เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม ที่โรงเรียนอนุบาล จ.ชุมพร นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรฐศิลป์ รมว. ศึกษาธิการ(ศธ.) พร้อมด้วยนายบุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ผู้บริหารระดับสูงของศธ. ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นอกสถานที่ โดยมีครู ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ศึกษาธิการภาค(ศธภ.) ศึกษาธิการจังหวัด(ศธจ.) เข้าร่วม
โดยนพ.ธีระเกียรติ กล่าวมอบนโยบายตอนหนึ่งว่า ศธ.ตกเป็นจำเลยสังคมในเรื่องการจัดการศึกษามานานพอสมควร แต่ขณะนี้เท่าที่ดูการศึกษาในภาพรวมของเรา เป็นไปในทิศทางค่อนข้างดี ทั้งที่ปีงบประมาณ2561 ที่ผ่านมาเราได้รับงบประมาณน้อยกว่าเดิม
และปีงบประมาณ 2562 ก็ได้รับการจัดสรรงบฯน้อยลงอีก ประมาณ 1 พันกว่าล้านบาท แต่กลับแก้ไขปัญหาได้หลายส่วน ยกตัวอย่างเช่น การอบรมครู ซึ่งที่ผ่านมาใช้งบประมาณปีละประมาณ 9 พันกว่าล้าน แต่เมื่อทำ โครงการพัฒนาครูรูปแบบครบวงจรใช้งบเพียง 2 พันกว่าล้าน ในการอบรมพัฒนาครูกว่า 3 แสนคน ครูที่ไม่ลงทะเบียนอบรมส่วนใหญ่คือครูที่ใกล้เกษียณ เชื่อว่าปีต่อไปจะดีขึ้นสามารถพัฒนาครูได้อย่างเต็มที่ ขณะเดียวกันยังขอให้สพฐ. ไปปรับลดโครงการต่างๆ ที่ไม่จำเป็น อย่างเช่นการจัดกิจกรรมต่างๆ ที่ทำอยู่เป็นประจำทุกปี และต้องขนคนไป ซึ่งใช้งบฯจำนวนมากก็ขอให้ยกเลิก เว้นไว้เฉพาะการแข่งขันระดับนานาชาติ เชื่อว่าจะทำให้มีเงินเหลือจ่ายเพิ่มขึ้นเพื่อนำไปช่วยพัฒนาในส่วนอื่น ๆ

รมว. ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้ตนมีนโยบาย จะนำเงินส่วนนี้ไปปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงนำไปใช้ในการดูแลคุณภาพชีวิตครู โดยเฉพาะบ้านพักครูซึ่งหลายแห่งทรุดโทรมมากจำเป็นต้องปรับปรุง ขณะที่ปีนี้จะมีครูเกษียณอายุราว 20,000 คน รวม 10 ปีจะมีครูเกษียณประมาณ 200,000 คน เมื่อมีครูเกษียณก็ต้องมีครูย้ายเข้ามาใหม่ ซึ่งครูเหล่านี้ก็ต้องมาอยู่ที่บ้านพักครู แต่ก็มีปัญหาที่พักไม่เพียงพอ หรือบางแห่งมีความทรุดโทรม โดยที่ผ่านมาศธ. ได้มีการซ่อมบำรุงมาตลอด แต่ตอนนี้ดูแล้วว่ามีความจำเป็นต้องสร้างใหม่ด้วย เพราะบางแห่งก็ชำรุดจนไม่สามารถซ่อมแซมได้ รวมถึงไปพิจารณาแก้ไขระเบียบข้อกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดระเบียบการเข้าพักบ้านพักครู เพื่ออำนวยความสะดวก ขณะเดียวกันจะได้แก้ปัญหาไม่ให้ครูย้ายถิ่นฐานด้วย

“ผมขอให้ผู้อำนวยการสพท.ทุกคนไปสำรวจปัญหาและจำนวนบ้านพักครู เพื่อเร่งดำเนินการ ขณะเดียวกันยังต้องเดินหน้าลดภาระ ให้ครูมีเวลาสอนเด็กได้อย่างเต็มที่ โดยตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม เป็นต้นไปครูไม่ต้องทำงานธุรการ ทั้งนี้สพฐ.ได้เตรียมงบประมาณกว่า 3 พันล้านบาท ในการจ้างครูธุรการและภารโรงให้ครบทุกโรงเรียนทั่วประเทศ ขณะที่เรื่องการจัดซื้อจัดจ้าง โรงเรียนขนาดใหญ่หากยังสามารถดำเนินการได้ ก็ให้ทำต่อไป ส่วนโรงเรียนอื่นๆ ให้สพท.รับ ไปดำเนินการแทน การดำเนินการทั้งหมดหวังว่าจะแก้ปัญหาครูขอย้ายน้อยลง คุณภาพชีวิตครูก็จะดีขึ้น จากนี้อีกไม่นานจะมีการเลือกตั้ง ที่พูดแบบนี้ไม่ได้จะมาหาเสียง เพราะผมไม่ใช่นักการเมือง แต่ที่เป็นห่วงคือกลัว ว่าเมื่อนักการเมืองเข้ามาแล้วจะทำให้ทุกอย่างที่ทำเปลี่ยนแปลง ดังนั้นนักการเมืองถ้าจะมารื้อสิ่งที่ผมทำก็ขอให้ทุกคนช่วยกันประท้วงหน่อย เพราะเป็นสิ่งที่ทำให้คุณภาพชีวิตครูดีขึ้น “นพ.ธีระเกียรติกล่าว

นพ.ธีระเกียรติ กล่าว อีกว่า ประเด็นสำคัญที่ตนอยากย้ำ คือการทำตามกฎหมายใหม่ โดยขณะนี้ประกาศ กฎกระทรวง การประกันคุณภาพการศึกษา พ.ศ.2561 มีผลบังคับใช้แล้ว จำได้ว่าที่ผ่านมาโรงเรียนและครู จะมีปัญหากับสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) มาโดยตลอด แต่ต่อไปนี้จะไม่มีแล้ว โดยจากนี้ทุกโรงเรียนจะเป็นหน่วยประกันคุณภาพภายในตัวเอง จะไม่มีการประกันคุณภาพภายในจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) อีก ผู้อำนวยการโรงเรียนซึ่งเป็นผู้บริหารสูงสุด จะต้องรู้ตัวว่า โรงเรียนตัวเองมีคุณภาพระดับใด โดยมีหลักฐานสนับสนุน ส่วนสมศ.มีหน้าที่เข้าไปดูว่า โรงเรียนมีคุณภาพตามที่บอกหรือไม่ เพื่อเสนอแนะและปรับปรุงให้พัฒนายิ่งขึ้น แต่หากดีเลิศอยู่แล้วก็เป็นคำแนะนำในลักษณะการคงคุณภาพ

0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest

0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments