เมื่อวันที่ 10 ก.ย.2562 นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังประชุมคณะกรรมการสภาการศึกษา เมื่อวันที่ 9 ก.ย.2562 ว่า ตามที่สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษาได้จัดทำแผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2560-2579 ซึ่งเป็นแผนระยะยาว 20ปี เพื่อเป็นแผนแม่บทสำหรับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปใช้เป็นกรอบแนวทางในการพัฒนาการศึกษาในช่วงระยะเวลาดังกล่าวนั้น เรื่องนี้ได้รับฟังความคิดเห็นกันไปหลายรอบแล้ว เพื่อให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญที่บัญญัติไว้ว่าจะต้องรับฟังความคิดเห็นอย่างรอบด้าน ทั้งนี้จะมีการรับฟังความคิดเห็นกันอีก 1-2 ครั้ง ในเรื่องที่มีความกังวลจึงจะสรุปและเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.)ต่อไป
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า ส่วนกรณีที่คณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา (กอปศ) ได้เสนอในร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ…. ต่อที่ประชุมคณะกรรมการกฤษฎีกาและคณะกรรมการกฤษฎีกามีมติเห็นชอบให้กลับไปใช้คำว่า”ครูใหญ่”เหมือนที่ผ่านมาด้วยเหตุผลว่า การที่หัวหน้าส่วนราชการ ซึ่งเป็นครูกลับมาใช้คำว่าครูใหญ่ก็น่าจะทำให้มีพลังในการปฏิรูปเพื่อการศึกษาของเด็กมากกว่า นั้น เรื่องนี้มีผู้ไม่เห็นด้วยมากกว่าผู้เห็นด้วย ซึ่งก็ต้องมาฟังกันอีกครั้งเพราะไม่รู้ว่าที่ไปรับฟังความเห็นมา จะเป็นกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยมากกว่าหรือไม่ อย่างไรก็ตามเพื่อประโยชน์ของการศึกษาไทยในการพัฒนาเด็กและเยาวชนคิดว่าเรื่องนี้ต้องจบแน่นอน ขณะที่เรื่องการประเมินก็ต้องมีอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าจะประเมินในรูปแบบไหน ก็ต้องมาแสดงความคิดเห็นถึงความเหมาะสม แต่อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ไม่ใด้พูดคุยเฉพาะเรื่อง1 หรือ 2 เรื่องเท่านั้น เราได้ประชุมในหลายประเด็นที่เพิ่มเติมมา ซึ่งจะนำไปให้แสดงความคิดเห็นกันอย่างกว้างขวางขึ้น
“อีก 2 เดือนจะปรับปรุงแก้ไขเนื้อหาให้สมบูรณ์ เพื่อเสนอครม.โดยจะมีการนัดประชุมกรรมการสภาการศึกษาอีกครั้งในวันที่ 29 พ.ย.นี้ เพื่อให้ตกผลึก จะไม่เร่งรีบ เพราะไม่ต้องการให้นำมาแก้ไขกันอีก แต่ยืนยันว่าพ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ….จะต้องคลอดในรัฐบาลนี้อย่างแน่นอน แต่อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนแปลงอะไรก็แล้วแต่ จะต้องไม่กระทบกับการศึกษาของไทย”รมว.ศึกษาธิการ กล่าว
