เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2568 ดร.พิเชฐ โพธิ์ภักดี เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม “สร้างแรงบันดาลใจจากการอ่าน เพื่อการค้นหาและพัฒนาต่อยอดองค์ความรู้ ตามรอยพระจริยวัตร สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี” โดยมี ศ.พิเศษ ดร.ธงทอง จันทรางศุ กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิโครงการสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน ฯ และ ดร.สมเกียรติ ชอบผล กรรมการมูลนิธิสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ร่วมบรรยายพิเศษ พร้อมด้วยผู้บริหารของ สพฐ. ผู้บริหารสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และสถานศึกษา คณะครูอาจารย์ นักเรียน และผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วม ณ ห้องประชุม สพฐ. 1 อาคาร สพฐ. 4 ชั้น 2 และถ่ายทอดสดผ่าน OBEC Channel
ดร.พิเชฐ กล่าวว่า “การอ่านและภาษา โดยเฉพาะภาษาไทย คือรากฐานสำคัญของการเรียนรู้และอัตลักษณ์ของชาติ” ทักษะอ่านออกเขียนได้ การอ่านคล่องเขียนคล่อง รวมถึงทักษะคิดวิเคราะห์และการสื่อสาร เป็นพื้นฐานที่ช่วยต่อยอดความรู้ในสาระสำคัญต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ หน้าที่พลเมือง หรือแม้แต่วิทยาศาสตร์ เพราะการอ่านที่หลากหลายช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจลึก คิดเป็น ตั้งคำถาม และแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ สพฐ. จึงเดินหน้าภารกิจหลักในการยกระดับทักษะภาษาไทยและส่งเสริมการอ่านให้เกิดขึ้นในทุกห้องเรียน โดยน้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ผู้ทรงเป็นแบบอย่างด้านรักการอ่าน และทรงมีพระดำรัสว่า “การอ่านเป็นกุญแจสำคัญสู่การพัฒนาคนและประเทศชาติ” ซึ่งเป็นหัวใจในการขับเคลื่อนการศึกษาไทยอย่างยั่งยืน
เลขาธิการ กพฐ. กล่าวย้ำว่า การส่งเสริมการอ่านต้องอาศัยพลังร่วมจากผู้บริหาร ครู และบุคลากรการศึกษาทุกระดับ เพื่อสร้างการอ่านเชิงวิเคราะห์ บูรณาการการอ่านในทุกวิชา จัดหาสื่อคุณภาพ และสร้างสรรค์กิจกรรมการอ่านให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในโรงเรียนทั่วประเทศ เพื่อให้เด็กและเยาวชนไทยเติบโตอย่างมีคุณภาพ พร้อมเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ ตามพระราชปณิธานของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี โดยกิจกรรมครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อสร้างความตระหนักให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาทั้งประเทศเห็นความสำคัญของการอ่าน และนำไปสู่การจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านที่เป็นรูปธรรมในโรงเรียน โดยเฉพาะการใช้ “สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน ฯ พระราชนิพนธ์” และหนังสืออื่น ๆ เป็นสื่อการเรียนรู้ที่เข้าถึงง่ายและใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน
“ภายในงานยังได้รับความร่วมมือจากหลายโรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนวัดใหญ่ โรงเรียนเจริญดีวิทยา โรงเรียนพญาไท โรงเรียนชิโนรสวิทยาลัย โรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย ชลบุรี และโรงเรียนเศรษฐเสถียรในพระราชูปถัมภ์ นำนักเรียนร่วมจัดแสดงผลงานต่อยอดองค์ความรู้จากการอ่าน สะท้อนให้เห็นพลังของเด็กไทยที่พร้อมเติบโตด้วยทักษะการเรียนรู้และความคิดสร้างสรรค์”ดร.พิเชฐ กล่าวและว่า การขับเคลื่อนครั้งนี้นับเป็นอีกก้าวสำคัญของ สพฐ. ในการผลักดันวัฒนธรรมการอ่านให้เป็น “วิถีแห่งการเรียนรู้” ของเยาวชนไทยอย่างแท้จริง







