เมื่อวันที่ 30 มกราคม นพ.ธีระเกียรติ  เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ว่า ที่ประชุมได้หารือถึงหลักเกณฑ์การอบรมผู้บริหารสถานศึกษา กว่า 4,000 คน ที่กำลังจะเข้าปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งจะมีหลักสูตรใหม่ ๆ ทางการบริหารเข้ามา ดังนั้นจึงขอคำแนะนำทางก.ค.ศ. ว่า  เกณฑ์การอบรมมีความยืดหยุ่นหรือไม่  ทางก.ค.ศ.ยืนยันว่า เกณฑ์อบรมสามารถยืดหยุ่นได้ ซึ่งถือเป็นเรื่องดี  นอกจากนี้ที่ประชุมเห็นชอบตั้งคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจ ให้ไปดูว่าการบริหารงานบุคคลของกลุ่มจุฬาภรณราชวิทยาลัย และ โรงเรียนร่วมพัฒนา จะต้องออกเกณฑ์อะไรบ้าง เพื่อให้การทำงานเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ตามคุณลักษณะพิเศษของโรงเรียนให้สามารถทำงานได้อย่างแท้จริง

ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้มีการแชร์ข้อมูลรับจ้างทำผลงานวิทยฐานะ คศ.3 ชำนาญการพิเศษและ คศ.4 เชี่ยวชาญ ถือว่าผิดหรือไม่ นพ.ธีระเกียรติ กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบรายละเอียด แต่ในเชิงนโยบายไม่มีอยู่แล้ว เพราะเป็นผลงานส่วนตัว

น.ส.อุษณีย์ ธโนศวรรย์  เลขาธิการก.ค.ศ. กล่าวว่า ที่ประชุมได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ไปจัดทำรายละเอียดการอบรม ผู้บริหารสถานศึกษา  ซึ่งหากสพฐ. เห็นว่า ความรู้ใดที่สำคัญและมีความเปลี่ยนแปลง ก็สามรถเปลี่ยนแปลง และเสนอให้ก.ค.ศ.รับทราบต่อไป  ส่วนที่มีการจ้างทำผลงานทางวิชาการคศ3 และคศ4 นั้น ก.ค.ศ.จะเข้าไปตรวจสอบ ซึ่งใครที่ไปจ้างทำก็ถือว่ามีความผิดวินัยร้ายแรง อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบผลงานทางวิชาการของครูที่ขอวิทยฐานะ ยังไม่พบว่า มีการจ้างทำที่ชัดเจน แต่หากพบ ก็ต้องตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง หากพบว่า ทำจริงมี  โทษปลดออกกับไล่ออก เพราะถือว่าผิดวินัยอย่างร้ายแรง  อีกทั้งขณะนี้การจัดทำผลงานวิทยะฐานครูก็เปลี่ยน ให้โดยดูที่การทำงานของครูอย่างแท้จริง ดังนั้นจึงไม่แน่ใจว่า จะยังมีการจ้างทำผลงานอยู่หรือไม่ อย่างไรก็ตามการจ้างทำผลงาน ยังไม่พบผู้ที่กระทำชัดเจน แต่ที่ผ่านมาตรวจพบกรณีการคัดลอกผลงาน ซึ่งก.ค.ศ. ไล่ออกไปแล้วประมาณ 2-3 ราย ก.ค.ศ.เองไม่ได้นิ่งนอนใจ

0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest

0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments