นายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีการทุจริตเงินกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต ทำให้นักเรียนทุนบางคนไม่ได้รับเงินทุนอย่างต่อเนื่องนั้น กระทรวงศึกษาธิการได้มีหนังสือไปยังกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง เพื่อขอหารือถึงแนวปฏิบัติในการเยียวยาเด็ก ที่ได้รับผลกระทบจากการทุจริตของข้าราชการซึ่งเป็นผู้ดูแลกองทุนดังกล่าว โดยได้หารือว่า 1. เนื่องจากคณะกรรมการกองทุนเสมาพัฒนาชีวิตได้อนุมัติทุนให้แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบไปแล้ว จะสามารถอนุมัติเงินเยียวยาให้แก่คนที่ยังไม่ได้รับเงินได้หรือไม่ 2. ในการเยียวยานั้นเนื่องจากเงินดอกผลในปี 2560 ไม่เพียงพอต่อการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบทั้งหมด จะสามารถขยายระยะเวลาการเยียวยาเป็นระยะเวลา 2-3 ปี เพื่อให้ครบทุกคนได้หรือไม่ และ 3. หากไม่สามารถดำเนินการตาม ข้อ 1 และ ข้อ 2 ได้ ขอให้ชี้แนะแนวทางการดำเนินการเยียวยาเพื่อจะได้ดำเนินการให้ถูกต้องต่อไป
ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ขณะนี้กรมบัญชีกลางได้ตอบข้อหารือดังกล่าวมาแล้วว่า โดยระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต พ.ศ.2550 มีวัตถุประสงค์นำเงินกองทุนเสมาพัฒนาชีวิตไปใช้จ่ายเป็นทุนการศึกษาเสมาพัฒนาชีวิต สนับสนุนการรณรงค์ต่อต้านการล่อลวงเด็กไปประกอบอาชีพอันไม่พึงประสงค์ ส่งเสริมสนับสนุนและช่วยเหลือการจัดการศึกษาของสถานศึกษา หรือหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาตามที่คณะกรรมการกำหนด และใช้จ่ายในการบริหารกองทุนและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับหรือเกี่ยวเนื่องกับการจัดกิจกรรมของกองทุน ซึ่งเกินร้อยละ 10 ของจำนวนเงินที่นำมาใช้จ่ายได้ในแต่ละปี และไม่มีวัตถุประสงค์ในการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ กระทรวงศึกษาธิการจึงไม่สามารถดำเนินการดังกล่าวตามที่สอบถามได้
“เมื่อกรมบัญชีกลางตอบมาแล้ว ก็คือไม่สามารถใช้เงินกองทุนไปเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบได้ ดังนั้นกระทรวงศึกษาธิการจะกลับมาพิจารณาว่า จะมีแนวทางอื่นใดในการช่วยเหลือได้อีก ซึ่งจากการหารือของคณะกรรมการกองทุนเสมาพัฒนาชีวิตแล้วเห็นว่า น่าจะมีเงินที่ได้จากการยึดทรัพย์ผู้กระทำผิดที่จะสามารถนำมาใช้เยียวยาได้ แต่ทั้งนี้จะต้องหารือกับทางกรมบัญชีกลางก่อนว่าจะสามารถนำเงินดังกล่าวมาใช้ได้หรือไม่”นายการุณกล่าว