เมื่อวันที่ 21 ส.ค. นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ(ศธ.) เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ เพื่อจัดการเรียนการสอนในสถานศึกษาให้สอดคล้องกับความต้องการของภาคอุตสาหกรรม ระหว่างกระทรวงศึกษาธิการกับบริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย โดยมีนางพรรณสิรี อมาตยกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่และลูกค้าคอมเมอเชียล ไอบีเอ็ม ภูมิภาคอาเซียน, ผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ และผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมงาน ณ ห้องราชวัลลภกระทรวงศึกษาธิการ
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ขณะนี้เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญในการดำรงชีวิตของมนุษย์ในโลกยุคปัจจุบัน อีกทั้งยังได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็วส่งผลให้เกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและรุนแรงในทุกด้าน ศธ.ในฐานะภาคการศึกษาที่มีหน้าที่หลักในการผลิตและพัฒนากำลังคนของประเทศ ได้เล็งเห็นความสำคัญของการผลิตบุคลากรให้สอดคล้องและตรงกับความต้องการของตลาดแรงงานในภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม ความร่วมมือกับบริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย ในครั้งนี้ จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการเชื่อมโยงภาคการผลิตกำลังคน (Supply) กับความต้องการของตลาดแรงงานในประเทศ (Demand)
“กระทรวงศึกษาธิการมีนโยบายชัดเจนเกี่ยวกับการพัฒนากำลังคนที่จบการศึกษาแล้ว ด้วยการเพิ่มทักษะการทำงาน (Upskill) รวมถึงการ Reskill เพื่อให้คนที่เข้าสู่ระบบการทำงานแล้วมีความสามารถที่สอดรับกับความต้องการของตลาดแรงงานเช่นกัน ดังนั้นการร่วมมือในครั้งนี้ จึงเป็นจุดเริ่มต้นของความพยายามที่จะแก้ปัญหาการผลิตบุคลากรที่ยังไม่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน และเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ที่กระทรวงศึกษาธิการให้ความสำคัญ โดย ศธ. ถือเป็นหน่วยงานที่มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้กับประเทศ จึงคาดหวังว่าโครงการ P-TECH จะเป็นประโยชน์และช่วยพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพให้กับประเทศไทยต่อไป” รมว.ศึกษาธิการ กล่าว
นางพรรณสิรี กล่าวว่า ความร่วมมือในครั้งนี้ บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย ได้เสนอโครงการ P-TECH (Pathways inTechnology Early College) ซึ่งจะเน้นการศึกษาในสายอาชีวศึกษา โดยใช้เวลาเรียน 5 ปี และนักศึกษาที่จบหลักสูตรจะได้รับประกาศนียบัตรขั้นสูงตามสาขาที่เรียน โดยเป็นโครงการที่ช่วยสร้างและพัฒนากำลังคนให้มีทักษะด้าน IT และ STEM Education เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางวิชาการและสอดคล้องกับความต้องการกำลังคนของตลาดแรงงาน ซึ่ง P-TECH ได้รับการยอมรับจากสถานศึกษา 110 แห่งทั่วโลก อีกทั้งยังจะมีองค์กรภาคธุรกิจมากกว่า 600 แห่ง เข้ามาร่วมเป็นพันธมิตร เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้เรียนได้รับการแนะแนวจากผู้เชี่ยวชาญด้าน IT และด้านธุรกิจภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวจะเป็นการจัดการเรียนการสอนที่สามารถจับคู่ทักษะ (Skill Mapping) ของผู้เรียนให้เข้ากับทักษะที่ตรงตามความต้องการของตลาดแรงงาน