เมื่อวันที่ 29 ต.ค.นายณรงค์ แผ้วพลสง รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มีคำสั่งคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) แต่งตั้งคณะอนุกรรมการพัฒนาบุคลากรตามแนวทางอีอีซีโมเดล โดยมี รมว.อุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม(อว.) เป็นประธาน รมว.ศึกษาธิการ เป็นรองประธาน และหัวหน้าส่วนราชการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเป็นอนุกรรมการ โดยคณะอนุกรรมการชุดนี้มีหน้าที่สำคัญ คือ พิจารณาโครงการพิจารณาหลักสูตรและจัดฝึกอบรมของหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนสถานศึกษาในการจัดฝึกอบรมหลักสูตรระยะสั้นเพื่อพัฒนาบุคลากรตามความต้องการของอุตสาหกรรมเป้าหมาย และ สนับสนุนแนวทางการพัฒนาบุคลากรระยะเร่งด่วนในเขตอีอีซี เพื่อรองรับความต้องการของอุตสาหกรรมเป้าหมาย ตามหลักอีอีซีโมเดล รวมถึงกำกับและให้ข้อคิดเห็นต่อการดำเนินงานของสถานศึกษาในการจัดฝึกอบรมหลักสูตรระยะสั้น เพื่อพัฒนาบุคลากรให้ตรงตามความต้องการและเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด
“ความเข้าใจของผม มองว่า ประเด็นสำคัญ ที่มีการตั้งคณะอนุกรรมการชุดนี้ น่าจะเพื่อแสดงให้เห็นว่า เรื่องนี้ คือ จุดอ่อนและเป็นปัญหาของประเทศ ที่ยังไม่สามารถตอบโจทย์ความต้องการได้ ซึ่งไม่ใช่แค่ปัญหาของ อีอีซี แต่เป็นปัญหาของทั้งประเทศ ที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะต้องมาคุยและช่วยกันแก้ปัญหา โดยในส่วนของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(สอศ.) นั้น หากถามถึงการจัดหลักสูตรระยะสั้น ก็ มีวิทยาลัยสารพัดช่างที่ทำอยู่แล้ว เพียงแต่ที่ผ่านมาวิทยาลัยสารพัดช่างยังไม่สามารถดำเนินการได้เต็มที่ เนื่องจากมีข้อจำกัดในเรื่องงบประมาณที่ได้รับ และยังขาดครูที่มีประสบการณ์ด้านวิชาชีพตามความต้องการของสถานประกอบการและสาขาวิชาที่เปิดสอนก็อาจยังไม่ตอบโจทย์ ดังนั้นต้องมีการยกระดับวิทยาลัยสารพัดช่างให้สอนวิชาชีพที่จะตอบโจทย์ความต้องการของภาคอุตสาหกรรมให้มากขึ้น”ว่าที่เลขาธิการกอศ.กล่าวและว่า อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าถ้า สอศ.ได้รับงบประมาณเพิ่มขึ้น จะสามารถนำเงินมาพัฒนาการจัดการเรียนการสอนได้อย่างครอบคลุมทั่วประเทศไม่เฉพาะพื้นที่อีอีซีเท่านั้น แต่จะเป็นการแก้ปัญหาภาพใหญ่ของประเทศ และยังเป็นการยกระดับวิทยาลัยสารพัดช่างด้วย ซึ่งตนยืนยันว่า สอศ.มีศักยภาพพอที่จะสามารถทำได้ โดยเรามีบุคลากรและยังมีสถานประกอบการที่จะช่วยสนับสนุนด้วย โดยในสัปดาห์หน้าตนเชิญผู้อำนวยการวิทยาลัยสารพัดช่างทั่วประเทศมาหารือร่วมกันก่อน
