เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2568 ที่หอประชุมคุรุสภา กระทรวงศึกษาธิการ มูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ร่วมกับ กระทรวงศึกษาธิการ และกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา จัดงานแถลงข่าว “เปิดตัวครูรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ประเทศไทย และครูรางวัลคุณากร ประจำปี 2568” โดย ดร.กฤษณพงศ์ กีรติกร ประธานกรรมการมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี กล่าวว่า การคัดเลือกครูรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ดำเนินการตั้งแต่ปี 2558 เพื่อเทิดพระเกียรติ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงงานเกี่ยวกับเด็กและเยาวชนมาอย่างยาวนานกว่า 40 ปี จึงมีการขอพระราชานุญาตมอบรางวัลเพื่อเป็นการยกย่องครู เพราะครูเป็นกลไกที่สำคัญของเด็กและเยาวชน และยังเป็นรางวัลที่มอบเพื่อเชิดชูครูที่เปลี่ยนแปลงชีวิตลูกศิษย์ เพราะครูไม่เพียงแต่สอนหนังสือเท่านั้น แต่ครูยังเป็นพ่อแม่คนที่สอง ที่คอยช่วยเหลือลูกศิษย์ บางคนดูแลช่วยเหลือลูกศิษย์ตลอด 24 ชั่วโมงอีกด้วย โดยปัจจุบันมีครูรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี แล้ว 6 รุ่น รวม 69 คน จาก 14 ประเทศ คือ จากกลุ่มประเทศอาเซียน +1 ( ติมอร์-เลสเต) และ ได้เพิ่มเติมอีก 3 ประเทศ คือ ประเทศบังกลาเทศ ภูฏาน และมองโกเลีย ในปี 2568
ดร.กฤษณพงศ์ กล่าวต่อไปว่า นอกจากครูที่ได้รับรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี จำนวน 1 รางวัล ซึ่งจะได้รับพระราชทานเงินรางวัล 10,000 เหรียญสหรัฐ พร้อมเหรียญทอง เข็มเชิดชูเกียรติทองคำ โล่เกียรติคุณพระราชทาน และเกียรติบัตร แล้ว เพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่ครูดีเด่นที่ผ่านการคัดเลือกและกลั่นกรองระดับต่าง ๆ สำหรับประเทศไทยยังมีรางวัลลำดับรองอีก 3 รางวัลซึ่งเป็นรางวัลที่มูลนิธิฯจัดมอบ โดยพระราชานุญาตในสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี คือ 1 .รางวัลคุณากร คือ รางวัลสำหรับครู ผู้พร้อมด้วยคุณธรรม คุณลักษณ์ คุณค่าความเป็นครู อุทิศตนพัฒนาชีวิตศิษย์ เจริญสู่ความสำเร็จตลอดมา เป็นครูที่มีคะแนนลำดับ ที่ 2 และ ที่ 3 ได้รับเหรียญเงิน เข็มเชิดชูเกียรติพระราชทาน และเกียรติบัตร 2. รางวัลครูยิ่งคุณ คือ รางวัลสำหรับครูผู้เพียรพัฒนางานสอนศิษย์ เจริญด้วยปัญญาและกรุณา สร้างแรงบันดาลใจ เสริมศรัทธาต่อวิชาชีพครูต่อเนื่องยาวนาน เป็นครูที่มีคะแนนลำดับที่ 4-20 ซึ่งจะได้รับเหรียญทองแดง เข็มเชิดชูเกียติพระราชทาน และเกียรติบัตร 3.รางวัลครูขวัญศิษย์ คือรางวัลสำหรับครูผู้มีผลงานที่แสดงความรู้ คุณธรรม ความสามารถประจักษ์ชัด สอนศิษย์ด้วยจิตเปี่ยมเมตตา นำทางชีวิต สร้างคุณค่าสู่สังคม เป็นครูที่มีคะแนนลำดับที่ 21 เป็นต้นไป โดยจะได้รับเข็มเชิดชูเกียรติพระราชทาน และเกียรติบัตร ทั้งนี้ ในปี 2568 มีครูที่ได้รับรางวัลคุณากร รางวัลครูยิ่งคุณ และรางวัลครูขวัญศิษย์ รวม 216 คน โดยทางมูลนิธิฯจะให้ทุนไปทำโครงการตามความฝันเช่นกัน
ดร.พิเชฐ โพธิ์ภักดี รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ครูเครือข่ายมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ได้พิสูจน์ถึงชีวิตที่ทุ่มเท เป็นแบบอย่างของความเป็นครูผู้สร้างการเปลี่ยนแปลงในชีวิตลูกศิษย์และมีคุณูปการต่อวงการศึกษา ถือว่ามีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการยกระดับคุณภาพการศึกษาที่เน้นการเรียนรู้ที่มีผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง ผ่านนวัตกรรมที่พัฒนาขึ้นจากประสบการณ์ตรงของครู ซึ่งเป็นการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ด้วยการส่งเสริมการเรียนรู้ในพื้นที่ห่างไกลและประชากรในกลุ่มเปราะบางต่าง ๆ นอกจากนี้บทเรียนและนวัตกรรมการศึกษาที่เกิดขึ้นยังเป็นส่วนสำคัญของการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาสู่การเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง ด้วยการเสริมสร้างทักษะใหม่ และการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในระดับเครือข่ายทั้งในประเทศและภูมิภาค และส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต หรือเป็นปรับเปลี่ยนการศึกษาให้สอดรับกับโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยปีนี้ ครูรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ประเทศไทย ปี 2568 คนที่ 6 คือ ครูไพรวัลย์ ยาปัญ จากโรงเรียนบ้านกองม่องทะ (สาขาบ้านไล่โว่) อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี
ครูไพรวัลย์ กล่าวว่า แรงบันดาลใจที่ทำให้ตัดสินใจเริ่มเป็น ‘ครูอาสา’ และร่วมผลักดันให้เกิดการจัดตั้งโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านปิล๊อกคี่ โดยได้ตั้งปณิธานไว้ว่า อยากพัฒนาเด็กในถิ่นทุรกันดาร จึงตัดสินใจเดินทางมาที่บ้านกองม่องทะ ซึ่งต้องเดินเท้าเข้าพื้นที่ในขณะนั้น เพื่อเป็นครูอาสา ท่ามกลางสถานการณ์ที่ชาวบ้านกำลังหมดศรัทธาต่อการศึกษา เพราะครูอยู่ได้ไม่นานก็ย้ายออก ครูมดจึงเข้ามาสอนทุกวิชาและทุกระดับชั้น เป็นเวลา 17 ปี จากการผลักดันให้เกิดการจัดตั้งโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านปิล๊อกคี่ จากโรงเรียนชั่วคราวให้เป็นโรงเรียนในสังกัดกองตำรวจตระเวนชายแดนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ได้นั้น จึงนำมาพัฒนาให้ห้องเรียนสาขาบ้านไล่โว่ เป็นโรงเรียนสาขาบ้านไล่โว่ ทำให้นักเรียนที่จบประถมศึกษาตอนปลายไม่ต้องกลับมาเรียนซ้ำ ซึ่งการปฏิบัติต่อลูกศิษย์ทุกคนอย่างสม่ำเสมอเท่าเทียม โดยจัดการศึกษาเด็กเป็นรายบุคคลทั้งพื้นฐานความรู้ ทักษะชีวิต และความถนัดที่ต่างกัน ใช้สิ่งแวดล้อมรอบตัวเป็นสื่อการสอน จนเด็กอ่านเขียนภาษาไทยได้ ทำให้นักเรียนสามารถมีผลการทดสอบระดับชาติ O-Net ในวิชาภาษาไทยของนักเรียนชั้น ป.6 ที่สูงกว่าผลทดสอบระดับประเทศได้สำเร็จ รวมถึงริเริ่มกิจกรรม ‘ขายข้ามเขาออนไลน์ By Kongmongta School’ เพื่อบ่มเพาะให้เป็นผู้ประกอบการ และตั้งใจอุทิศตนทำหน้าที่ครูต่อไป ให้ลูกศิษย์ถึงฝั่งที่ฝันให้ได้มากที่สุด
ขณะที่ ครูไพลรัตน์ สำลี ครูวิทยาลัยการอาชีพศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย ครูรางวัลคุณากร ปี 2568 ครูนักประดิษฐ์นวัตกรรมพลังงานทดแทน รวมทั้งเทคโนโลยีสิ่งประดิษฐ์ที่ได้รับรางวัลระดับนานาชาติ เพื่อใช้ประโยชน์ต่อผู้พิการ กล่าวว่า ตนเริ่มต้นชีวิตครูอัตราจ้างที่วิทยาลัยการอาชีพศรีสัชนาลัย ปัจจุบันดำรงตำแหน่งพนักงานราชการ ประเภทครูผู้สอน สังกัดวิทยาลัยการอาชีพศรีสัชนาลัย เป็นระยะเวลากว่า 26 ปี และอยากที่จะส่งต่อความรู้ ให้การช่วยเหลือลูกศิษย์ให้ได้รับโอกาสและพัฒนาตนเอง รวมถึงลูกศิษย์ที่ขาดโอกาสเป็นผู้พิการให้ได้รับการช่วยเหลือให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นพร้อมกับมีรายได้ เป็นกำลังในการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่จังหวัดสุโขทัย เพราะลูกศิษย์คือเครือข่ายที่ดี ที่เอามันสมองของผมไปกระจายความรู้
ส่วน ครูทอน บัวเรือง ครูโรงเรียนบ้านดงน้ำเดื่อ จ.เพชรบูรณ์ ครูรางวัลคุณากร ปี 2568 ครูผู้ไม่หยุดความเป็นครูแม้จะเลยวัยเกษียณ ยังคงถ่ายทอดความรู้จนลูกศิษย์ประสบความสำเร็จ กล่าวว่า คุณภาพการสอนของครูสามารถเปลี่ยนชีวิตลูกศิษย์ได้ แม้ลูกศิษย์ที่เรียนรู้ช้าหรือมีข้อจำกัดทางทรัพยากรระหว่างโรงเรียนในเมืองกับชนบท ครูต้องให้ความสำคัญกับการเรียนรู้จากประสบการณ์ตรง พยายามเชื่อมโยงบทเรียนเข้ากับชีวิตของนักเรียน ทำให้การเรียนมีความหมายและนำไปใช้ได้จริง โดยปรับวิธีการสอนอยู่เสมอ สังเกตการตอบสนองของนักเรียน วิเคราะห์ข้อดีข้อจำกัด และพัฒนาให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่หากครูมีใจรักและมุ่งมั่นพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง ความสำเร็จของลูกศิษย์ คือ ดอกไม้ที่หอมหวานที่สุดในสวนแห่งชีวิตครู และการศึกษาที่มีคุณภาพไม่ควรจำกัดอยู่แค่ในเมือง ทุกพื้นที่ควรมีโอกาสเท่าเทียมกัน