เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 26 ก.ค. 2563  ณ พระอุโบสถวัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร  กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม จัดพิธีเจริญนวัคคหายุสมธัมม์ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลวันเฉลิมพระชนมพรรษา 68  พรรษา 28 กรกฎาคม 2563 โดยมีพระธรรมไตรโลกาจารย์ เจ้าอาวาสวัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม  เป็นประธานพิธีฝ่ายสงฆ์ นายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พร้อมด้วยนายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม นายกิตติพันธ์ พานสุวรรณ อธิบดีกรมการศาสนา ข้าราชการ เจ้าหน้าที่กรมการศาสนา หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนเข้าร่วม

นายอิทธิพล  กล่าวว่า ในส่วนกลาง จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ นวัคคหายุสมธัมม์ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 68 พรรษา 28 กรกฎาคม 2563 ณ วัดราชประดิษฐ์  เพื่อเฉลิมพระเกียรติและ ถวายพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลวันเฉลิมพระชนมพรรษา 68 พรรษา 28 กรกฎาคม 2563  เพื่อบำรุงขวัญและกำลังใจให้พุทธศาสนิกชนที่เป็นพสกนิกรภายใต้พระบรมโพธิสมภาร ได้แสดงออกถึงความจงรักภักดี และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ด้วยการนำหลักธรรมจากบทพิธีเจริญนวัคคหายุสมธัมม์ มาปรับใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวัน ประชาชนมีความสามัคคี ปรองดอง ด้วยการทำกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาร่วมกัน โดยมีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทยทั้งชาติ

ในส่วนภูมิภาค ร่วมกับสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดทั่วประเทศ จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์สมโภชพระเจดีย์ หรือพระพุทธรูปสำคัญประจำจังหวัด โดยปฏิบัติตามคำแนะนำด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมสำหรับศาสนสถาน ของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงวัฒนธรรม ให้สอดคล้องกับสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ณ สถานที่เหมาะสม เพื่อส่งเสริมให้พุทธศาสนิกชนได้นำแนวคิด ไปปรับใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวัน รักษาสืบทอดสถาบันหลักของประเทศให้ประชาชนเกิดความภาคภูมิใจ ความรักและหวงแหน เกิดความเลื่อมใสศรัทธา ในสถาบันศาสนาและสถาบันพระมหากษัตริย์

ด้าน นายกิตติพันธ์  กล่าวว่า การสวดมนต์ หรือการเจริญพระพุทธมนต์ มีมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล โดยเชื่อว่าสามารถช่วยป้องกันภัยอันตราย และทำให้เกิดความสุขสวัสดี เมื่อผู้สวดมนต์สวดด้วยความเคารพศรัทธาพร้อมกับแผ่เมตตา และทำใจให้สงบเป็นสมาธิก็จะทำให้พระปริตรนั้นมีพลังและอานุภาพยิ่งขึ้น

การสวดพระปริตรหรือพระพุทธมนต์อันเกี่ยวเนื่องกับหลักโหราศาสตร์ที่เรียกว่า ดาวนพเคราะห์ประจำวันทั้ง 9 คือ วันอาทิตย์ วันจันทร์ วันอังคาร วันพุธ วันพฤหัสบดี วันศุกร์ วันเสาร์ วันราหู (วันพุธกลางคืน) และวันที่สมมติอีก 1 วัน ที่มีนามว่า พระเกตุ ซึ่งทำหน้าที่คุ้มครองบุคคลที่ไม่ทราบวันเกิด ซึ่งหลักคัมภีร์ทางโหราศาสตร์กล่าวไว้ว่า ในวันทั้งเจ็ดนี้ มีเทวดาคุ้มครองเกี่ยวข้องด้วยกำเนิดมนุษย์ อันอาจส่งผลให้เกิดคุณ เกิดโทษ ทำให้เกิดทุกข์ โศก โรคภัย หรือทำให้เกิดความสุข ความเจริญรุ่งเรือง และอายุยืนยาวหรือสั้นได้ ซึ่งตามโบราณประเพณี เมื่อบุคคลอันเป็นที่เคารพนับถือมีอายุครบปีนักษัตร หรือรอบปีที่เป็นวาระสำคัญ ๆ ควรที่จะได้มีการบำเพ็ญกุศลครั้งใหญ่ เพื่อให้เกิดความเป็นสิริมงคล ปราศจากโรคาพยาธิ มีความเจริญรุ่งเรือง อันเป็นการแสดงออกถึงความกตัญญูกตเวที ซึ่งเป็นเครื่องหมายคนดีตามหลักธรรม ของพระพุทธศาสนา.

0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest

0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments