สพฐ.เปิดปฏิทินคัดเลือกศึกษานิเทศก์

เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. ดร.สุเทพ ชิตยวงษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยภายหลังประชุมผู้บริหารสำนักคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ว่า ตนได้ลงนามหนังสือถึงสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดและสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศให้ทราบว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน)สพฐ.)จะเปิดสอนตำแหน่งศึกษานิเทศก์ ทั้งนี้สืบเนื่องจากการสำรวจอัตราว่าง ตำแหน่งศึกษานิเทศก์ ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.)ทั่วประเทศ เมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา พบว่ามีอัตราว่าง 960 อัตราซึ่งเป็นอัตราว่างเดิม ซึ่งยังไม่รวมที่ได้รับจัดสรรมาใหม่จากสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) อีกประมาณ 1,000 อัตรา รวม 2,000 อัตรา ดังนั้นเพื่อให้การศึกษาขับเคลื่อนไปอย่างต่อเนื่องจึงจะดำเนินการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรง ตำแหน่งศึกษานิเทศก์ ปี 2562 โดยการดำเนินการให้เป็นไปตามหนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ. 0206.6/ว 33 ที่กำหนดให้ สพฐ. กำหนดวันและเวลาในการคัดเลือก ดำเนินการบริหารจัดการเกี่ยวกับการออกข้อสอบ ภาค ก ความรู้ทั่วไปและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และคะแนนการประเมิน ภาค ข ความเหมาะสมกับตำแหน่ง และให้คณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) เป็นผู้ดำเนินการคัดเลือก

เลขาธิการกพฐ.กล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้ สพฐ.ได้กำหนดปฏิทินการคัดเลือกไว้ดังนี้  ให้ประกาศรับสมัคร ภายในวันที่ 25 ก.ค.2562 รับสมัคร วันที่ 2-8 ส.ค. 2562 ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิเข้ารับการคัดเลือก ภายในวันที่ 14 ส.ค.2562 ประเมินประวัติ ผลการปฏิบัติงานสมรรถนะ วันที่ 15-23 ส.ค.2562 สอบข้อเขียน ภาค ก และ ภาค ข วันที่ 24 ส.ค. 2562 สอบสัมภาษณ์ ภาค ค วันที่ 25 ส.ค. 2562 ประกาศผลการคัดเลือก ภายในวันที่ 29 ส.ค.2562 ซึ่งจะขึ้นบัญชีผู้รับการคัดเลือก ไม่เกิน 1 ปี นับแต่วันขึ้นประกาศบัญชี และผู้ได้รับการคัดเลือก ต้องผ่านการพัฒนาก่อนการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ไม่น้อยกว่า 30 วัน ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ. กำหนด ตามหนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ. 0206.2/ว 6 ลงวันที่ 12 พ.ค.2551

“วันที่ 24 มิ.ย.จะมีการประชุมคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) วิสามัญเกี่ยวกับการพัฒนานโยบายและระบบบริหารงานบุคคล  ซึ่งจะมีการปรับปรุงหลักเกณฑ์วิธีการบรรจุและแต่งตั้งเพื่อคัดเลือกบุคคลให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการและรองผู้อำนวยการสถานศึกษา เพราะขณะนี้มีตำแหน่งรองผอ.สถานศึกษาว่าง ประมาณ 4,000 อัตราจึงมีความจำเป็นที่เราจะต้องเร่งปรับหลักเกณฑ์เพื่อให้ทันใช้กับการคัดเลือกตำแหน่งว่างดังกล่าวด้วย สำหรับการปรับเกณฑ์การคัดเลือกตำแหน่งผอ.และรองผอ.สถานศึกษาเบื้องต้นจะมีการสอบภาค ก วัดความรู้ ใช้แฟ้มสะสมผลงาน และการประเมินแบบ 360 องศา พร้อมกับกระจายอำนาจการสอบคัดเลือกไปให้ศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) ดูแลการจัดสอบและออกข้อสอบ ขณะเดียวกันจะมีการพิจารณาปรับปรุงหลักเกณฑ์การบรรจุแต่งตั้งผอ.และรองผอ.สพท. ด้วยเช่นกัน และถ้าอ.ก.ค.ศ.มีมติให้มีการปรับปรุงเกณ์ได้ก็จะมีการขึ้นบัญชีไว้ 2 ปี โดย และต่อไปตำแหน่งผู้บริหารจะไม่มีตำแหน่งว่างเพราะจะเรียกจากบัญชีที่ขึ้นไว้”ดร.สุเทพ กล่าว