หยอก หยอก วันที่ 1 กรกฏาคม 2568 *** ปากปราศรัยน้ำใจเชือดคอ … คนพูดดีด้วยแต่ในใจไม่บริสุทธิ์ *** สุภาษิตนี้ยังใช้ได้อยู่ในยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะบางคนในกระทรวงศึกษาธิการ *** ลงตัวซะทีกับ ครม.อิ๊ง 2 ที่โผเผเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ก็ขอแสดงความยินดีกับ 3 รัฐมนตรี จาก 3 พรรคที่จะมากุมบังเหียนวังจันทร์เกษม  นำทีมโดย ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่ากระทรวงศึกษาธิการ จากพรรคกล้าธรรม ในรหัส เสมา 1  และ ผศ.ดร.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ จากพรรคเพื่อไทย กับ นายเทวัญ ลิปตพัลลภ จาก พรรคชาติพัฒนากล้า ในตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ …  ก็ได้แต่ฝากความหวังว่า รัฐมนตรีทั้ง 3 จะมาพัฒนาการศึกษาด้วยใจบริสุทธิ์ *** ปรับโหมดมาที่เรื่องค้างจากที่ หยอก หยอก เกริ่นไว้เมื่อครั้งที่แล้วถึงการบริหารงานของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) ที่มีแต่เรื่องร้องเรียนถึงการแต่งตั้งโยกย้าย การสอบขึ้นตำแหน่งต่าง ๆ ที่หลายคนคาใจ ทั้งในส่วนกลาง และในพื้นที่  โดยเฉพาะสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ (สศศ.)ที่ขณะนี้มีการร้องเรียนเรื่องการสอบและการย้ายผู้บริหาร ที่มีเรื่องถึงศาล เรื่องการจัดสรรเงินอุดหนุนเพื่อพัฒนาการศึกษา ซึ่งล่าสุด หยอก หยอก ได้รับข้อมูลถึงการจัดสรรเงินอุดหนุน อาหารกลางวัน อุปกรณ์พัฒนาสื่อการเรียนการสอนที่จัดไม่ครบตามจำนวนนักเรียน เช่น นักเรียน หรือผู้รับบริการในศูนย์การศึกษาพิเศษ มีจำนวน 1,000 กว่าคน แต่ได้รับเงินอุดหนุนเพียง 600 กว่าคน เป็นต้น ก็ไม่ต้องแปลกใจเลยว่าสื่ออุปกรณ์พัฒนาผู้เรียน อาหารกลางวันที่จัดให้เด็ก ๆ จะเพียงพอได้ยังไง … เรื่องนี้หยอก หยอก ก็แค่เป็นสื่อกลางรับเรื่องมาบอก เพื่อให้รัฐมนตรีที่จะมากำกับดูแลช่วยเข้ามาดูหน่อย *** ส่วนการสอบคัดเลือกครูผู้ช่วยกรณีพิเศษ ของ สศศ.กว่า 400 อัตรา ที่โป๊ะแตกเรื่องคะแนนวิทยาศาสตร์ในการสอบภาค ค ที่คนทำงาน 3-4 ปี ได้คะแนนเกือบเต็ม ขณะที่คนทำงานเป็น 10 ปีได้คะแนนน้อยกว่า แว่วว่า มีผู้เสียหายไปยื่นฟ้องที่ศาลปกครองกลางแล้ว และศาลก็รับเรื่องไว้พิจารณา ออกหมายเลขคดีดำเรียบร้อยแล้ว … ก็ว่ากันไป …ลุ้น ๆ *** สอบถาม ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ก็ได้แต่บอกว่า ตั้งคณะกรรมการสืบหาข้อเท็จจริงแล้ว โดยมอบให้ ภัทริยาวรรณ พันธุ์น้อย ผู้ช่วยเลขาธิการ กพฐ. อดีต ผอ.สศศ. เป็นประธาน … งานนี้ เลขาฯธนุ ไม่ได้ขีดเส้นว่าจะต้องสืบให้เสร็จภายในเมื่อไหร่ เพราะไม่อยากกดดันกรรมการสืบข้อเท็จจริง แต่กำชับว่า “โดยเร็ว”  แบบนี้เขาเรียกว่า “ยื้อ”หรือเปล่า.. ก็อยู่ที่กรรมการแล้วหละว่าจะเข้าใจ คำว่า “โดยเร็ว”แค่ไหน … แต่มีพรายแอบกระซิบมาว่า เรื่องนี้มีผู้เกี่ยวข้องเยอะ ทั้งอดีตและปัจจุบัน ไม่รู้ว่าจะสืบเสร็จก่อน หรือ เลขาฯธนุจะเกษียณฯก่อน …ฮะฮ่า  *** ขอแถมอีกสักเรื่อง … โครงการ “ปรับบ้านเป็นโรงเรียน เปลี่ยนพ่อแม่เป็นครู” ซึ่งเป็นโครงการที่ดีเป็นแนวคิดที่ส่งเสริมให้พ่อแม่ผู้ปกครองมีบทบาทในการจัดการเรียนรู้ให้กับลูกหลานที่บ้าน  เน้นการปรับสภาพแวดล้อมในบ้านให้เอื้อต่อการเรียนรู้ และให้พ่อแม่เป็นผู้ดูแลและให้คำแนะนำในการเรียนรู้แทนครูในโรงเรียน โดยเฉพาะสำหรับเด็กที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษถือว่าเป็นกิจกรรมที่ดีมาก … น่าเสียดาย อยู่ ๆ กูถูกตัดงบฯไปซะงั้น…อนิจจัง ***แว่วมาว่า ชูศักดิ์ ศิรินิล รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ สั่งให้ชะลอไว้ก่อน สำหรับ “โครงการส่งเสริมการเรียนรู้ขั้นพื้นฐานทุกที่ ทุกเวลา Anywhere Anytime”ของ สพฐ. เพื่อให้รัฐมนตรีคนใหม่มาทำต่อ ก็ไม่รู้จะเดินหน้าต่ออย่างไร แต่ที่แน่ ๆ อย่างน้อยโครงการนี้ก็เป็นประโยชน์สำหรับครูและนักเรียนที่ต้องเรียนรู้เทคโนโลยี ส่วนจะมาทำกันอย่างไร หยอก หยอก ไม่ยุ่ง แต่ขอให้มีความชัดเจนโปร่งใส เครื่องมืออุปกรณ์ใช้งานได้ อย่าให้ทิ้งเป็นขยะเหมือนอดีตที่ผ่านมา *** หน่วยงานนี้ก็พระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรก จริง ๆ เลย … องค์การค้าของสำนักงานส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา(สกสค.)ที่โรงพิมพ์คู่พิพาทกัดไม่ปล่อย มีเรื่องฟ้องร้องหลายศาลทั้งศาลทุจริตและศาลปกครองที่ต้องหาข้อมูลแก้ต่างในศาลถึงการจัดพิมพ์ตำราเรียนที่ไม่โปร่งใส…เอ้า…ก็หาหลักฐานมาแก้ข้อกล่าวหาให้ได้เด้อ ….ว่าแต่ “ดร.แหม่ม”จะสะสางสารพัดปัญหาในกระทรวงศึกษาธิการได้แค่ไหน…***

0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest

0 Comments
Oldest
Newest Most Voted
Inline Feedbacks
View all comments