เมื่อวันที่ 11 มี.ค.ดร.อัมพร  พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้สำนักงานก.ค.ศ. อยู่ระหว่างดำเนินการยกร่างหลักเกณฑ์การสอบผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) รองผู้อำนวยการสพท. ศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) และรองศธจ. ใหม่ คาดว่าจะเสนอให้ที่ประชุมก.ค.ศ. ที่มีนายณัฏฐพล  ทีปสุวรรณ  รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) พิจารณาปลายเดือนมีนาคมนี้  ทั้งนี้สาเหตุที่ต้องมีการปรับหลักเกณฑ์ใหม่ เนื่องจากหลักเกณฑ์เดิม ไม่มีการขึ้นบัญชี เมื่อไม่มีการขึ้นบัญชีแล้ว กระบวนการกว่าจะได้คนมาทดแทนตำแหน่งที่ว่าง  ใช้เวลาเกือบ 1 ปี  ดังนั้นเพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าว จึงเสนอให้มีการปรับ กระบวนการคัดเลือกโดยให้มีการขึ้นบัญชีผู้ผ่านการคัดเลือกไว้ ส่วนจะขึ้นบัญชีกี่ปีนั้น ยังไม่ได้ข้อสรุป ต้องรอมติจากก.ค.ศ. อีกครั้ง

เลขาธิการก.ค.ศ.กล่าวต่อไปว่า  การที่ก.ค.ศ.จะเสนอให้มีการขึ้นบัญชีตำแหน่งผู้บริหารดังกล่าวนั้น เนื่องจากกระบวนการสรรหาใช้เวลากว่าจะเสร็จสิ้นกระบวนการต้องใช้เวลาประมาณ 8 เดือนถึง 1 ปี ซึ่งกระทบต่อ หน่วยงานที่ขาดคนทำงาน สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)  และสำนักงานปลัดศธ. จึงเสนอให้มีการขึ้นบัญชี ส่วนจะกี่ปีต้องรอข้อสรุปจากที่ประชุมก.ค.ศ.  ขณะเดียวกันหลักสูตรการสรรหาเดิม ไม่มีการวัดสมรรถนะการทำงานในตำแหน่ง ซึ่งรมว.ศึกษาธิการ ต้องการให้ผู้บริหารระดับเขตพื้นที่ฯ หรือผู้บริหารสถานศึกษา มีทั้งทักษะด้านภาษาอังกฤษ  เทคโนโลยี ภาวะผู้นำ ก็จะใส่เข้ามาในหลักสูตรที่ใช้ในการสรรหาและการพัฒนา  ทั้งนี้หากที่ประชุม ก.ค.ศ. มีมติเห็นชอบตามที่สำนักงานก.ค.ศ. เสนอ ก็จะเริ่มใช้ในการสรรหาผู้อำนวยการสพท. รองผู้อำนวยการสพท. ศธจ. และรองศธจ.  แทนอัตราว่าง ที่เกษียณอายุราชการไปเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2562 ที่ผ่านมา ซึ่งมีอัตราว่างประมาณกว่า 100 อัตรา

 

 

0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest

0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments