เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2568 ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา โฆษกกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ แสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในหลายจังหวัดภาคใต้ โดยเฉพาะเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ซึ่งมีฝนตกหนักตลอดคืน ส่งผลให้ระดับน้ำเพิ่มสูงในหลายชุมชน ถนนสายสำคัญถูกตัดขาดเป็นช่วง ๆ โดยเฉพาะย่านเศรษฐกิจและย่านชุมชนหนาแน่น ขณะที่สถานศึกษาหลายแห่งจำเป็นต้องปิดเรียนชั่วคราวเพื่อป้องกันความเสี่ยงต่อการเดินทางของนักเรียน-นักศึกษาและครู รวมถึงเพื่อให้ผู้บริหารสามารถจัดการมาตรการด้านความปลอดภัยได้อย่างรอบคอบ
โฆษก ศธ. กล่าวว่า รมว.ศึกษาธิการ ได้สั่งการให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและศึกษาธิการจังหวัดทุกจังหวัดพื้นที่ภาคใต้ประเมินสถานการณ์ตลอดเวลา และรายงานข้อมูลสู่ส่วนกลางอย่างต่อเนื่องทันท่วงที เพื่อให้สามารถสนับสนุนการช่วยเหลือได้ทันต่อความเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะจังหวัดสงขลา นครศรีธรรมราช พัทลุง ตรัง สตูล ชุมพร และสุราษฎร์ธานี ที่ยังมีฝนตกหนักในบางพื้นที่ พร้อมกำชับให้สถานศึกษาตรวจสอบจุดเสี่ยงต่าง ๆ อย่างละเอียด ทั้งความมั่นคงปลอดภัยของอาคาร ระบบไฟฟ้า เครื่องสูบน้ำ ระบบระบายน้ำ และเส้นทางเข้า–ออกโรงเรียน หากพบว่าน้ำเริ่มหลากเข้าพื้นที่ ให้รีบย้ายอุปกรณ์การเรียนการสอน ครุภัณฑ์ และเอกสารสำคัญขึ้นที่สูงทันที พร้อมจัดพื้นที่ปลอดภัยไว้รองรับนักเรียนที่อาจต้องอยู่ในความดูแลในกรณีฉุกเฉิน ในส่วนของการจัดการเรียนการสอน ศ.ดร.นฤมลได้ให้นโยบายชัดเจนว่า ให้สถานศึกษาประเมินสถานการณ์ โดยสามารถจัดการเรียนการสอนออนไลน์ มอบหมายงาน หรือชะลอกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อความปลอดภัยได้ ทั้งนี้ ผู้อำนวยการสถานศึกษามีอำนาจประกาศปิดเรียนได้ทันทีหากพื้นที่ไม่ปลอดภัย โดยไม่จำเป็นต้องรอคำสั่งจากส่วนกลาง ทั้งนี้ เพื่อป้องกันการเดินทางที่อาจเกิดอันตรายและไม่เพิ่มภาระให้ผู้ปกครอง รวมถึงกรณีที่เปิดการเรียนการสอน ก็สามารถผ่อนปรนเรื่องการแต่งกายของนักเรียนเพื่อมาเรียนได้ตามความเหมาะสมได้
นอกจากนี้ กระทรวงศึกษาธิการได้จัดเจ้าหน้าที่ส่วนกลางประจำการตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อรับการประสานงานจากพื้นที่ประสบภัย พร้อมเตรียมทีมสนับสนุนจากหน่วยงานในสังกัด ทั้งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน (สช.) ในการตรวจสอบระบบอาคาร ระบบไฟฟ้า และการฟื้นฟูเบื้องต้นเมื่อระดับน้ำลดและสามารถเข้าพื้นที่ได้อย่างปลอดภัย รวมถึงประสานทำงานร่วมกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการอพยพ ดูแลครู–นักเรียน และจัดการเหตุเร่งด่วนในพื้นที่
“สถานการณ์ที่หาดใหญ่และหลายจังหวัดภาคใต้ในวันนี้สะท้อนให้เห็นว่าน้ำท่วมฉับพลันอาจเกิดขึ้นได้รวดเร็วมาก ขณะเดียวกัน ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือก็กำลังเผชิญอากาศหนาวเย็นลงต่อเนื่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้เน้นย้ำ กำชับให้ผู้บริหารการศึกษาและผู้บริหารสถานศึกษาทุกจังหวัดติดตามประกาศเตือนภัยอย่างใกล้ชิด ปรับแผนดูแลครูและนักเรียนให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ และรายงานสถานการณ์เข้าส่วนกลางอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้การสนับสนุนสามารถดำเนินไปได้ตรงกับความจำเป็นของพื้นที่ในทุกช่วงเวลา” ว่าที่ร้อยตรี ธนุ กล่าว







