เมื่อวันที่ 19 พ.ย.นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ตนได้รับร้องเรียนจากบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง กรณีโครงการเครือข่ายสารสนเทศเพื่อพัฒนาการศึกษา หรือ UniNet ของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ว่าในการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์มีราคาต่ำกว่าราคากลางที่กรมบัญชีกลางกำหนดเพียง 100,000 บาท ทั้งที่งบโครงการฯวงเงิน 200 ล้านบาท ซึ่งตนได้มอบให้ทีมกฎหมายของตนและพล.อ.โกศล ประทุมชาติ ที่ปรึกษา รมว.ศึกษาธิการ ไปตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า การเขียนขอบเขตงานหรือ ทีโออาร์ บางข้อเขียนเฉพาะเจาะจงเกินไป เช่น บริษัทที่เข้าประมูลต้องมีสำนักงานอยู่ในรัศมี 1 กิโลเมตรจาก สกอ.ซึ่ง ดร.สุภัทร จำปาทอง เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) หารือไปยังกรมบัญชีกลางว่าการเขียนข้อกำหนดนี้เป็นการล็อกสเปกหรือไม่ ดังนั้น ตนจึงสั่งให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยมอบหมายให้ ดร.อำนาจ วิชยานุวัติ รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เป็นประธาน ให้ลงไปดูในรายละเอียดในทีโออาร์ เพราะได้ตรวจสอบข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องแล้วว่าเป็นอำนาจของรัฐมนตรี ไม่ใช้อำนาจของเลขาธิการ กกอ.ซึ่งมีหน้าที่ในการประกาศทีโออาร์เท่านั้น
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า อย่างไรก็ตาม การสอบครั้งนี้ไม่ได้สอบใครเป็นการเฉพาะ ตนให้สอบในเรื่องทีโออาร์แต่ถ้าพัวพันไปถึงใครก็โดนหมด ซึ่งเรื่องนี้คาดว่าจะจบเร็วเพราะทีโออาร์มีอยู่ชัดเจนว่าล็อกสเปกจริงหรือไม่ เช่น ที่กำหนดว่าต้องห่างจากสกอ.1 กม.แต่เท่าที่ทราบในข้อกำหนดเดิมไม่มีเงื่อนไขนี้ แล้วครั้งนี้มีได้อย่างไร และนี่เป็นครั้งแรกที่ตนสั่งให้ สกอ.ดำเนินการเปิดประมูล ส่วนที่ ดร.สุภัทร จะถามไปยังกรมบัญชีกลาง ซึ่งความเห็นของกรมบัญชีกลางไม่ใช่ความเห็นว่าล็อกสเปก หรือไม่ล็อกสเปก เพราะในประเด็นนี้เป็นเรื่องที่ฝ่ายกฎหมายต้องเป็นผู้ชี้ แต่ที่สุดถ้ามีการถกเถียงว่าฝ่ายกฎหมายชี้ผิด ก็ต้องไปสู่ขั้นตอนของศาล อย่างไรก็ตาม ยังมีประเด็นในเชิงเทคนิค อุปกรณ์ต่างๆที่เกี่ยวข้องด้วย ซึ่งขณะนี้การประมูลจบแล้ว แต่มีคนโวยวายและทำหนังสือร้องเรียนขึ้นมา พอส่งคนไปสืบทีมกฎหมายตนก็ยืนยันว่าพบข้อพิรุธ ขณะเดียวกัน ตนมีคำถามต่อด้วยว่าเหตุใดที่ผ่านๆมาไม่ประมูล ตรงนี้ก็ต้องไปดูด้วย ซึ่งเรื่องนี้ก็คงคล้าย MoeNet ศธ.
ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯและขณะนี้การประมูลก็เสร็จสิ้นแล้วจากนี้จะต้องชะลอกระบวนการในขั้นต่อไปก่อนหรือไม่ นพ.ธีระเกียรติ กล่าวว่า เรื่องนี้ใครมีหน้าที่ก็ต้องไปดู ตนไม่ทราบต้องไปถามเลขาธิการ กกอ.ถ้าพูดอะไรไปเหมือนตนไปสั่งเขา แต่เมื่อมีคนร้องเรียนและรู้แล้วว่าอาจจะมีการล็อกสเปกก็ต้องลงไปตรวจสอบ ซึ่งการล็อกสเปกก็ต้องมาจากคนที่ออกสเปก เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับบริษัทเอกชน เป็นเรื่องคนของเราที่ต้องจัดการ อย่างไรก็ตาม ถ้าเราพบว่ามีการล็อกสเปกจริงแล้วยังไม่จ่ายเงินจะเป็นการดำเนินการหรือไม่ ส่วนบริษัทที่ชนะการประมูลไปเป็นเจ้าเดียวกับผู้ที่เคยดำเนินการอยู่หรือไม่ตนไม่ทราบ
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ถ้ากรณีนี้เลขาธิการ กกอ.เป็นผู้ลงนามในทีโออาร์จะต้องมีความผิดด้วยหรือไม่ นพ.ธีระเกียรติ กล่าวว่า ถ้าตรวจสอบถึงใครก็โดนหมด ซึ่งคณะกรรรมการตรวจสอบฯจะลงไปดูว่าล็อกได้อย่างไร ใครรับผิดชอบแค่ไหน และหากเลขาธิการ กกอ.เซ็นจริงแต่ไม่รู้อะไรก็อาจจะผิดแง่ไม่อ่านให้ละเอียด หรือสรุปมาว่าไม่ล็อกสเปกก็จบกันไป

0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest

0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments