“สุเทพ”ลงนามสอบคัดเลือก รองผอ.สพท. 304 อัตรา-ครูผู้ช่วยกรณีพิเศษ 4,804 อัตรา เตรียมเสนอก.ค.ศ.ปรับเกณฑ์เปิดสอบก่อนเกษียณเพื่อบรรจุแต่งตั้งได้ทัน 1 ต.ค.
เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. ดร.สุเทพ ชิตยวงษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ตนได้ลงนามประกาศคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.)ทั่วประเทศ ประจำปี 2562 จำนวน 304 อัตรา แบ่งเป็น รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) 248 อัตรา และรองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) จำนวน 56 อัตรา โดยเปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 29 มิ.ย. ถึงวันที่ 5 ก.ค.ไม่เว้นวันหยุดราชการ และจะมีการประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิเข้ารับการคัดเลือก วันที่ 12 ก.ค.นี้ ทั้งนี้จะมีการประเมินภาค ก และภาค ข ตามที่คณะกรรมการสรรหาฯ กำหนด สอบข้อเขียนภาค ก วันที่ 29 ก.ค. ประกาศรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือกภาค ก และภาค ข วันที่ 2 ก.ค. ประเมินภาค ค และสอบสัมภาษณ์ ภาค ค วันที่ 9-11 ส.ค. ประกาศรายชื่อผู้ได้รับการคัดเลือกภายในวันที่ 16 ส.ค.ซึ่งการสอบรอบนี้จะไม่มีการการขึ้นบัญชี และจะดำเนินการคัดเลือกจะเสร็จไม่เกินกลางเดือนกันยายน เพื่อบรรจุแต่งตั้งให้ทันวันที่ 1 ต.ค.เพื่อให้ผู้บริหารได้ทำงานอย่างต่อเนื่อง โดยผู้ได้รับการคัดเลือกต้องผ่านการพัฒนาก่อนบรรจุแต่งตั้ง ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) กำหนด เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 3 เดือน ผู้ได้รับการบรรจุแต่งตั้งต้องเข้ารับการประเมินผลการปฏิบัติงานในหน้าที่ เป็นเวลา 1 ปี
“สพฐ. จะเสนอให้คณะกรรมการก.ค.ศ. พิจารณาปรับปรุงหลักเกณฑ์การสรรหาตำแหน่งผู้บริหารการศึกษาใหม่ โดยในส่วนของผู้อำนวยการ สพท. และรองผู้อำนวยการ สพท. สพฐ.ดำเนินการจัดสอบเช่นเดิม แต่จะให้มีการขึ้นบัญชี 2 ปี ส่วนการสอบผู้อำนวยการโรงเรียนและรองผู้อำนวยการโรงเรียน กระจายอำนาจให้คณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) ดำเนินการคัดเลือกตามหลักเกณฑ์ที่ก.ค.ศ. กำหนด ที่สำคัญคือให้มีการสอบภาค ก และประเมินประวัติการการทำงาน แบบ 360 องศา โดยแต่ละ กศจ.สามารถจัดสอบได้ทันทีที่มีอัตราว่าง ไม่ต้องรอประกาศปฏิทินการสอบจาก สพฐ. เหมือนที่ผ่านมา ส่วนข้อกังวลที่ว่า การประเมินแบบ 360 องศาจะเกิดการเล่นพรรคเล่นพวกเพื่อให้ได้ตำแหน่งนั้น สพฐ. จะมีคณะกรรมการในการกำกับดูแลเพื่อให้การดำเนินการโปร่งใสและเป็นธรรม เชื่อว่าจะไม่มีปัญหา”เลขาธิการกพฐ.กล่าวและว่า ตนเชื่อว่าหากดำเนินการตามนี้ ปัญหาขาดแคลนผู้บริหารสถานศึกษา โดยเฉพาะผู้อำนวยการ และรองผู้อำนวยการโรงเรียนที่เกิดขึ้นมานานจะหมดไป เพราะแต่ละจังหวัดสามารถประเมินได้ว่า แต่ละปีจะมีผู้บริหารโรงเรียนเกษียณอายุราชการกี่ราย และสามารถเปิดสอบได้ก่อนที่จะเกษียณฯ เพื่อบรรจุแต่งตั้งให้ได้ภายในวันที่ 1 ต.ค.ของทุกปี ซึ่งคาดว่าจะเสนอให้บอร์ดก.ค.ศ. พิจารณาได้ภายในเดือนนี้ หากก.ค.ศ. เห็นชอบ กศจ. แต่ละจังหวัดสามารถเปิดสอบคัดเลือกรองผู้อำนวยการโรงเรียนที่ว่างสะสมกว่า 4,000 อัตราได้ทันที รวมถึงสามารถเตรียมแผนคัดเลือกผู้บริหาร ที่จะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 ก.ย. 2562 นี้ได้ด้วย โดยปีนี้มีจะอัตราผู้อำนวยการสพท.ว่าง 35 อัตรา รองผู้อำนวยการสพท. ว่าง 116 อัตรา ผู้อำนวยการโรงเรียน 2,294 อัตราและรองผู้อำนวยการโรงเรียน 330 อัตรา
เลขาธิการ กพฐ. กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ตนยังลงนามในประกาศคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย กรณีที่มีความจำเป็นหรือมีเหตุพิเศษ(ว.17) สังกัด สพฐ. ปี2562 จำนวน 4,804 อัตรา รับสมัครวันที่ 18-24 ก.ค. ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิเข้ารับการคัดเลือก 30 ก.ค. ประเมินประวัติและผลงาน ระหว่างวันที่ 31 ก.ค. ถึงวันที่ 9 ส.ค. สอบข้อเขียนภาค ก และภาค ข วันที่ 10 ส.ค. สอบสัมภาษณ์ วันที่ 11 ส.ค. ประกาศผลการคัดเลือกภายในวันที่ 16 ส.ค. ทั้งนี้ สำหรับสาขาขาดแคลน อาทิ กายภาพบำบัด ซึ่งมักจะไม่มีผู้สมัครสอบขึ้นบัญชี ดังนั้น เพื่อแก้ปัญหาอัตราว่าง สพฐ.จะเสนอให้ก.ค.ศ.พิจารณา ปรับปรุงหลักเกณฑ์โอนอัตราดังกล่าวไปจัดสอบอีกรอบในการสอบครูผู้ช่วยรอบทั่วไป เพื่อไม่ให้มีอัตราว่างและสามารถบรรจุแต่งตั้งได้ทันตามกำหนด
