เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2566 นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) เมื่อเร็ว ๆ นี้ได้เห็นชอบในหลักการตามที่สำนักงาน สกสค. เสนอปรับปรุงโรงพยาบาลครู ของสกสค. โดยที่ประชุมเห็นว่า โรงพยาบาลครู มีความเก่าแก่นานกว่า 30 ปีแล้ว ดังนั้นเรื่องเทคโนโลยี และการบริการต่าง ๆ อาจจะยังไม่ตอบโจทย์ โดยผู้อำนวยการโรงพยาบาลครูได้มานำเสนอแผนงาน พัฒนาโรงพยาบาลครูให้เป็น Smart Hospital ที่มีความทันสมัย นำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการรักษา ทั้งระบบการวินิจฉัยโรค ด้วยระบบ เทเลเมดิซีนหรือโทรเวชกรรม โดยคนไข้ไม่ต้องเดินทางมาด้วยตัวเอง เป็นต้น ที่ประชุมจึงเห็นชอบในหลักการ โดยขอให้สกสค. ไปจัดทำรายละเอียดงบประมาณที่เหมาะสม โดยมีเป้าหมายไม่ใช้เงินลงทุนจำนวนมาก แต่จะใช้เทคโนยีเข้ามาช่วยในการดำเนินการ ทั้งในเรื่องบุคลากร เครื่องมือคุรุภัณฑ์ทางการแพทย์ต่าง ๆ

 ด้าน ดร.อรรถพล สังขวาสี ปลัด ศธ. กล่าวว่า สกสค.เสนอของบฯ เพื่อใช้ดำเนินการปรับปรุงโรงพยาบาลครู กว่า 30 ล้านบาท  แต่คณะกรรมการสกสค. เห็นว่า อาจจะเป็นงบฯที่สูงเกินไป จึงขอให้ สกสค.กลับไปทำแผนโดยให้ดูในเรื่องของการบริการและจุดคุ้มทุน รวมถึงขอให้ประเมินสถานการณ์ในอนาคต ว่าหากปรับปรุงแล้ว จะมีผู้มาใช้บริการมากน้อยขนาดไหน เพื่อเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการสกสค. พิจารณาอีกครั้ง

ดร.พิเชฐ โพธิ์ภักดี รองปลัด ศธ. รักษาการแทนเลขาธิการสกสค. กล่าวว่า สกสค. รายงานผลการจัดพิมพ์ ขององค์การค้าฯ ให้ที่ประชุมได้รับทราบ โดยปีนี้มียอดสั่งซื้อรวม 29 ล้านเล่ม ใน4 วิชา คือภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และวิทยาการคำนวณ โดยองค์การค้าฯ ได้ดำเนินการจัดส่งหนังสือเรียนให้โรงเรียทั่วประเทศครบแล้ว 100% แล้ว ทำให้ปีนี้องค์การค้าฯ มีเงินรายได้ จากการขายหนังสือเรียน แบบยังไม่หักต้นทุน รวม 1,500 ล้านบาท ถือว่า การจัดพิมพ์และจัดส่งหนังสือเรียนปีนี้ค่อนข้างประสบความสำเร็จ สามารถจัดส่งถึงมือเด็กก่อนเปิดภาคเรียน จากนี้จะเร่งจัดทำแผนเพื่อเสนอให้ที่ประชุมพิจารณาจัดพิมพ์หนังสือเรียน ปีการศึกษา 2567 ต่อไป

0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest

0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments