*** หยอก หยอก วันที่ 17 มกราคม 2567 *** การศึกษา ไม่ได้ทำให้คนฉลาดทางอารมณ์ *** มีอดีตปลัดกระทรวงศึกษาธิการท่านหนึ่งชื่นชมผ่าน หยอก หยอก มาว่าการแต่งตั้งซี 10 ทีมสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการครั้งที่ผ่านมาถือว่า ตั้งคนถูกกับงาน เป็นคนรุ่นใหม่ที่มีความรู้ ความสามารถอนาคตไกล อย่างเช่น “ธนู ขวัญเดช” กับ “วรัท พฤกษาทวีกุล” ที่ถูกเลือกมานั่งเก้าอี้รองปลัด ศธ. ด้วยคนนึงก็เป็นนักกฏหมายมือหนึ่งของกระทรวงศึกษาธิการ ที่ให้คำปรึกษาการออกระเบียบกฎหมายต่าง ๆ ของศธ. ไม่ว่าจะเป็น  พ.ร.บการศึกษาแห่งชาติ รวมถึงเรื่องการทุจริตต่าง ๆ ของ ศธ.ที่ร้องเรียนกันมาไม่เว้นแต่ละวัน ส่วนอีกคนก็มาจับงานลูกเสือเป็นหลัก และยังเป็นงานที่ “เสมา1” พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ มอบเป็นนโยบายสำคัญเป็นอันดับต้น ๆ  …  คนอื่นมองผ่าน แต่งานนี้ “วรัท” ทำดีสมมง “ทำดี ทำได้ ทำทันที” *** ขณะที่ 2 รองเลขาธิการสภาการศึกษา “ธฤติ ประสานสอน และ นิติ นาชิต” ที่ถูกจับคู่ให้ไปช่วยผลักดัน พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ ร่วมกับ “อรรถพล สังขวาสี” เลขาธิการสภาการศึกษา ก็ถือว่าวางไม่ผิดตัวเช่นกัน เพราะทั้ง 2 คนถือเป็นมือพระกาฬทางวิชาการที่ไม่เป็นรองใคร … ตบท้ายด้วย “ธนากร ดอนเหนือ” อธิบดีหนึ่งเดียวของศธ.ที่เป็นเต็งหนึ่งแบบนอนมา แม้จะเคยได้นั่งรักษาราชการแทนอธิบดีกรมส่งเสริมการเรียนรู้(สกร.)เพียงแค่ข้ามคืน แต่ก็ได้กลับมายึดเก้าอี้ สกร.แบบตัวจริงเสียงจริง  … ต้องยอมรับว่า “ธนากร” เป็นอธิบดีที่ถูกด้อยค่า ถูกเตะตัดขายังไม่ได้ทำอะไรเลย ก็ขอให้ไปดูประวัติทำงานกันก่อนก็แล้วกัน … แบบนี้เขาเรียกว่าอะไรน้า…? *** ครบรอบการทำงานในตำแหน่งเสนาบดีวังจันทรเกษม 4 เดือนปุ๊บ พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ก็ได้ฤกษ์เดินสายออกตรวจการบ้านดูผลการปฏิบัติงานรอบ 3 เดือนของหน่วยงานในกำกับ ภายหลังมอบนโยบาย “เรียนดี มีความสุข” ด้วยแนวทางการทำงาน “จับมือไว้แล้วไปด้วยกัน” เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2566  เรียกว่าการติดตามงานรอบ 3 เดือนแรกนี้มีทั้งให้นโยบายและรับฟังรายงานการทำงาน พร้อมให้ข้อเสนอแนะ และที่จะขาดไม่ได้ก็เป็นเรื่องการเปิดให้ตอบแบบสอบถามเพื่อสะท้อนการทำงานของรัฐมนตรี โดยทั้งหมดเป็นการทำบนระบบออนไลน์  ไม่มีการปริ้นเป็นเอกสาร  เพราะให้ส่งงานเป็นไฟล์ หรือ e-Book  ที่สำคัญต้องส่งให้ผู้ร่วมประชุมอ่านก่อน เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียเวลาในการฟังบรรยาย จะซักถามอะไรก็พุ่งเข้าประเด็นตรงจุดได้เลย …นับเป็นการติดตามงานที่ไม่เหมือนใคร  และไม่มีใครเคยทำมาก่อน  … งานนี้เชื่อขนมกินได้ มีคนตามไม่ทันไม่ใช่น้อย  แต่ เสมา 1 ก็ยังให้โอกาสเขียนตัวชี้วัดการทำงาน ในรอบ 3 เดือนตัวเอง ดูศักยภาพตัวเอง ทำอะไรได้มากน้อยแค่ไหน แล้วมาดูผลงานกัน ถ้าผลการทำงานเป็นที่น่าพอใจรัฐมนตรียอมรับได้ก็จะไม่มีการต่อรอง แต่ถ้าตัวชี้วัดต่ำเกินไป งานนี้ “เสมา1”อย่างเพิ่มพูน คงต้องเรียกมาคุย ต่อรองกันบ้าง เพราะฉะนั้นตัวชี้วัดจะเขียนกันมาแบบมั่ว ๆ ไปก่อนทำได้ไม่ได้มาว่ากันไม่ได้แล้ว วางอะไรมาแล้ว ต้องเดินไปให้ถึงเด้อ … ว่าแต่ ในเร็ว ๆ นี้จะมีการประเมินผู้บริหารระดับสูง เพื่อโยกย้ายปรับเปลี่ยนกันอีกรึเปล่าน้อ .. แต่ ที่แน่ ๆ  เสมา 1 เน้นย้ำตลอดเวลาว่ามีนโยบายเดียว นั่นคือ “เรียนดี มีความสุข” โดยหัวใจของนโยบายอยู่ที่การลดภาระของทั้งครู นักเรียน ผู้ปกครอง เมื่อไม่มีภาระ ก็จะทำให้เด็กเรียนดี เมื่อเด็กเรียนดีก็จะมีความสุข…นั่นเอง ***  ท้ายสุด ช่วงนี้องค์กรหลักต่าง ๆ เงียบกันผิดปกติ ก็ไม่ใช่อะไรนะ น่าจะหัวฟูจัดทำงบประมาณ 2567 ที่ถูกตัดไป และยังต้องทำงบประมาณปี 2568 ควบคู่กันไปด้วย จะได้มากหรือน้อยก็ขอให้ถึงมือเด็ก ๆ จริงอย่าหล่นหายกลางทางแล้วกันเนาะ***

 

0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest

0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments