เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2563 นายสุเทพ แก่งสันเทียะ รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(กอศ.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังมอบนโยบายในการประชุมผู้บริหารสถานศึกษาอาชีวศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(สอศ.) ว่า ตนได้มอบกรอบการขับเคลื่อนนโยบายอาชีวศึกษายกกำลัง 2 ซึ่งจะเน้นเรื่องของการพัฒนาสถานศึกษาเป็นศูนย์การฝึกอบรมอาชีพทั้งอัพสกิล รีสกิล และนิวสกิล ให้แก่ประชาชน ขณะเดียวกันก็เน้นการนำคุณภาพอาชีวศึกษาให้เกิดปริมาณ โดยพัฒนาสถานศึกษาให้เป็นรูปแบบExcellent Center หรือ ศูนย์ความเป็นเลิศด้านการอาชีวศึกษา ซึ่งจะดึงภาคเอกชนมาร่วมมือจัดการศึกษาแบบทวิภาคีที่เข้มข้น เริ่มตั้งแต่การพัฒนาหลักสูตร พัฒนาครู พัฒนาการเรียนการสอนร่วมกัน จนถึงขั้นสถานประกอบการรับเด็กเข้าทำงานทั้ง 100%
เลขาธิการ กอศ.กล่าวต่อไปว่า ขณะเดียวกันจะมีการสร้างความแข็งแกร่งให้แก่สถาบันการอาชีวศึกษาที่มีอยู่แล้ว และที่ต้องดำเนินการพัฒนาควบคู่กันไป คือ สนับสนุนการขับเคลื่อนการอาชีวศึกษาเอกชน นอกจากนี้จะมีการผลักดันโครงการคุรุอาชีวทายาท เพื่อผลิตครูที่มีศักยภาพและสมรรถนะตรงตามปรัชญาการอาชีวศึกษาที่เน้นสายปฏิบัติการ โดยจะเริ่มตั้งแต่ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ(ปวช.) ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง(ปวส.) จนถึงปริญญาตรี เมื่อจบแล้วจะบรรจุให้เป็นครูอาชีวศึกษาโดยเฉพาะสาขาขาดแคลน ซึ่งยังไม่มีบุคลากรที่จบจากสถาบันอื่น ได้แก่ สาขาช่างซ่อมอากาศยาน ระบบราง โลจิสติกส์ และโรโบติกส์
“ล่าสุดผมได้ประชุมร่วมกับคณะอนุกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษา (กรอ.อศ.) ด้านอุตสาหกรรมการบินซึ่งได้ข้อตกลงร่วมกันว่า จะดำเนินการผลิตบุคลากรทางการศึกษาเอง ซึ่งจะต้องเป็นบุคลากรที่ได้ตามมาตรฐานของกลุ่มอุตสาหกรรมการบินกำหนดด้วย โดยขณะนี้ สอศ.ได้เริ่มดำเนินการวางแผนการผลิตคุรุอาชีวทายาท สาขาขาดแคลนแล้ว”นายสุเทพกล่าว
