เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน นายสวัสดิ์ เพชรบูรณ์  ผู้อำนวยการโรงเรียนหอวัง เปิดเผยว่า ตนพร้อมด้วยครู และบุคลากรทางการศึกษา เป็นตัวแทน กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบ กรณีสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) พิจารณาว่าเป็นผู้ไม่มีคุณสมบัติ เข้ารับการประเมินเพื่อขอมีหรือเลื่อนวิทยฐานะ ตามหนังสือสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ที่ ศธ.0206.3/ว13 เรื่อง การให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้มีผลงานดีเด่นที่ประสบผลสำเร็จเป็นที่ประจักษ์ มีวิทยฐานะหรือเลื่อนเป็นวิทยฐานะชำนาญการพิเศษและวิทยฐานะเชี่ยวชาญ  จำนวนกว่า 1 พันราย เข้ายื่นหนังสือ ร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมเกี่ยวกับการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้มีผลงานดีเด่นที่ประสบผลสำเร็จเป็นที่ประจักษ์ที่มีวิทยฐานะหรือเลื่อนเป็นวิทยฐานะชำนาญการพิเศษและวิทยฐานะเชี่ยวชาญทุกตำแหน่ง ต่อนพ.ธีระเกียรติ  เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ  และนายพินิจศักดิ์  สุวรรณรังค์ เลขาธิการก.ค.ศ. หลังจากได้ยื่นเรื่องดังกล่าวต่อ ดร.บุญรักษ์  ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ไปแล้ว นั้น

     นพ.ธีระเกียรติ กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา  (ก.ค.ศ. ) ว่า ที่ประชุมพิจารณากรณีผู้ได้รับผลกระทบตามว13 ได้ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรม  และมีมติ ยืนยันที่จะไม่ทบทวนหลักเกณฑ์การขอมีหรือเลื่อนวิทยฐานะ  แต่เห็นว่าผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเกณฑ์ดังกล่าวมีสิทธิที่จะขอความเป็นธรรม โดยมีทางออกคือจะรับทบทวนเป็นรายกรณี  โดยให้ผู้ที่ไม่ผ่านการพิจารณามีหนังสือขอทบทวนพร้อมเหตุผลผ่านต้นสังกัด และหากขอทบทวนแล้วผลไม่เป็นที่พอใจก็สามารถที่จะฟ้องศาลปกครองได้ตามสิทธิ  แต่การจะให้ทบทวนยกล็อตโดยกฎหมายแล้วเป็นไปไม่ได้

     นายพินิจศักดิ์   กล่าวว่า ที่ประชุมได้พิจารณาเรื่องดังกล่าว และมีมติเห็นชอบให้ผู้ที่รู้สึกว่า เสียสิทธิและไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการพิจารณา ของสำนักงานก.ค.ศ.  สามารถแจ้งขอให้ทบทวน ได้โดยให้แจ้งผ่านต้นสังกัด คือ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เพื่อเสนอให้ สำนักงานก.ค.ศ. พิจารณา เป็นรายบุคคล  ทั้งนี้ ผู้ที่ข้อเข้ารับการประเมินวิทยฐานะ ตามว13 ในกลุ่มดังกล่าว มีจำนวน 5,337 ราย พิจารณาไปแล้ว 1,888 ราย เป็นผู้มีคุณสมบัติ 364 ราย และเป็นผู้ไม่มีคุณสมบัติ 1,524 ราย ในจำนวนนี้ คาดว่า เป็นผู้ที่จะเกษียณอายุราชการ  ในวันที่ 30 กันยายน 2561 ประมาณ 40 รายเท่านั้น ซึ่งที่ประชุม จะเร่งพิจารณากลุ่มนี้ก่อน แต่เจ้าตัวต้องยื่นเสนอขอทบทวนผ่านสังกัดมาด้วยตัวเอง ส่วนที่ขอให้มีการทบทวนการ รับรองรางวัลสูงสุดระดับชาติขึ้นไปตาม ว1  จำนวน 203 รางวัลนั้น  ที่ประชุมมีมติจะยึดหลักเกณฑ์การประเมินรางวัลตามว1 เช่นเดิม และจะไม่มีการแก้ไขหลักเกณฑ์การประเมินระหว่างทาง เพราะวันที่เสนอและมีการรับรอง 203 รางวัล  เป็นไปอย่างถูกต้องแล้ว

     “ทางสำนักงานก.ค.ศ. ยืดยันว่า ไม่ได้ลิดรอนสิทธิใคร เมื่อมีผู้ร้องเรียนมา เราก็เปิดโอกาสให้ทบทวน แต่ให้ทบทวนเป็นรายบุคคล ไม่ใช่การให้ยกล็อต  ใครที่คิดว่า มีปัญหาก็ให้เสนอขอทบทวนเข้ามา ส่วนผู้ที่อยู่ระหว่างการพิจารณา กว่า 3,000 ราย นั้น ขณะนี้ต้องรอผลการพิจารณาจากสำนักงานก.ค.ศ. ว่า เป็นผู้มีคุณสมบัติหรือไม่นั้น ก็ต้องรอผลการพิจารณาก่อน”นายพินิจศักดิ์ กล่าว

0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest

0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments