เมื่อวันที่ 1ธันวาคม 2565 ที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา(สพป.) ชัยภูมิเขต 1 จังหวัดชัยภูมิ นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(รมว.ศธ.)ลงพื้นที่ตรวจติดตามการดำเนินงานตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) พร้อมเยี่ยมชมบูธนิทรรศการของสถานศึกษาต่างๆ โดยมีนายโสภณสุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ กล่าวต้อนรับ และนายนิวัฒน์ แก้วเพชร ผู้อำนวยการ สพป.ชัยภูมิ เขต 1 กล่าวรายงานภาพรวมการจัดการศึกษาของจังหวัดชัยภูมิ

­

..ตรีนุช กล่าวว่า จากการมาร่วมงาน พบว่า ทุกสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาในจังหวัดชัยภูมิมีนวัตกรรมหรือวิธีปฏิบัติที่ดี (Best practice) เช่น เรื่องทักษะอาชีพสพป.ชัยภูมิ เขต 1 ร่วมกับ อาชีวศึกษาจังหวัดชัยภูมิ จัดการเรียนการสอนอาชีพให้แก่นักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้น จำนวน 56 โรงเรียน ใน 15 สาขาอาชีพ รวมนักเรียน 3,200 คนทำให้นักเรียนมีทักษะอาชีพ รู้ความถนัดของตัวเอง และสามารถต่อยอดในการเรียนในระดับสายอาชีพที่สูงขึ้น ซึ่งตนขอฝากให้มีการต่อยอดสู่หลักสูตรทวิศึกษาในสถานศึกษาที่มีความพร้อม ขณะที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา(สพท.) อื่นๆ ก็มีการจัดหลักสูตรท้องถิ่นเพื่อทักษะอาชีพ ต่อยอดภูมิปัญญา Soft Power ที่สอดคล้องกับเศรษฐกิจและการประกอบอาชีพในท้องถิ่น เช่น โครงการอารยเกษตรฯ โรงเรียนวัวที่สอนวิชาปศุสัตว์การเลี้ยงวัวโครงงานอาชีพผลิตภัณฑ์จากผ้าขาวม้า เป็นต้น

การลงพื้นที่ตรวจติดตามงานครั้งนี้ ทำให้เห็นความพยายาม ความมุ่งมั่นในการนำนโยบายของ ศธ. สู่การปฏิบัติ ซึ่งดิฉันขอชื่นชมที่ทุกเขตพื้นที่ฯให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายของ ศธ.เพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียนครบทุกมิติ ทั้งทางร่างกายอารมณ์ สังคม และ สติปัญญา ได้เห็นภาพการขับเคลื่อนการศึกษาเพื่อพัฒนาเยาวชนให้สอดรับกับความต้องการของบริบทพื้นที่ โดยการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนทั้งภาคเอกชน จังหวัด และหน่วยงานการศึกษา ที่ดำเนินงานร่วมกันแบบบูรณาการ เช่น ผลงานการส่งเสริมการเรียนการสอนภาษาต่างประเทศ โครงการปลูกปัญญาภาษาอังกฤษ ที่ชมรม HIC ELS เสริมทักษะทางภาษาเพื่อสังคมไทย และ มีการสร้างเครือข่ายการเรียนรู้กับต่างประเทศ ดิฉันเชื่อมั่นว่าจังหวัดชัยภูมิเป็นจังหวัดที่ขับเคลื่อนการศึกษาได้อย่างเข้มแข็งรมว.ศธ.กล่าว

..ตรีนุช กล่าวด้วยว่า ในบทบาท ของ รมว. ศธ. ตนได้สนับสนับการดำเนินงานของโรงเรียนโดยผลักดันให้มีการเพิ่มอัตราเงินอุดหนุนรายหัวการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานและเพิ่มเงินอุดหนุนอาหารกลางวัน จึงขอให้ใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และเร็วๆนี้จะมีการแยกรายวิชาประวัติศาสตร์ออกมาเป็น 1 รายวิชาอย่างเป็นทางการขอฝากเรื่องการเรียนการสอนประวัติศาสตร์ กับ soft power และช่วยกันว่าจะทำอย่างไรให้กระบวนการเรียนการสอนประวัติศาสตร์เป็นมากกว่าการท่องจำ เป็นการเรียนที่มีความสุข เด็กได้เห็นคุณค่าของประวัติศาสตร์ในแต่ละยุคสมัย เด็กจะได้ภาคภูมิใจ ได้เรียนรู้คิดวิเคราะห์ไปกับกระบวนการต่าง เหล่านี้.

0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest

0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments