หลังเปิดให้โรงเรียนรัฐยืดหยุ่นจำนวนนักเรียนต่อห้องได้มากกว่า 40 คน ปรากฎเด็กกว่า 4,000 คนขอลาออกจากโรงเรียนเอกชนไปใช้สิทธิเข้าเรียนพื้นที่บริการ ขนาดเปิดเรียนแล้วเกือบอาทิตย์หน้ายังมาลาออก แค่อ้างยังไม่มีที่เรียนก็รับแล้ว

จากกรณีที่คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.)เห็นชอบให้คณะกรรมการสถานศึกษาและ คณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด(กศจ.) พิจารณายืดหยุ่นจำนวนนักเรียนต่อห้อง จาก 40 คน และจำนวนห้องเรียน ได้ตามความเหมาะสม และตามสภาพปัญหาของแต่ละพื้นที่ โดยคำนึงถึงคุณภาพของนักเรียน และความเดือดร้อนของประชาชนที่เกี่ยวข้องกับการรับนักเรียนปีการศึกษา 2561 เนื่องจากกระทรวงศึกษาธิการได้รับร้องเรียนว่าการกำหนดจำนวนนักเรียนต่อห้องที่ 40 คนทำให้นักเรียนในเขตพื้นที่บริการบางส่วนไม่มีโอกาสเข้าเรียนในพื้นที่บริการได้ นั้น ผศ.ดร.ศุภเสฏฐ์ คณากูล นายกสมาคมคณะกรรมการประสานและส่งเสริมการศึกษาเอกชน (ส.ปส.กช.) เปิดเผยว่า จากการยืดหยุ่นดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อโรงเรียนเอกชนอย่างมาก เนื่องจากการประกาศยืดหยุ่นเกิดขึ้นก่อนเปิดภาคเรียนประมาณ 1 สัปดาห์ ซึ่งขณะนั้นโรงเรียนได้รับนักเรียนและมีการจัดห้องเรียน รวมถึงเตรียมแผนการสอนกันแล้ว

“เมื่อสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.)แจ้งไปยัง กศจ. เขตพื้นที่การศึกษา และมีการพิจารณายืดหยุ่นให้ปรับเพิ่มจำนวนนักเรียนต่อห้องได้มากกว่า 40 คนปรากฎว่า มีนักเรียนโรงเรียนเอกชนลาออกเพื่อไปเข้าเรียนโรงเรียนรัฐรวมทั้งประเทศกว่า 4,000 คน แม้แต่เปิดเทอมไปแล้วเด็กเข้ามาเรียนแล้วเกือบหนึ่งสัปดาห์ก็ยังมีเด็กมาลาออก ซึ่งทำให้โรงเรียนเอกชนได้รับความเดือดร้อน และผลกระทบนี้อาจส่งไปถึงการเลิกจ้างครูในโรงเรียนเอกชนบางส่วนด้วย”นายก ส.ปส.กช.กล่าวและว่า ในทางปฏิบัติโรงเรียนเอกชนก็เข้าใจ สพฐ.ที่ถูกกดดันจากหลายทางให้ต้องยืดหยุ่นเรื่องนี้ แต่เมื่อยืดหยุ่นแล้วโรงเรียนปฏิบัติตามนโยบายก็จะไม่มีปัญหา แต่บางโรงเรียนไม่ทำตามเงื่อนไข แค่เด็กมาบอกว่าไม่มีที่เรียนก็รับแล้วทำให้เกิดผลกระทบขึ้นมา จึงอยากขอให้ รมว.ศึกษาธิการ พิจารณาแก้ไขปัญหานี้รวมถึงเตรียมวางมาตรการรองรับการรับนักเรียนในปีการศึกษาหน้าด้ว

0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest

0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments