เมื่อวันที่ 24 ก.พ. ที่ สนามบุรีรัมย์ สเตเดี้ยม หรือ สนามช้างอารีนา จังหวัดบุรีรัมย์ นายณรงค์ แผ้วพลสง เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.)เป็นประธานในพิธีปิดการแข่งขันกีฬาฟุตบอล รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี ชิงแชมป์ประเทศไทย ระดับอาชีวศึกษา ครั้งที่ 2 โดยคู่ชิงชนะเลิศระหว่างทีมอาชีวศึกษาบุรีรัมย์ กับทีม อาชีวศึกษาศรีสะเกษ ผลปรากฎว่า ทีมอาชีวศึกษาศรีสะเกษ คว้าชัยด้วยคะแนน 5 ต่อ 3 คว้าถ้วยรางวัลชนะเลิศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และทุนการศึกษา 100,000 บาท ส่วนทีมอาชีวศึกษาบุรีรัมย์ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 รับถ้วยรางวัลเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา และทุนการศึกษา 50,000 บาท สำหรับทีมวิทยาลัยเทคโนโลยีพณิชยการราชดำเนิน คว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 พร้อมถ้วยรางวัลจากเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา และทุนการศึกษา 30,000 บาท และทีมอาชีวศึกษากำแพงเพชรรับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 3 และทุนการศึกษา 20,000 บาท

โดยการแข่งขันครั้งนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 18-24 ก.พ. ณ สนามบุรีรัมย์ สเตเดี้ยม จังหวัดบุรีรัมย์ โดยมีทีมที่เข้าร่วมการแข่งขันจำนวน 16 ทีม เป็นตัวแทนจากภาคเหนือ 3 ทีม ภาคใต้ 2 ทีม ภาคกลาง 2 ทีม ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 5 ทีม และ โรงเรียนในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา 32 บุรีรัมย์ ภาคตะวันออกและกรุงเทพฯ 4 ทีม

เลขาธิการ กอศ. กล่าวต่อไปว่า สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) มีนโยบายส่งเสริมสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพและความสามารถของนักเรียน นักศึกษา อาชีวศึกษาให้เป็นผู้พร้อมด้วยความรู้ คุณภาพ และคุณธรรม มีความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ บำเพ็ญประโยชน์ต่อผู้อื่นตลอดจนสังคม และประเทศชาติ โดยนำกิจกรรมกีฬามาสร้างสรรค์ และพัฒนาเยาวชนให้ตระหนักถึงการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่น และยกระดับมาตรฐานการแข่งขันกีฬาเยาวชนจากสถานศึกษาในสังกัดในระดับภาค

“การแข่งขันฟุตบอล รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี ชิงแชมป์ประเทศไทย ระดับอาชีวศึกษา ครั้งที่ 2 มีวัตถุประสงค์ในการส่งเสริมสนับสนุนให้นักเรียน นักศึกษา ที่มีความเป็นเลิศด้านกีฬา บนพื้นฐานการพัฒนาโดยใช้วิทยาศาสตร์การกีฬาและโภชนาการเป็นฐาน เน้นการพัฒนาร่างกายให้มีสุขภาพแข็งแรง มีระเบียบวินัย และห่างไกลยาเสพติด ส่งเสริมการสร้างนักกีฬาในสถานศึกษา โดยพัฒนาผู้มีทักษะและความสามารถสู่ความเป็นเลิศในระดับจังหวัด ระดับภาค ระดับชาติ เพื่อพัฒนาต่อเนื่องไปสู่เส้นทางสายอาชีพ พร้อมทั้งเชิดชูเกียรตินักกีฬาอาชีวศึกษาประเภทต่าง ๆ ที่ผ่านการคัดเลือกในระดับชาติให้เข้าไปเป็นตัวแทนทีมชาติไทย และสร้างเครือข่ายสถานศึกษาเพื่อการพัฒนาด้านกีฬาร่วมกันอย่างต่อเนื่อง “นายณรงค์กล่าว

0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest

0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments