“ตรีนุช” ส่งครูนักประเมินเก็บข้อมูลในพื้นที่ หวังรับรู้ข้อเท็จจริงที่สะท้อนถึงนโยบาย เพื่อปรับมาตรการช่วยเหลือเด็ก ครู ผู้ปกครอง ในสถานการณ์วิกฤตโควิด-19

น.ส.ตรีนุช เทียนทอง  รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการปฐมนิเทศ “อาสาสมัครครูนักประเมิน” (Rapid Appraisal Volunteer : RAV) ผ่านระบบออนไลน์ว่า การปฐมนิเทศครั้งนี้มีคณาจารย์จากมหาวิทยาลัยพะเยา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม มหาวิทยาลัยศิลปากร มหาวิทยาลัยทักษิณ พร้อมด้วยครู ผู้อำนวยการสถานศึกษา และศึกษานิเทศก์ ที่สมัครเข้ามาเป็นอาสาสมัครครูนักประเมิน กว่า 250 คนเข้าร่วม ซึ่งต้องขอบคุณอาสาสมัครทุกคน ที่เสียสละเวลา เข้ามาช่วยเหลืองานของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ทำให้เห็นถึงน้ำใจ และความร่วมแรงร่วมใจของทุกฝ่าย ที่ต้องการช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่ทวีความรุนแรงอยู่ในขณะนี้

รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า การแพร่ระบาดของโควิด- 19 ได้ส่งผลกระทบให้ต้องเปิด-ปิดสถานศึกษาบ่อยครั้ง  ดังนั้น ศธ.จึงจำเป็นต้องหาแนวทางที่ยืดหยุ่น เหมาะสมตามสภาพพื้นที่และทันสถานการณ์ ซึ่งกระบวนการประเมินแบบเร่งด่วน (rapid appraisal) นี้ เป็นโครงการสำคัญที่ ศธ. หวังว่าจะเป็นกลไกใหม่ ที่สามารถทำให้รับรู้ข้อมูลในพื้นที่จากสภาพจริง และเชื่อถือได้  รวมถึงทำให้ทราบถึงปัญหาอุปสรรคของการปฏิบัติงานในพื้นที่ที่สะท้อนถึงนโยบายต่าง ๆ ของ ศธ. ว่าเกิดผลอย่างไรต่อผู้ปฏิบัติ หรือจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนนโยบายอย่างไรให้สอดคล้องกับการปฏิบัติงานในพื้นที่  โดยอาศัยอาสาสมัครครู และนักประเมินทุกคน จะมีการติดตามและประเมินผลเป็นระยะ เพื่อนำผลมาปรับเปลี่ยนมาตรการในการดูแลให้ความช่วยเหลือบุคลากรในพื้นที่ได้อย่างทันท่วงที

“ดิฉันได้รับฟังข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในพื้นที่ และได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นจากคณาจารย์ ครู และบุคลากรทางการศึกษา ซึ่งเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์มาก และสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ถือเป็นความท้าทายอย่างยิ่งที่เราจะเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาสในการสร้างสิ่งใหม่ๆ ที่ทำให้การจัดกระบวนการเรียนรู้ต้องปรับเปลี่ยนไป เราต้องมาร่วมกันคิดว่าผู้เรียนจะต้องได้รับการศึกษาอย่างไร ครูจะต้องปรับเปลี่ยนวิธีการจัดการเรียนการสอนอย่างไร ทำอย่างไรที่จะให้ผู้เรียน และครูสามารถจัดการเรียนการสอนได้ในสถานการณ์นี้ โดยที่ผ่านมา ศธ.ได้ดำเนินโครงการไปหลายโครงการ สิ่งหนึ่งที่พยายามทำในตอนนี้ คือ  ทำให้เกิดความยืดหยุ่นในเรื่องของการจัดการเรียนการสอน การประเมิน การลดภาระครู การปลดล็อกการบริหารจัดการแนวทางการใช้จ่ายงบประมาณเงินอุดหนุนรายหัว ให้สามารถนำเงินงบประมาณมาใช้อย่างเหมาะสมกับแต่ละบริบทของพื้นที่ รวมถึงมีการเสนอมาตรการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ผู้ปกครอง  ดิฉันในฐานะ รมว.ศึกษาธิการ และในอีกฐานะหนึ่งก็เป็นผู้ปกครอง ย่อมเข้าใจความรู้สึกของผู้ปกครองที่มีความห่วงใยในบุตรหลาน ดิฉันจะพยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุด และเชื่อมั่นว่าเราจะผ่านพ้นสภาวการณ์นี้ไปด้วยกัน” น.ส.ตรีนุช กล่าว.

ว่าด้วยการมะโนข่าว ข่าวมะโน

หยอก หยอก วันพุธที่ 4 สิงหาคม 2564 ***สถานการณ์การแพร่ระบาด ของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 น่ากลัว รุนแรงขึ้นทุกวัน ขอให้ทุกคนดูแลตัวเองดำเนินชีวิตด้วยความระมัดระวัง***นานแล้วที่คอลัมย์หยอก หยอก เราไม่ได้เจอสมาชิกของเราเลย วันนี้ก็จะมาหยอก หยอก กันหน่อย โดยเราจะมาพูดถึงข่าวจริง ข่าวปลอม ข่าวมะโน และการเต้าข่าว โดยเฉพาะการเต้าข่าวที่คิดว่าคนอื่นเขามะโน … กลายเป็นเรื่องตลกขบขันของคนที่เขารู้จริง…ฮา***เอาล่ะ ไหน ๆ ก็มาพูดถึงข่าวมะโนกันแล้วก็เลยจะเอาเรื่องเก่ามาเล่าให้ฟัง ซึ่งเรื่องเกิดขึ้นเมื่อ20ปีที่ผ่านมา (จริงๆแล้วหยอก หยอก เคยเอาข่าวนี้มาแชร์ แต่มีผู้ใหญ่บางคนมาเบรกก็ไม่รู้ว่าท่านมีเจตนาอะไร)ถ้าไม่เป็นข่าวประวัติศาสตร์ เราก็คงไม่หยิบยกขึ้นมาเป็นตัวอย่างเพราะมีหลายคนไม่รู้ที่มาที่ไปอย่างไร ก็มันเป็นผลจากการกระทำของนักข่าวคนหนึ่ง สมัยที่อยู่หนังสือพิมพ์หัวใหญ่ สมัยนั้นหนังสือพิมพ์หัวใหญ่ๆไม่ว่าจะเขียนอะไรก็ถูกไปหมด เพราะไม่มีการตรวจสอบกันเอง ไม่มี ข่าวออนไลน์ ไม่มีเว็บไซต์ ไม่เหมือนสมัยนี้ทุกคนเป็นนักข่าวได้หมด ยังมีการตรวจสอบข่าวกันบ้างว่า ข่าวไหนจริง ข่าวไหนปลอม ข่าวไหนมะโน กันบ้าง และคนเสพข่าวก็ฉลาด มีเหตุมีผลขึ้น ไม่คล้อยตามข่าวมะโน ใครอยากรู้รายละเอียดความเป็นมาให้ไปอ่านดูในเว็บไซต์หัวข้อ”ศธ.เตรียมคืนเงินอดีต 6 บิ๊กสปช. เพราะทั้ง 6 ท่านได้ต่อสู้มาถึง 16 ปี ถึงมีคำสั่งศาลปกครองสั่งเพิกถอนคำสั่งไล่ออก/ปลดออกอดีต 6 ข้าราชการ สปช.กรณีซื้อโปรแกรมคอมพิวเตอร์มูลค่ากว่า 360 ล้านบาท บางท่านสู้จนตาย พิการก็มี และไม่มีแม้ที่อยู่อาศัย ก็ไม่รู้ว่าอย่างนี้เรียกข่าวมะโน รึเปล่า *** เพื่อเตือนความจำบางท่านอาจจำไม่ได้ บิ๊ก สปช.ที่ถูกสั่งลงโทษไล่ออก 2 ราย คือ นายพิสิษฐ์ ศิวิลัย อดีตรองเลขาธิการคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ(กปช.) และ ดร.ชัชวาลย์ วัดอักษร อดีตหัวหน้าฝ่ายสารสนเทศ กองนโยบายและแผน สปช. ซึ่งอายุน้อยที่สุดในกลุ่มก็ได้กลับเข้ารับราชการเพียง 1 ปีก่อนเกษียณอายุราชการ และ ที่ถูกสั่งปลดออก 4 ราย คือ ดร.กมล ภู่ประเสริฐ อดีตเลขาธิการ กปช. นายเลี่ยม พูลเอี่ยม อดีตรองเลขาธิการ กปช. นายยุทธชัย อุตมา อดีตรองเลขาธิการ กปช. และนายเกียรติ์ อัมพรายน์ ผอ.สำนักนิเทศและพัฒนาวิชาการ สปช..***เปลี่ยนอารมณ์ มาดูข่าวนี้กันบ้าง เพราะยิ่งอ่านก็ยิ่ง งง ว่ามันเกิดอะไรขึ้นเมื่อประชาสัมพันธ์ของสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา(ก.ค.ศ.)ส่งข่าวมาให้ว่า ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มอบหมายให้ รศ.ดร.ประวิต เอราวรรณ์ เลขาธิการ ก.ค.ศ. หาแนวทางและวิธีการดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลและรับฟังความคิดเห็นจากนักเรียน ครู และผู้ปกครองในแต่ละพื้นที่เพื่อสะท้อนปัญหาและอุปสรรคที่ส่งผลต่อการจัดการเรียนการสอนยุคโควิด-19 เพื่อที่ศธ.จะได้แก้ไขปัญหา และปรับนโยบายให้เกิดความเหมาะสม งง สิคะ เพราะงานนี้เป็นงานของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.)ซึ่งปกติ เขาก็ทำอยู่แล้ว เรื่องนี้เราไม่อยากมะโนเอาเอง เป็นอันว่า ใครทำ ใครชง ใครสั่ง เขาน่าจะรู้ดี…เนาะ *** ตบท้ายด้วยฤดูกาลโยกย้าย ตำแหน่งซี 11  ที่ปีนี้จะมีตำแหน่งบิ๊กองค์กรหลัก ศธ.ว่าง 1 ตำแหน่ง ก็เพรา ๆ กันหน่อยนะ อย่าแซะเพื่อนหรือวิ่งจนสะดุดขาตัวเองล่ะ… เป็นห่วง***

เด็กไทยคว้า 3 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง เคมีโอลิมปิกออนไลน์

ศ.ดร.ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) เปิดเผยว่า ปีนี้ผู้แทนประเทศไทยเคมีโอลิมปิกระหว่างประเทศ ประจำปี พ.ศ.2564 ซึ่งเป็นการแข่งขันผ่านระบบออนไลน์ จากประเทศไทย ระหว่างวันที่ 25 กรกฎาคม – 2 สิงหาคม 2564 จำนวน 4 คน ผู้แทนประเทศไทยสามารถคว้า 3 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง ดังนี้

นายจีรภัทร รุจิรายุกต์ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา กรุงเทพฯ เหรียญเงิน
น.ส.ณิชวดี กาญจนโฆษิต โรงเรียนกำเนิดวิทย์ จ.ระยอง เหรียญเงิน
น.ส.ลิตา ตันติประภาส โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา กรุงเทพฯ เหรียญเงิน
นายสถิระ จันทรกุลชัย โรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัย กรุงเทพฯ เหรียญทองแดง

การแข่งขันปีนี้มีประเทศญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพ โดยมีผู้เข้าร่วมการแข่งขันจำนวน 312 คน จาก 84 ประเทศ
คณะอาจารย์ผู้ควบคุมทีม ประกอบด้วย
ผศ.ดร.ต่อศักดิ์ ล้วนไพศาลนนท์ จาก มหาวิทยาลัยมหิดล หัวหน้าทีม
ผศ.ดร.ไชยา ประสิทธิชัย จาก มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ รองหัวหน้าทีม
ดร.ณัฐพงศ์ ไพบูลย์วรชาติ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้ช่วยหัวหน้าทีม
ดร.นิศาลักษณ์ ตรงศิริวัฒน์ จาก มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ผู้ช่วยหัวหน้าทีม

คณะอาจารย์ผู้ควบคุมการสอบ ประกอบด้วย
อ.สกล วารินทราพร จาก โรงเรียนกำเนิดวิทย์ กรรมการคุมสอบศูนย์สอบ โรงเรียนกำเนิดวิทย์
อ.เจริญศักดิ์ เมืองแก้ว สสวท. กรรมการคุมสอบศูนย์สอบ สสวท.
อ.อรทัย เรืองสมบัติ สสวท. กรรมการคุมสอบศูนย์สอบ สสวท.

ร่วมยินดีกับผู้แทนประเทศไทยและติดตามข่าวสารได้ที่เฟซบุ๊ก Olympic ipst :
https://www.facebook.com/Olympic-ipst-486688764733943 , เฟซบุ๊ก : IPST THAILAND หรือที่ https://www.icho2021.org

“ตรีนุช” มอบ ก.ค.ศ. รับฟังเสียงเด็ก ครู และผู้ปกครอง แก้ปัญหาจัดการเรียนการสอนช่วงโควิดระบาด

น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) ได้มอบนโยบายและวางแผนกับทุกส่วนราชการในเรื่องของการจัดการเรียนการสอนในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยการสอนแบบ 5 On (Online/On Air/On Demand/On Hand/On Site) นั้น ตนเห็นว่าเด็กนักเรียน และครได้ดำเนินการจัดการเรียนการสอนรูปแบบดังกล่าวมาสักระยะแล้ว ยังไม่ได้รับข้อมูลจากบริบทของแต่ละพื้นที่ว่า เกิดปัญหาและอุปสรรคที่ชัดเจนตนเองมีความกังวลและมีความห่วงใยในการดำเนินการดังกล่าวเป็นอย่างมาก เพราะมีสถานศึกษาในสังกัด ศธ.ที่มีบริบทที่แตกต่างกันเป็นจำนวนมาก จึงต้องการรับฟังความคิดเห็นจากนักเรียน ครู และผู้ปกครองในแต่ละพื้นที่เพื่อสะท้อนปัญหาและอุปสรรคที่ส่งผลต่อการจัดการเรียนการสอน เพื่อที่ศธ.จะได้แก้ไขปัญหา และปรับนโยบายให้เกิดความเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันได้ดียิ่งขึ้น จึงได้มีการประชุมหารือกันถึงแนวทางในการได้มาถึงข้อมูลที่จะนำมาสู่การแก้ไขปัญหาและได้มอบหมายให้ รศ.ดร.ประวิต เอราวรรณ์ เลขาธิการ ก.ค.ศ. หาแนวทางและวิธีการดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลและการประเมินแบบเร่งด่วนภายใต้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นขณะนี้

รมว.ศธ.กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ได้รับทราบข้อมูลว่าได้วางแผนและวางระบบวิธีการเก็บข้อมูลจากนักเรียน ครู และผู้ปกครองจากพื้นที่ต่าง ๆ ในทุกภูมิภาคของประเทศ ผ่านกลไกใหม่ที่เรียกว่าการประเมินแบบเร่งด่วน ซึ่งเป็นวิธีการที่นานาชาติใช้กัน และเป็นวิธีการที่จะสามารถเก็บรวบรวมข้อมูลได้อย่างรวดเร็วจากสภาพความเป็นจริงและเชื่อถือได้ โดยได้รับความร่วมมือจากสถาบัอุดมศึกษาจำนวน 4 แห่ง คือ   คณะวิทยาลัยการศึกษา มหาวิทยาลัยพะเยา, ภาควิชาวิจัยและพัฒนาการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร และคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ และข้าราชการครูที่มีความรู้ความสามารถด้านวิชาการ ซึ่งจะกระจายพื้นที่ทั่วประเทศ ภายใต้โครงการ อาสาสมัครครูนักประเมิน(Rapid Appraisal Volunteer : RAV) ซึ่งผู้เข้าร่วมเป็นอาสาสมัครเข้าร่วมเป็น RAV Team ในครั้งนี้คือ ครู ผู้อำนวยการสถานศึกษา หรือศึกษานิเทศก์ ที่มีพื้นฐานการวิจัยและประเมิน (จบ ป.โท – ป.เอก) จะเป็นผู้ดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลจากโรงเรียน หรือพื้นที่ต่าง ๆ และประเมินผลแบบเร่งด่วน ส่งผลกลับมายังส่วนกลาง เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปได้อย่างรวดเร็ว โดยโครงการนี้ได้เปิดรับผู้ที่ประสงค์เข้าร่วมโครงการประมาณ 250 คน ซึ่งทราบว่าขณะได้มีผู้สมัครเข้าร่วมโครงการเต็มจำนวนดังกล่าวแล้ว ภายในระยะเวลา 1 วัน ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีและก็รู้สึกดีใจที่มีผู้ที่เห็นความสำคัญและได้อาสามาช่วยงานของกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งหลังจากนี้สำนักงาน ก.ค.ศ. ได้กำหนดให้มีการจัดการประชุมชี้แจงแนวทางและวิธีการดำเนินงานให้กับอาสาสมัครดังกล่าว ในวันที่ 5 สิงหาคม 2564 ที่จะถึงนี้ ผ่านระบบสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งตนจะเข้าร่วมการประชุมนี้ด้วย    

“ศธ.โดยสำนักงาน ก.ค.ศ. ซึ่งเป็นแม่งานหลักในการกำหนดนโยบายดูแลครู จะนำข้อมูลที่ได้รับฟังนี้ไปวางมาตรการที่จำเป็น เพื่อให้ตรงกับความต้องการของนักเรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษามากที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นจากสถานการณ์การแพร่ระบาด ตลอดจนผลกระทบจากสภาวะทางเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นเรื่องที่จำเป็นเร่งด่วนในขณะนี้ และในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ก็พร้อมที่จะช่วยเหลือ ดูแล และแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับนักเรียน ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาอย่างดีที่สุด” น.ส.ตรีนุชกล่าว

สอศ. จับมือ สถาบันขงจื่อ มข. เปิดศูนย์อบรมครูภาษาจีนท้องถิ่น

วันนี้ (3 ส.ค. 64) ดร.สุเทพ แก่งสันเทียะ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(กอศ.) เป็นประธานในพิธีเปิดศูนย์อบรมครูภาษาจีนท้องถิ่น สถาบันขงจื่อ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ผ่านระบบออนไลน์ โดย ดร.สุเทพ กล่าวว่า ศูนย์อบรมครูภาษาจีนท้องถิ่น มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มพูนทักษะและเทคนิคการสอนภาษาจีน ตลอดจนนำเทคโนโลยีในปัจจุบันมาผนวกและสร้างเป็นสื่อนวัตกรรม หรือสื่อออนไลน์ต่าง ๆ เพื่อใช้ในการจัดการเรียนการสอนภาษาจีน และเปิดโอกาสให้ครูไทยสอนภาษาจีน ได้เรียนรู้การพัฒนาเทคนิค และวิธีการสอนจากวิทยากรเจ้าของภาษาที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านการสอนภาษาจีนโดยตรง และสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียนการสอนให้แก่เยาวชนของประเทศ พัฒนาเด็กไทยให้มีศักยภาพ และเป็นกำลังสำคัญของประเทศไทยในการแข่งขันระดับอาเซียน และระดับนานาชาติต่อไป

เลขาธิการ กอศ. กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(สอศ.) ได้ทำความร่วมมือกับ สถาบันขงจื่อ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2559 โดยได้จัดโครงการฝึกอบรมต่าง ๆ เช่น โครงการฝึกอบรมภาษาจีนสำหรับรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน เพื่ออบรมภาษาจีนให้แก่นักเรียน นักศึกษา และผลักดันนักเรียน นักศึกษาให้มีโอกาสได้ศึกษาด้านเทคโนโลยีการรถไฟ ซึ่งมีนักเรียน นักศึกษากว่า 200 คน ที่ได้เข้าร่วมโครงการ และมีโอกาสเดินทางไปศึกษาภาษา วัฒนธรรมจีน และเทคโนโลยี ณ สาธารณรัฐประชาชนจีน และโครงการฝึกอบรมพัฒนาภาษาจีน ให้แก่ครู และบุคลากรในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนา การอาชีวศึกษาให้ได้มาตรฐานสากลเทียบเท่ากับนานาประเทศ

ด้าน รศ.ดร เกิ่ง จวิน ผู้อำนวยการสถาบันขงจื่อ มหาวิทยาลัยขอนแก่น (ฝ่ายจีน) กล่าวว่า สถาบันขงจื่อ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ดําเนินการด้านการเรียนการสอนมาเป็นระยะเวลากว่า 15 ปี ได้ก้าวเข้าสู่ยุคแห่งการเปลี่ยนแปลง พัฒนาและปรับปรุงคุณภาพและประสิทธิภาพ โดยได้นำประสบการณ์ด้านการจัดอบรมครูภาษาจีนท้องถิ่น มาเป็นจุดเด่น ทั้งยังมีประสบการณ์ทั้งในด้านการเรียนการสอนและการพัฒนาหลักสูตร ภาษาจีน โดยศูนย์ปฏิบัติการและฝึกอบรมครูภาษาจีนในท้องถิ่น จะเป็นแหล่งข้อมูลสำหรับ ผู้เชี่ยวชาญทั้งในประเทศและต่างประเทศ จัดทำฐานข้อมูลผู้เชี่ยวชาญด้านการฝึกอบรมครูภาษาจีน สำรวจความต้องการ ด้านหลักสูตรและมุ่งเน้นการตอบสนองความต้องการของครูสอนภาษาจีนในท้องถิ่น พัฒนาหลักสูตรอบรมให้มี คุณภาพสูง มีหลักสูตรที่หลากหลายและสอดคล้องกับความต้องการในแต่ละระดับและภูมิภาค พร้อมทั้งคำนึงถึง ความต้องการในการฝึกอบรม เนื้อหาในการอบรม วิธีการฝึกอบรมและผลของการอบรม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และกระบวนการฝึกอบรมอย่างต่อเนื่อง

ทีมประเทศไทยพร้อมเดินหน้า พัฒนากำลังคนยึด “มาตรฐานควบคู่คุณภาพ”

วันนี้ (2 สิงหาคม 2564) ดร.อำนาจ วิชยานุวัติ เลขาธิการสภาการศึกษา ในฐานะกรรมการกรอบคุณวุฒิอ้างอิงอาเซียนประจำประเทศไทย (Thailand AQRF Committee) พร้อมด้วย ดร.พีรศักดิ์ รัตนะ รองเลขาธิการสภาการศึกษา ดร.ศิริพรรณ ชุมนุม ผู้ทรงคุณวุฒิ และทีมผู้ประสานงาน AQRF ประจำประเทศไทย ได้แก่ (1) ผู้ประสานงานฝ่ายการศึกษา คือ นายกวิน เสือสกุล ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนการศึกษา และดร.กาญจนา หงษ์รัตน์ ผู้อำนวยการกลุ่มนโยบายการผลิตและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ สกศ. (2) ผู้ประสานงานฝ่ายแรงงาน คือ นายสุรัตน์ ปาละนันทน์ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนามาตรฐานและทดสอบฝีมือแรงงาน กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน (3) ผู้ประสานงานฝ่ายคุณวุฒิวิชาชีพ คือ น.ส.จุลลดา มีจุล รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) และนายนิติ นาชิต ผู้อำนวยการสำนักมาตรฐานการอาชีวศึกษาและวิชาชีพ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ได้ร่วมกันให้สัมภาษณ์ในฐานะทีมกรอบคุณวุฒิแห่งชาติของประเทศไทย โดย Ms. Andrea Bateman ผู้เชี่ยวชาญชาวออสเตรเลีย ที่ปรึกษาโครงการเทียบเคียงกรอบคุณวุฒิแห่งชาติกับกรอบคุณวุฒิอ้างอิงอาเซียน ระยะที่ 5 (Referencing National Qualifications Frameworks to the ASEAN Qualification Reference Framework – Phrase V) ภายใต้การดำเนินงานของสำนักเลขาธิการอาเซียน

ดร.อำนาจ กล่าวว่า ที่ปรึกษาได้หารือความก้าวหน้าในการดำเนินการขับเคลื่อนงานกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ (NQF) และกรอบคุณวุฒิอ้างอิงอาเซียน (AQRF) ของประเทศไทย รวมถึงปัจจัยความสำเร็จในการดำเนินงาน และปัจจัยท้าทายต่าง ๆ ในการขับเคลื่อนงาน NQF และ AQRF ของประเทศสมาชิกอาเซียน ทั้งนี้ ประเทศไทย โดยความร่วมมือขององค์กรหลักทางการศึกษาและวิชาชีพ ได้ร่วมกับขับเคลื่อนงาน NQF และ AQRF อย่างเป็นรูปธรรม และได้กำหนดประเด็นที่ต้องเร่งดำเนินการในอนาคตอันใกล้ อาทิ (1) การพัฒนา/เชื่อมโยงระบบฐานข้อมูลการผลิตและพัฒนากำลังคน (2) การขับเคลื่อนงานเครดิตแบงค์ (credit bank) ให้บังเกิดผลเป็นรูปธรรม จากการพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอน และหลักสูตรการฝึกอบรมใน 8 สาขาอาชีพที่มีความจำเป็นเร่งด่วนให้สอดคล้องกับมาตรฐานอาชีพตามกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ (3) การพัฒนาระบบการเทียบโอนผลลัพธ์การเรียนรู้ (Learning Outcome) และประสบการณ์เดิม (Recognition of Prior Learning: RPL) เพื่อการสะสมและเทียบโอนหน่วยกิต

ในการประชุมคณะกรรมการกรอบคุณวุฒิอ้างอิงอาเซียน (AQRF Committee) ครั้งต่อไป ที่กำหนดจัดในเดือนกันยายน 2564 นี้ จะได้มีการนำประเด็นเกี่ยวกับการประกันคุณภาพคุณวุฒิ และการพัฒนาระบบ credit bank รวมถึงระบบการเทียบโอนประสบการณ์การทำงาน (Recognition of Existing Skills and Knowledge: RESK) มาจัดประชุมเชิงปฏิบัติการควบคู่ เพื่อร่วมกันผลักดันให้ประเทศสมาชิกอาเซียนพัฒนาสมรรถนะกำลังคน ทั้งในส่วนของผู้เรียนและแรงงานให้ได้มาตรฐานระดับสากล ภายใต้การรับรองคุณวุฒิและการประกันคุณภาพคุณวุฒิการศึกษาและคุณวุฒิวิชาชีพระดับภูมิอาเซียนต่อไป

“ตรีนุช”มอบเครื่องพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโควิด-19 พร้อมหุ่นยนต์ช่วยบุคลากรทางการแพทย์ นวัตกรรมจากฝีมือเด็กอาชีวะ ณ วิทยาลัยเทคนิคสระแก้ว

เมื่อวันที่ 2 ส.ค.64 น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ พร้อมด้วย ดร.สุเทพ แก่งสันเทียะ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(กอศ.)ตรวจเยี่ยมกิจกรรมการขับเคลื่อนความปลอดภัยสู่สถานศึกษา และเครือข่ายความร่วมมือตามโครงการ ศธ. ห่วงใยประชาชนช่วงสถานการณ์โควิด-19 พร้อมมอบนวัตกรรมเครื่องพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ณ วิทยาลัยเทคนิคสระแก้ว

โดย น.ส.ตรีนุช กล่าวว่า ขณะนี้ สถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เป็นไปอย่างกว้างขวางทั้งในประเทศและต่างประเทศทั่วโลก รัฐบาลได้ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาดังกล่าว จึงเร่งดำเนินการฉีดวัคซีนให้กับประชาชน โดยมีจุดมุ่งหมายให้เป็นการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ซึ่งจะช่วยสถานการณ์ให้ดีขึ้น และสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(สอศ.) ก็ได้มอบหมายให้วิทยาลัยเทคนิคสระแก้ว เป็นผู้ประสานและจัดทำนวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์ที่สนับสนุนและช่วยเหลือบุคลากร ทางการแพทย์และประชาชน ในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ขึ้น รวมทั้งวางแนวทางการขับเคลื่อนให้กับสถานศึกษาในสังกัด สอศ.ทุกแห่ง ดำเนินการสร้างนวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์ที่ป้องกันการแพร่ ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เพื่อสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์ และหน่วยงานต่าง ๆ ซึ่งเป็นการดำเนินงานที่ตอบสนองนโยบายของรัฐบาลและ กระทรวงศึกษาธิการวาระเร่งด่วน (Quick Win) และเป็นการแสดงถึงศักยภาพของ สถานศึกษาอาชีวศึกษาโดยเฉพาะครูและผู้เรียนอาชีวศึกษาที่มีความรู้และสมรรถนะอาชีพที่สามารถคิดสร้างสรรค์นวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์ที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ

ด้านดร.สุเทพ กล่าวว่า สอศ.ได้มอบให้วิทยาลัยเทคนิคสระแก้วเป็นผู้ประสานและจัดทำนวัตกรรมรวมทั้งอุปกรณ์ป้องกัน เพื่อลดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ คือ นวัตกรรมด้านการป้องกัน และนวัตกรรมด้านการบริการทางการแพทย์ ซึ่งนวัตกรรมด้านการป้องกัน จะเป็นการเน้นการฆ่าเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ด้วยการใช้น้ำยา และแสงยูวีซี ส่วนนวัตกรรมด้านการบริการทางการแพทย์ เน้นการใช้หุ่นยนต์ช่วยงานบุคลากรทางการแพทย์ โดยในวันนี้ได้จัดพิธีส่งมอบเครื่องมืออุปกรณ์นวัตกรรมดังกล่าวให้แก่โรงพยาบาลสนามองค์การบริหารส่วนจังหวัดสระแก้ว (อบจ.สระแก้ว)สำนักงานส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษาจังหวัดสระแก้ว สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดสระแก้ว ที่ว่าการอำเภอวัฒนานคร สำนักงานเทศบาลตำบลวัฒนานคร สถานีตำรวจภูธรวัฒนานคร,สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสระแก้ว เขต 1 และเขต 2 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสระแก้ว โรงพยาบาลวัฒนานคร โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสระแก้ว โรงพยาบาลจิตเวชสระแก้วราชนครินทร์ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านท่าเกวียน ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก สังกัดองค์การบริหารส่วนตำบลวัฒนานคร ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดสระแก้ว โรงเรียนวัฒนานคร และโรงเรียนอนุบาลศรีวัฒนาวิทยา เพื่อนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อผู้เรียน บุคลากรทางการศึกษา และประชาชนต่อไป

ศธ.ใช้ The Letter Park เป็นที่พักคอยให้ ครู-บุคลากร-ครอบครัว ติดเชื้อโควิด-19 แทนหอพักสกสค.

น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่  30 ..ที่ผ่านมาตนพร้อมด้วย ดร.สุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ นพ.กำพล พลัสสินทร์ กรรมการผู้จัดการกลุ่มโรงพยาบาลจุฬารัตน์ นางวรินภร จันทรโรจน์วานิช กรรมการบริหารกลุ่มเลตเตอร์พาร์ค จำกัด และ นายโกวิท ธัญญรัตตกุล ประธานนิติบุคคลหมู่บ้านเมืองเอก โครงการ 4 ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบอาคาร สถานที่ห้องพัก และการบริหารจัดการของ The Letter Park เมืองเอก จังหวัดปทุมธานี เพื่อให้ครู บุคลากรทางการศึกษา ของกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) และครอบครัว ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงและติดเชื้อโควิด-19 เข้าพักคอย

รมว.ศธ. กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ทุกคนทั่วประเทศรับทราบถึงแนวโน้มผู้ติดเชื้อโรคไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่เพิ่มขึ้นทุกวัน และจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปอีกสักระยะหนึ่ง ซึ่งทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องก็ได้ช่วยกันดูแลอย่างเต็มที่ และในส่วนของ ศธ.เองมีบุคลากรที่ติดเชื้อ จำนวน1,748 คน รักษาหายแล้ว จำนวน 795 คน กำลังอยู่ระหว่างการรักษาที่โรงพยาบาลและศูนย์พักคอยต่าง ๆจำนวน 953 คน และมีบางส่วนเสียชีวิต ดังนั้นเพื่อเป็นการดูแลสวัสดิภาพและสร้างขวัญกำลังใจ ให้แก่ครู บุคลากรในสังกัดศธ. รวมถึงครอบครัว ศธ.จึงมีนโยบายตรวจฟรีมีที่พักจัดส่งถึงมือแพทย์ดูแลครู บุคลากรและครอบครัว ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงและติดเชื้อโควิด-19 โดยในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หรือ พื้นที่สีแดงเข้ม หน่วยงานต้นสังกัดจะจัดเตรียมสถานที่ หรือ ศูนย์พักคอยในชุมชน (Community Isolation Center : CIC) ให้ เช่น หอพักสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ที่พักของสถาบันพัฒนาครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา (สคบศ.) และ ที่พักของสำนักพัฒนาสมรรถนะครูและบุคลากรอาชีวศึกษา (สสอ.) เป็นต้น แต่เมื่อเร็วๆนี้ ปลัด ศธ.พร้อมด้วยผู้แทนจากโรงพยาบาลจุฬารัตน์ ได้ร่วมกันตรวจสอบอาคาร สถานที่หอพัก สกสค. ภายในกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อดูความพร้อมในการเป็นสถานที่ดูแล ช่วยเหลือ กักตัวเพื่อดูอาการของครู บุคลากร และครอบครัวที่ติดเชื้อโรคโควิด– 19 และได้รายงานผลการตรวจสอบและประเมินมาให้ตนทราบว่า หอพัก สกสค. ยังไม่สามารถใช้เป็นศูนย์พักคอย เพื่อดูอาการของบุคลากรที่ติดเชื้อ โควิด-19 ได้ แต่สามารถใช้เป็นสถานที่กักตัวของบุคลากรกลุ่มเสี่ยงสูงที่ไม่ต้องการพักอยู่กับครอบครัว หรือ บุคคลใกล้ชิดได้

เมื่อตรวจสอบพบว่า หอพัก สกสค. ยังไม่สามารถใช้เป็นศูนย์พักคอยได้ และเพื่อให้ครู บุคลากรทางการศึกษา รวมถึงครอบครัว ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงและติดเชื้อโควิด-19 ได้มีที่พักคอยโดยเร็วทันที ดิฉันจึงได้ประสานกับโรงพยาบาลจุฬารัตน์ ในการหาสถานที่พักคอยฯ ซึ่งก็ได้รับความอนุเคราะห์ห้องพักของ The Letter Park ที่ได้เข้าร่วมโครงการฮอสพิเทล (Hospital) หรือหอผู้ป่วยติดโรคโควิด-19 เฉพาะกิจโดยทาง The Letter Park จะจัดพื้นที่ส่วนหนึ่งไว้รองรับครู บุคลากรของ ศธ.และครอบครัว ซึ่งจากการตรวจสถานที่ก็พบว่า  The Letter Park มีพื้นที่โครงการทั้งหมด 7 ไร่ ติดถนน 3 ด้าน เป็นอาคารสูง 8 ชั้น จำนวน 5 อาคาร ห้องพักอาศัยขนาด 36 ตารางเมตร มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็นครบครัน ซึ่งจะทำให้การพักคอยไม่อึดอัด และมีการดูแลตลอดจนส่งถึงมือแพทย์ ทั้งนี้ ดิฉันขอขอบคุณ โรงพยาบาลจุฬารัตน์ และ The Letter Park ที่เอื้อเฟื้อสถานที่ เพื่อดูแลบุคลากรของ ศธ. ให้มีความปลอดภัย หากครู และบุคลากรศธ.ต้องการติดต่อขอรับบริการ สามารถประสานผ่าน ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 กระทรวงศึกษาธิการ (ศบค.ศธ.)  สายด่วนการศึกษา โทร.1579” นางสาวตรีนุช กล่าว.

ครูโอ๊ะ ถก มรภ.สวนสุนันทา ชู “จัดสรรโควตา-ระบบเครดิตแบงก์” หวังเพิ่มโอกาสทางการศึกษาตอบโจทย์ผู้เรียน เล็ง ผุดหลักสูตรออนไลน์ปริญญาตรี

ดร.กนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุมหารือความร่วมมือในการจัดสรรโควตาสนับสนุนการศึกษาต่อของนักศึกษา กศน. และยกระดับการจัดการศึกษาของสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย(กศน.) ในระบบปกติและระบบทางไกล ผ่านระบบออนไลน์ (Zoom meeting) โดยมี ดร.กมล รอดคล้าย ที่ปรึกษา รมช.ศึกษาธิการ ดร.พะโยม ชิณวงศ์ ประธานคณะทำงาน รมช.ศึกษาธิการ ตลอดจน พล.ต.ท.ผศ.(พิเศษ) ดร.สัณฐาน ชยนนท์ คณบดีวิทยาลัยการเมืองการปกครอง และ ผศ.(พิเศษ) ดร.วิจิตรา ศรีสอน รองคณบดีฝ่ายบริหาร มหาวิทยาลัยราชภัฏ(มรภ.)สวนสุนันทา ดร.ปรเมศวร์ ศิริรัตน์ ผอ.สำนักงาน กศน.กทม. นางพรพรรณ มนตรีพิศุทธิ์ ผอ.กลุ่มงานโรงเรียนสามัญศึกษา สช. ดร.ณัฐพงษ์ รงคะวิรุจน์ชัย ผอ.สถาบันทางไกล กศน. ตลอดจนผู้บริหารวิทยาลัยการเมืองการปกครอง เข้าร่วมประชุมผ่านระบบออนไลน์

รมช.ศึกษาธิการ กล่าวตอนหนึ่งว่า การหารือในครั้งนี้ เป็นการต่อยอดความร่วมมือจากการจัดทำ MOU ระหว่างสำนักงาน กศน. สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) และ มรภ.สวนสุนันทา เพื่อสนับสนุนการศึกษาต่อของผู้เรียนนอกระบบให้ได้เรียนต่อในระดับอุดมศึกษาเพิ่มมากขึ้น การพัฒนาสื่อการเรียนการสอน การฝึกประสบการณ์วิชาชีพ การจัดกิจกรรม CSR ตลอดจนการพัฒนาครูและบุคลากรร่วมกัน ซึ่งจากการหารือได้ข้อสรุปร่วมกัน ที่จะมีการจัดสรรโควตาเรียนใน มรภ.สวนสุนันทา แก่นักศึกษา กศน. นักเรียนเอกชน และผู้เรียนในสังกัดอื่น ๆ โดยในอนาคตจะมีการผลักดันโอกาสในการเข้าสู่ระบบการศึกษามากขึ้น อาทิ การยื่นพอร์ตโฟลิโอ (Portfolio), การสัมภาษณ์เพื่อเข้าศึกษาต่อ เป็นต้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถทำได้ โดยจะเริ่มดำเนินการจัดสรรโควตาในบางคณะหรือบางสาขา หลังจากนั้นจะต้องมีการประเมินผลความสำเร็จ เพื่อขยายต่อไปยังคณะอื่น ๆ ต่อไป รวมทั้งได้หารือร่วมกันถึงข้อเสนอการทดลองจัดทำระบบเครดิตแบงก์ เพื่อเชื่อมโยงหรือถ่ายโอนหน่วยกิต บางวิชาในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายไปใช้ในระดับอุดมศึกษา หรือในทางกลับกัน หากจะลงเรียนบางวิชาในระดับอุดมศึกษา (บางแห่ง) ก่อนจบมัธยมศึกษาตอนปลายก็ทำได้ หรือจะนำวิชานั้นมาใช้ในการจบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายด้วยก็ได้ หมายความว่า เด็กมัธยมศึกษาตอนปลายสามารถเชื่อมโยงหรือถ่ายโอนหน่วยกิตในระดับอุดมศึกษาได้ นอกจากจะเป็นการสร้างโอกาสในการเข้าสู่ระบบการศึกษาแล้ว ยังช่วยลดเวลาเรียน และผู้เรียนสามารถเลือกเรียนในสิ่งที่สนใจได้

“นอกจากนี้ ทาง มรภ.สวนสุนันทา ยังมีแนวคิดที่จะจัดทำหลักสูตรระดับปริญญาตรีออนไลน์ เช่นเดียวกับรูปแบบการจัดการเรียนการสอนของสถาบันการศึกษาทางไกล กศน. และในอนาคตจะต่อยอดการฝึกงานหรือฝึกประสบการณ์วิชาชีพของนักศึกษาวิทยาลัยการเมืองการปกครองและคณะครุศาสตร์ ในสถานศึกษาหรือหน่วยงานของ กศน.ที่มีความพร้อม เพื่อกระจายโอกาสให้นักศึกษาคณะอื่น ๆ มากขึ้น อาทิ ศูนย์ กศน.กทม. 50 เขต ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา ห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” เป็นต้น รวมทั้งการทำกิจกรรมเพื่อสังคม (Corporate Social Responsibility: CSR) ร่วมกันของนักเรียนนักศึกษา อาทิ การปลูกฟ้าทะลายโจร เป็นต้น และในอนาคตเตรียมที่จะพัฒนาความร่วมมือร่วมกันในหลายมิติ อาทิ การพัฒนาหลักสูตร สื่อการศึกษา การวิจัย การพัฒนาบุคลากร ตลอดจนการส่งเสริมการจัดการศึกษาสำหรับผู้พิการ เป็นต้น”รมช.ศึกษาธิการกล่าวและว่า ขอแสดงขอบคุณทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ที่ร่วมสร้างโอกาสและสนับสนุนการเข้าสู่ระบบการศึกษาต่อที่สูงขึ้นของผู้เรียนทุกคน ให้ได้เลือกเรียนในวิชาที่ชอบ พร้อมนำไปใช้ต่อยอดในระดับมหาวิทยาลัย ที่จะเป็นฟันเฟืองที่สำคัญในการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิตร่วมกัน

กรมสมเด็จพระเทพฯติดตามงานผ่านออนไลน์ ทรงถาม กศน.จัดการเรียนการสอนอย่างไร

เมื่อวันที่ 30 ก ค 2564 นายวุฒิพล ทับธานี ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย(สำนักงาน กศน.)จังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยว่า จากการเข้าร่วมถวายรายงานกรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงติดตามการดำเนินงานโครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (ออนไลน์) ในโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา ในโครงการพระราชดำริ ฯ ณ โรงเรียนโพธิ์ศรีวิทยา ตำบลโดด อำเภอโพธิ์ศรีสุวรรณ จังหวัดศรีสะเกษ กรมสมเด็จพระเทพฯท่านทรงห่วงใยการทำงานของหน่วยงานต่างๆ และได้มีรับสั่งถามว่า ดูแลเด็กและประชาชนในสถานการณ์แพร่ระบาดของ เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด19กันอย่างไร และได้ถามกศน.อำเภอโพธิ์ศรีสุวรรณว่า ได้ให้การสนับสนุนห้องสมุดโรงเรียนโพธิ์ศรีสุวรรณ(วัด)อะไรบ้าง ซึ่ง กศน.ตอบว่าได้ดูแลเรื่องหนังสือเข้าห้องสมุด

นอกจากนี้พระองค์ยังทรงห่วงใยการจัดการเรียนการสอนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยทรงถามว่า จัดการเรียนการสอนกันอย่างไร ซึ่ง ในส่วนของ กศน ได้ตอบว่า มีการเรียนการสอนออนไลน์ และพระองค์ได้ถามต่ออีกว่า แล้วคนที่ไม่มีอุปกรณ์ ทำอย่างไร กศน. ตอบว่าได้ให้ครู กศน ส่งชุดวิชา(หนังสือเรียน ใบความรู้ ใบงาน แบบฝึกหัด และแบบทดสอบ) ส่งให้นักเรียนถึงบ้านครับ