เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2568 กรมส่งเสริมการเรียนรู้ (สกร.) ร่วมกับ กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เพื่อขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาบุหรี่ไฟฟ้าอย่างเป็นระบบ ผ่านกระบวนการเรียนรู้ที่เข้าถึงง่าย เข้าใจได้จริง และสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน โดยมุ่งสร้างสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่ปลอดภัย และเสริมสร้างภูมิคุ้มกันด้านสุขภาวะให้แก่ผู้เรียนและประชาชนทุกช่วงวัยทั่วประเทศ โดย ดร.เกศทิพย์ ศุภวานิช อธิบดีกรมส่งเสริมการเรียนรู้ร่วมเป็นประธานในพิธี และมี นางยุพิน บัวคอม รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเรียนรู้ ผู้บริหารและบุคลากรจากส่วนกลาง หน่วยงานการศึกษา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ประจำกรุงเทพมหานคร และผู้อำนวยการ สกร.ระดับเขตในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เข้าร่วม ขณะที่ฝ่าย สสส. นำโดย นายแพทย์พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) พร้อมคณะผู้บริหารและภาคีเครือข่าย ร่วมเป็นสักขีพยาน ณ ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาการเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์ ท้องฟ้าจำลอง
ดร.เกศทิพย์ กล่าวว่า ปัญหาบุหรี่ไฟฟ้าไม่ใช่เพียงประเด็นด้านสุขภาพเท่านั้น แต่เป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อคุณภาพชีวิต การเรียนรู้ และอนาคตของเยาวชนไทย ความร่วมมือในครั้งนี้จึงไม่ใช่เพียงพิธีลงนาม แต่เป็นการประกาศเจตนารมณ์ร่วมกันในการใช้ “การเรียนรู้” เป็นเครื่องมือสำคัญในการป้องกันปัญหาเชิงรุกตั้งแต่ต้นทาง ซึ่งกลุ่มเป้าหมายของ สกร. ครอบคลุมประชาชนทุกช่วงวัย ทำให้สามารถขยายองค์ความรู้ที่เป็นประโยชน์ไปสู่ทุกครัวเรือนได้อย่างทั่วถึง ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ที่มุ่งส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต และการพัฒนาทักษะชีวิตที่ถูกต้อง เพื่อให้ประชาชนสามารถดูแลสุขภาวะของตนเองได้อย่างยั่งยืน
อธิบดี สกร. กล่าวว่า สกร.มีความพร้อมในการเข้าถึงชุมชนและครัวเรือนทั่วประเทศ โดยสิ่งสำคัญที่จะเข้ามาเติมเต็ม คือองค์ความรู้ หลักสูตร และสื่อการเรียนรู้ที่ทันสมัยจาก สสส. ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญด้านสุขภาพ โดยเฉพาะการสร้างภูมิคุ้มกันต่อบุหรี่ไฟฟ้า อันจะนำไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตและสุขภาพที่ดีของคนไทยในทุกช่วงวัยเครือข่ายศูนย์การเรียนรู้ของ สกร. ที่กระจายอยู่ในทุกพื้นที่ของประเทศ เป็นกลไกสำคัญในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างครอบคลุม ทั้งเด็ก เยาวชน วัยทำงาน และประชาชนทั่วไป ทำให้การสื่อสารและการเรียนรู้ด้านสุขภาวะสามารถลงลึกถึงระดับชุมชน และนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงเชิงพฤติกรรมได้อย่างแท้จริง
“เมื่อ สสส. จับมือกับ สกร. ขอให้มั่นใจว่า สกร. จะนำองค์ความรู้และสื่อด้านสุขภาพที่ได้รับไปถ่ายทอดอย่างเป็นระบบ เพื่อสร้างสุขภาวะที่ดีในทุกครัวเรือน เพราะการสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพ คือเกราะคุ้มกันที่สำคัญที่สุดของผู้เรียน หากผู้เรียนเข้าใจผลกระทบของบุหรี่ไฟฟ้าอย่างถูกต้อง ก็จะสามารถตัดสินใจเลือกพฤติกรรมที่ปลอดภัย และรับผิดชอบต่อชีวิตของตนเองได้” อธิบดี สกร. กล่าวและว่า ภายใต้บันทึกข้อตกลงความร่วมมือนี้ สกร. และ สสส. จะร่วมกันพัฒนานโยบาย หลักสูตร และสื่อการเรียนรู้ด้านสุขภาวะที่ทันสมัย เข้าใจง่าย และสอดคล้องกับบริบทของผู้เรียนในแต่ละพื้นที่ รวมถึงพัฒนาระบบข้อมูลที่มีความถูกต้องน่าเชื่อถือ พร้อมเสริมพลังให้ผู้บริหาร ครู และผู้เรียน มีบทบาทเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงด้านสุขภาพในชุมชน โดยใช้เครือข่ายสถานศึกษาและศูนย์การเรียนรู้ของ สกร. ทั่วประเทศเป็นฐานสำคัญในการขยายผลอย่างเป็นรูปธรรม
ด้าน นพ.พงศ์เทพ กล่าวว่า สถานการณ์การใช้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นความท้าทายสำคัญต่อทั้งระบบสาธารณสุขและการศึกษาของประเทศไทย โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและเยาวชน สสส. ตระหนักถึงพิษภัยและความรุนแรงของปัญหาที่อาจบั่นทอนคุณภาพชีวิตและสุขภาพของเยาวชนไทย จึงร่วมมือกับ สกร. ในการขับเคลื่อนมาตรการและกลไกการสร้างพื้นที่เรียนรู้ปลอดบุหรี่ไฟฟ้า เสริมสร้างภูมิคุ้มกันทางความคิด และใช้เทคโนโลยีในการเผยแพร่สื่อสุขภาพอย่างมีประสิทธิภาพ โดยความร่วมมือระหว่าง สกร. และ สสส. ในครั้งนี้ คาดว่าจะช่วยลดความเสี่ยงด้านสุขภาพจากบุหรี่ไฟฟ้าในกลุ่มผู้เรียน เสริมสร้างสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่ปลอดภัย และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในระยะยาว อันเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาทุนมนุษย์และความมั่นคงของประเทศอย่างยั่งยืน







