ผู้อำนวยการ(เชี่ยวชาญ) ศูนย์การศึกษาพิเศษ เขตการศึกษา 11 จังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า ตนได้ทำหนังสือ ขออุทธรณ์ร้องทุกข์การสอบบรรจุครูผู้ช่วย กรณีที่มีความจำเป็นหรือมีเหตุพิเศษ ปี พ.ศ.2568 ต่อ ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.)ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) สำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.)โดยยื่นหนังสือผ่านสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ เพื่อขอให้ทบทวนการประเมินให้คะแนน ภาค ค ของคณะกรรมการประเมินที่อาจไม่ชอบด้วยกฎหมาย จากผู้สมัครเข้ารับการคัดเลือกเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเข้ารับราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย กรณีที่มีความจำเป็นหรือเหตุพิเศษ สังกัดสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ (สศศ.) ซึ่งใช้เกณฑ์ ว2/2567 ตามหนังสือคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ที่ 0206.6/148 ลงวันที่ 10 มีนาคม 2568
ดร.รังสิสวุฒิ กล่าวต่อไปว่า สืบเนื่องจาก ขณะนี้มีผู้สมัครสอบฯหลายรายได้ร้องขอความเป็นธรรมในการให้คะแนนภาค ค ของคณะกรรมการประเมินฯ นายณัฐศวิชญ์ สุวรรณ์โรจน์ บุตรชายของตนซึ่งเป็นผู้พิการทางการได้ยิน ก็ได้สมัครสอบในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน ซึ่ง นายณัฐศวิชญ์ ได้ทำบันทึกคะแนนภาค ค ว่า เขาเป็นพนักงานราชการในศูนย์การศึกษาพิเศษ เขต 11 ระยะเวลาการทำงาน 7 ปี 6 เดือน 10 วัน แต่ได้คะแนนประเมินภาค ค ซึ่งเป็นคะแนนวิทยาศาสตร์ล้วน ๆ เพียง 24 คะแนน เท่านั้น ซึ่งดูตามหลักเกณฑ์แล้วเป็นไปไม่ได้ เพราะคะแนนวิทยาศาสตร์ มีองค์ประกอบการประเมินที่ชัดเจน เช่น ประวัติและผลงานซึ่งได้รับการรับรองจากผู้อำนวยการสถานศึกษา คะแนนรวม 50 คะแนน แยกเป็น 1) ระยะเวลาหรือจำนวนปีที่ปฏิบัติหน้าที่สอนในสถานศึกษา 1.1) ระยะเวลาตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไป 20 คะแนน 1.2) ระยะเวลาตั้งแต่ 1-15 ปี ปีละคะแนน เป็นต้น ซึ่งนายณัฐศวิชญ์ รวมคะแนนแล้วหายเป็น 10 คะแนน เมื่อประกาศผล ของทุกๆคนใด้เห็นสิ่งผิดปกติ จึงให้กลุ่มบุคคลศูนย์ฯรวบรวมข้อมูล ปรากฏว่ามี 1 คน ทั้ง ๆ ที่ทำงานใด้ไม่กี่ปีและสอบข้ามภาคใด้คะแนนสูงมาก 48 คะแนน ขณะที่ ลูกชายตนใด้คะแนน เพียง 24คะแนน ซึ่งตนก็ได้ทักท้วงไปยังผู้เกี่ยวข้อง สศศ.ให้คณะกรรมการยืนยันคะแนน และคณะกรรมการได้ยืนยันคะแนนเดิม ตนจึงได้ทำหนังสือขออุทธรณ์ร้องทุกข์ในวันนี้ อย่างไรก็ตาม คะแนน ภาค ก และภาค ข ตนไม่ได้ติดใจ แต่ภาค ค อาจไม่ชอบด้วยกฎหมาย คะแนนส่วนนี้ไม่ปกติ ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ ซึ่งครูสอนคนพิการต้องรักษาสิทธิของตัวเอง เพราะเขาทุ่มเทสอนและอยู่กับเด็กที่มีความจำเป็นพิเศษมาหลายปี บางคนสอนและอยู่กับเด็กเหล่านี้มาเป็น 10 ๆ ปี ก็ยังสอบไม่ได้ เพราะไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการประเมินคะแนนภาค ค ที่เห็นได้ชัดเจนก็คือกลุ่มภาคกลาง ที่คะแนนโดดสูงกันมาก ถ้าเราไม่ออกมาพูดพวกนี้ก็จะย่ามใจจะเกิดเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกเรื่อย ๆ