ดร.บุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการการนำการกีฬาเข้าสู่ระบบการศึกษาที่มี พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รมช.ศึกษาธิการ เป็นประธาน ได้หารือถึงการนำกีฬาเข้าสู่ระบบการศึกษา ตามนโยบายของรัฐบาลเรื่องการส่งเสริมการเรียนการสอนกีฬา โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จะจัดทำหลักสูตรคีตะมวยไทย สอนนักเรียนตั้งแต่ชั้นป.1 ถึง ม.6 ซึ่งหลักสูตรนี้เน้นเรื่องทักษะการออกกำลังกาย โดยใช้ท่ามวยไทยเป็นหลัก นอกจากนี้จะมีการสอนกีฬายิมนาสติก ที่เน้นการยืดหยุ่นร่างกาย และสอนว่ายน้ำ ให้นักเรียนรู้จัดการลอยตัวในน้ำ ทั้งนี้ สพฐ.จะหารือร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อจัดทำหลักสูตรต่างๆ เพื่อนำไปใช้เป็นวิชาเลือก วิชาเพิ่มเติม หรือ เป็นชมรม เป็นต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของโรงเรียน
เลขาธิการ กพฐ.กล่าวต่อไปว่า ศธ.จะส่งเสริมการเล่นกีฬาสำหรับประชาชนทั่วไป โดยเปิดพื้นที่ของสถานศึกษาให้ประชาชนได้เข้ามาใช้สนามกีฬาของโรงเรียน ซึ่งขณะนี้สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กำลังสำรวจสถานศึกษาทุกสังกัดใน ศธ.ว่า มีสถานศึกษาแห่งใดบ้าง ที่พร้อมให้ประชาชนเข้าใช้บริการ สำหรับในส่วนของสถานศึกษาสังกัด สพฐ.คาดว่าในเดือนพฤศจิกายนนี้ จะประชาสัมพันธ์ เพื่อเชิญชวนประชาชนให้มาใช้สนามกีฬาและโรงยิมฯในโรงเรียนได้ ซึ่งนอกจากสนับสนุนสถานที่แล้ว สพฐ.จะสนับสนุนอุปกรณ์ในการเล่นกีฬาให้ประชาชนด้วย ขณะเดียวกันจะมีโครงการรับโค้ชจิตอาสา หรือ ผู้นำกีฬาของชุมชน โดยเชิญชวนบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ เข้ามาเป็นโค้ชจิตอาสา สอนประชาชนในช่วงที่มาเล่นกีฬาในสถานศึกษา
“นอกจากนี้ในเร็วๆนี้ ศธ.จะจัดการแข่งขันกีฬานักเรียนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ เรียกว่า สพฐ.เกมส์ โดยเปิดโอกาสให้นักเรียนทุกสังกัดเข้าร่วมการแข่งขันด้วย โดยแบ่งเป็น 3 รุ่นคือ ระดับประถมศึกษา อายุไม่เกิน 12 ปี ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น อายุไม่เกิน 15 ปี และระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย อายุไม่เกิน 18 ปี แข่งขันใน 7 ประเภทกีฬา ประกอบด้วย ฟุตบอล, วอลเลย์บอล, เซปักตะกร้อ, ฟุตซอล, บาสเก็ตบอล, วิ่ง31 ขา และคีตะมวยไทย เริ่มจัดการแข่งขันตั้งแต่ระดับอำเภอ ระดับจังหวัด จากนั้นเป็นระดับภูมิภาค เพื่อหาตัวแทนทั้ง 6 ภาค เข้าแข่งขันระดับชาติที่กรุงเทพมหานครหรือปริมณฑล ภาคละ2ทีมในแต่ละประเภทกีฬาในช่วงก่อนวันขึ้นปีใหม่หรือหลังวันขึ้นปีใหม่แล้ว ที่จะไม่ให้ส่งผลกระทบกับการสอบปลายปีของนักเรียน สำหรับการจะแข่งขันเมื่อไหร่นั้นอยู่ระหว่างเสนอแผน เพื่อขอความเห็นชอบจาก ศธ. ก่อน” ดร.บุญรักษ์ กล่าว.
