เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2568 ว่าที่ร้อยตรีธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ว่า ที่ประชุมหารือเรื่องการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนลำไย ที่กำลังประสบปัญหาลำไยล้นตลาด ซึ่ง สพฐ.ได้รับการประสานจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขอความร่วมมือ เนื่องจาก สพฐ.มีโครงการอาหารกลางวัน ที่มีการจัดเมนูอาหารกลางวัน Thai Scholl Lunch โดยกำหนดว่า ทุกมื้อจะต้องมีผลไม้ ดังนั้น จึงคิดว่าจะเข้าไปช่วยเหลือเกษตรกรในส่วนนี้ได้ โดยเบื้องต้น คาดว่าจะสามารถช่วยสนับสนุนเกษตรกรได้กว่า 80,000 กิโลกรัม เพื่อให้เกษตรกรอยู่ได้ เป็นการสร้างรายได้ให้เกษตรกรและเป็นการการช่วยกระจายสินค้าในประเทศ และในอนาคตหากมีสินค้าการเกษตรอื่น ๆ หรือ ผลไม้ เช่น เงาะ มังคุด สับปะรด ที่ล้นตลาด สพฐ. ก็ยินดีเข้าไปช่วยเหลือสนับสนุนอย่างเต็มที่เช่นเดียวกัน
เลขาธิการ กพฐ. กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ที่ประชุมยังหารือเรื่อง การลดภาระครู ซึ่งเป็นนโยบายที่ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.ศึกษาธิการให้ความสำคัญ โดยที่ประชุมได้มอบหมายให้ นายพัฒนะ พัฒนทวีดล รองเลขาธิการ กพฐ. ไปกำหนดรายการ เพื่อออกเป็นประกาศ สพฐ. ว่า เรื่องใดบ้างที่ครูไม่จำเป็นต้องปฏิบัติ เพื่อให้มีการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม เนื่องจากที่ผ่านมามีแต่พูดว่าให้ลดภาระครู แต่ไม่มีความชัดเจนใด ๆ แต่จากนี้ไปจะออกเป็นประกาศที่ชัดเจน ส่วนการเกลี่ยอัตรากำลังครูเกินเกณฑ์ ไปเป็นสายสนับสนุน แหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค. (2)นั้น เนื่องจากแต่ละปี สพฐ. มีอัตราเกษียณกว่า 10,000 อัตรา ซึ่งบางตำแหน่งอยู่ในโรงเรียนที่ไม่สามารถคืนเป็นครูผู้สอนได้ ก็จะนำมาเปลี่ยนเป็นสายสนับสนุน ส่วนโรงเรียนที่ครูเกินเกณฑ์อยู่ก็ต้องมีระเบียบหลักเกณฑ์ที่จะดำเนินการ แต่หากเกิดเกณฑ์แล้วไม่มีคนครองตำแหน่งอยู่ก็จะขอเปลี่ยนมาเป็นสายสนับสนุน เพื่อลดภาระครูในส่วนของงานพัสดุการเงินธุรการเพื่อให้ครูมีเวลาสอนเต็มที่
“ทั้งนี้ขอยืนยันว่า การดำเนินการดังกล่าว จะไม่ไปเกลี่ยตำแหน่งครูที่มีตัวตนอยู่ เพื่อไปสร้างภาระให้กับครู ทุกอย่างมีขั้นตอน มีระเบียบอยากให้ทุกคนได้เข้าใจ อย่างเช่น ธุรการ ขณะนี้มีสองกลุ่ม คือ กลุ่มเงินเดือน 9000 บาท ซึ่งจะทำงานประจำโรงเรียน 1 โรง ส่วนธุรการ 15,000 บาท ก็ขอความร่วมมือให้ดูแล 2 โรงเรียนที่อยู่ใกล้เคียงกัน เพื่อไม่ให้เป็นภาระในการเดินทาง นอกจากนี้ขอแจ้งเป็นข่าวดีว่า เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคมที่ผ่านมา ผมได้ทำหนังสือไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น กรมบัญชีกลาง หรือ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน(ก.พ.) เพื่อขอปรับอัตราค่าจ้าง ธุรการจากเงินเดือน 9,000 บาท เป็น 13,000 บาท และ 15,000 บาท เป็น 18,500 บาท รวมถึงเสนอเปลี่ยนตำแหน่งธุรการอัตราเงินเดือน 15,000 บาท เป็นนักจัดการทั่วไปเพื่อให้ได้รับสิทธิประโยชน์อื่น ๆ เพิ่มขึ้น” ว่าที่ร้อยตรีธนุ กล่าว
เลขาธิการ กพฐ. กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ที่ประขุมยังรายงาน ความคืบหน้าการการสอบคัดเลือกบุคลากรฯ ตำแหน่งผู้อำนวยการและรองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ผู้อำนวยการและรองผู้อำนวยการสถานศึกษา รวมถึงครูผู้ช่วย โดยตำแหน่งรอง ผอ.สพท. ผู้สมัคร 1,304 คน มีตำแหน่งว่าง 13 อัตรา ตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงเรียน ผู้สมัคร 598 คน มีตำแหน่งว่าง 594 อัตรา ตำแหน่ง รองผู้อำนวยการโรงเรียน ผู้สมัคร 3,767 คน มีตำแหน่ง ว่าง 569 อัตรา และตำแหน่งครูผู้ช่วย ผู้สมัคร 77,053 คน มีตำแหน่งว่าง 1,297 อัตรา โดยการดำเนินการทั้งหมด สพฐ.ได้จ้างให้สถาบันอุดมศึกษาซึ่งเป็นหน่วยงานที่เป็นกลางที่สุดเป็นผู้ดำเนินการจัดสอบ