เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2562 นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้มาที่กระทรวงศึกษาธิการมาให้นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ และผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) เพื่อนำหลักฐานเอกสารเพิ่มเติมเพื่อนำไปเป็นหลักฐานในการสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีข้าราชการครูในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.)บางคนได้แอบอ้างว่าสามารถช่วยเหลือเหยื่อในการสอบเข้ารับราชการครูในสังกัดสพฐ.ได้

โดยนายอัจฉริยะ กล่าวว่า ตนได้รับร้องเรียนจากเหยื่อผู้เสียหายว่า มีผู้แอบอ้างว่าเป็นลูกน้องคนสนิทของ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สามารถช่วยเหลือให้สอบบรรจุเป็นข้าราชการครูที่กำลังจะมีการรับสมัครสอบในเร็วๆนี้ได้ แต่ต้องจ่ายเงินจำนวน 600,000 บาท และให้จ่ายเงินมัดจำก่อนคนละ 50,000 บาท โดยรับรองว่าจะต้องสอบบรรจุได้ 100%  ซึ่งได้ยืนยันกับเด็กและผู้ปกครองว่าจะได้เป็นครูแน่นอนเพราะได้ซื้อข้อสอบจากส่วนกลางมาแล้ว ซึ่งก็มีผู้โอนเงินไปแล้ว 3 ราย

 “คนที่อ้างว่าสามารถช่วยให้เป็นครูได้ เป็นข้าราชการครูระดับผู้บริหารในจังหวัดสุรินทร์ และตอนนี้ผมก็มีหลักฐานทั้งเสียงบันทึกการสนทนา การคุยกันในไลน์ วิดีโอ ชื่อ และบัญชีการโอนเงิน ซึ่งดูแล้วน่าจะไม่ยากกับการสืบสวน เพราะมีหลักฐานที่ชัดเจน ซึ่งได้มอบให้กับสพฐ.ไว้แล้ว”นายอัจฉริยะ กล่าว

ดร.สุเทพ ชิตยวงษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.)กล่าวว่า ตนได้มอบหมายให้นายพีระ รัตนวิจิตร รองเลขาธิการกพฐ. เป็นประธานการสืบสวนหาข้อเท็จจริง ถ้าผลการสืบสวนออกมาว่ามีข้าราชการในสังกัดสพฐ.ไปแอบอ้างตนจริง จะต้องเอาตัวมาให้ได้ และต้องดำเนินการให้ถึงที่สุด ไล่ออกสถานเดียวเพราะถือว่าเรื่องนี้เป็นความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ถ้าไม่ใช่ข้าราชการก็ต้องดำเนินการตามกฏหมาย อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ตนได้ทำบันทึกถึงรมว.ศึกษาธิการ แล้ว และได้ประสานไปยังนายอัจฉริยะ เพื่อขอข้อมูลที่มีอยู่ทั้งหมด แต่อย่างไรก็ตาม เรื่องการบรรจุครูเป็นอำนาจของคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด(กศจ.)ซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัด  แต่ละจังหวัดเป็นประธาน ทั้งนี้ตนเชื่อว่ากศจ.คงไม่ทำเรื่องเหล่านี้แน่ เพราะมีผู้ว่าราชการจังหวัดนั่งหัวโต๊ะ

ด้านนายพีระ กล่าวว่า ช่วงนี้สพฐ.ไม่มีการสอบบรรจุครูเข้ารับราชการ เพราะดำเนินการตั้งแต่เดือนสิงหาคมแล้ว อย่างไรก็ตามเรื่องนี้เป็นเรื่องที่กระทบและสร้างความเสียหายให้กับคนและองค์กรด้วย ซึ่งตนจะลงไปสืบสวนข้อเท็จจริงด้วยตัวเองในวันที่ 18 ก.ย.นี้ และเรื่องนี้น่าจะได้คำตอบได้เร็ว เพราะมีหลักฐานชัดเจน แต่ทั้งนี้ก็ต้องลงไปดูว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร

0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest

0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments