เมื่อวันที่ 12 พ.ค.2563 นายประเสริฐ บุญเรือง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะโฆษกกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังประชุมคณะอนุกรรมการสามัญประจำกระทรวงศึกษาธิการ(อ.ก.พ.กระทรวงศึกษาธิการ) ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาลงโทษวินัยข้าราชการกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.)กรณีประพฤติผิดทางวินัย และมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ไล่ออก จำนวน 3 ราย ดังนี้

1.นายชินภัทร ภูมิรัตน อดีตเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.) กรณีถูกกล่าวหาเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ว่า กระทำการทุจริตในการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีพ.ศ.2555(งบแปรญัตติ)ให้กับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ในเขตพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง ปรับปรุงสนามกีฬาพร้อมอุปกรณ์(สนามฟุตซอล)อันมีลักษณะมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรมเพื่อเอื้ออำนวยแก่ผู้เข้ารับการเสนอราคารายใด รายหนึ่ง ให้เป็นผู้มีสิทธิ์ทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐและการก่อสร้างไม่ได้มาตรฐานตามรูปแบบรายการก่อสร้างสนามกีฬาไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างแท้จริง อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้นายชินภัทร ได้ถูกลงโทษปลดออกจากราชการกรณีสอบคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุแต่งตั้งเข้ารับราชการในตำแหน่งครูผู้ช่วย สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.)เมื่อวันที่ 13 ม.ค.2556 กรณีไม่ปฏิบัติตามระเบียบของทางราชการ

2.นางญาณกร จันทหาร อดีตผู้อำนวยการสำนักอำนวยการ  สพฐ. ถูกกล่าวหาว่า กระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงในเรื่องเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์การศึกษาพิเศษเขตการศึกษา5 จังหวัดสุพรรณบุรี ได้ทำการทุจริตในการดำเนินโครงการและใช้จ่ายเงินโครงการพัฒนาการจัดการศึกษาสำหรับบุคคลออทิสติก ในปี 2558  และโครงการพัฒนาผู้บริหารศูนย์การศึกษาพิเศษ สังกัดสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ ไม่เป็นไปตามมติคณะกรรมการบริหารกองทุนส่งเสริมพัฒนาการศึกษาสำหรับคนพิการ

3. นางทัศนีย์ บุญยนนท์ นักวิชาการเงินและบัญชีชำนาญการ กลุ่มบริหารงานคลังและสินทรัพย์ สำนักอำนวยการ สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ถูกกล่าวหาเมื่อครั้งทำหน้าที่รับผิดชอบการเงินของมูลนิธิทั้ง 4 แห่ง ได้แก่ มูลนิธินิวัติไกรฤกษ์ มูลนิธิการศึกษาร่มเกล้า มูลนิธิตาเฮอร์สยามวาลาเพื่อการศึกษา และมูลนิธิภัตตาหารวัดบรมวงศ์อิศรวราราม ซึ่งเป็นการปฎิบัติหน้าที่ราชการและการกระทำการโดยเจตนาเอาเงินของมูลนิธิทั้ง 4 แห่งมาเป็นของตนเป็นจำนวนเงินกว่า 4 ล้านบาท ในลักษณะทำให้เงินของมูลนิธิทั้ง 4 แห่งขาดบัญชี โดยเป็นการกระทำที่ปราศจากเหตุอันอ้างได้ตามกฏหมายเป็นการปฎิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบ

ทั้งนี้ทั้ง 3 คน จะต้องคืนเงินบำนาญที่รับไปทั้งหมด นับแต่วันนี้เป็นต้นไป

นอกจากนี้ยังมีมติ ให้ปลดนายบุญสืบ เที่ยมหยิน นักทรัพยากรบุคคลชำนาญการพิเศษ สำนักพัฒนาระบบบริหารงานบุคคลและนิติการ สพฐ.ออกจากราชการ กรณีถูกกล่าวหา ว่า กระทำวินัยร้ายแรงในการที่ได้รับแต่งตั้งให้เป็นคณะกรรมการตรวจรับพัสดุมีหน้าที่ตรวจสอบความถูกต้องของขั้นตอนการประมวลผลแบบทดสอบตามข้อกำหนดและเงื่อนไขการจัดจ้าง(ทีโออาร์)ที่กำหนดไว้ซึ่งตามข้อ 71 แห่งระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติมคณะกรรมการตรวจรับพัสดุมีหน้าที่ตรวจรับพัสดุให้ถูกต้องครบถ้วนตามหลักฐานที่ตกลงกันไว้และรายงานให้หัวหน้าส่วนราชการทราบ ซึ่งมีการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดและเงื่อนไขการจ้างทีโออาร์ที่กำหนดไว้ กล่าวคือ บริษัทจันวาณิช ซีเคียวริตี้ พริ้นติ้ง จำกัดผู้รับจ้างได้ทำการส่งมอบบัญชีรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุแต่งตั้งเข้ารับราชการในตำแหน่งครูผู้ช่วย สังกัด สพฐ. เมื่อวันที่ 13 ม.ค.2556 ไปยัง สพฐ. ทั้งที่การจัดทำบัญชีสรุปคะแนนผู้มีสิทธิ์เข้ารับการคัดเลือก ยังไม่แล้วเสร็จ ซึ่งหากรอให้บริษัทจัดทำบัญชีสรุปคะแนนผู้มีสิทธิ์เข้ารับการคัดเลือกให้แล้วเสร็จก่อน จะพบว่าคะแนนของผู้ที่สอบได้แต่ละเขตพื้นที่ฯมีคะแนนสูงผิดปกติ ซึ่งในขั้นตอนดังกล่าว ควรเสนอนายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการกพฐ. พิจารณานำเสนอก.ค.ศ.เพื่อชะลอการแจ้งรายชื่อผู้ผ่านการสอบคัดเลือกไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาต่างๆ เพื่อตรวจสอบก่อนว่าคะแนนของผู้เข้าสอบในแต่ละสำนักงานเขตพื้นที่ฯมีความผิดปกติหรือไม่ แล้วจึงค่อยแจ้งผลการตรวจสอบดังกล่าว ของคะแนนผู้เข้าสอบไปยังสำนักงานเขตพื้นที่ฯต่างๆเพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาบรรจุแต่งตั้งต่อไป แต่ก็ไม่ได้กระทำตามคำสั่ง

 

0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest

0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments