https://youtu.be/A4RkQVrPc-w
ลือกันแซด!! โยก ณรงค์ รองกพฐ. ไปศธภ.ภาคเหนือตอนบน เซ่นเซ็นต์ซื้อครุภัณฑ์ฝึกทักษะ ม.ต้น
เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว. ศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 5 พฤษภาคม ในส่วนของศธ. จะเสนอแต่งตั้งโยกย้าย ข้าราชการระดับสูง แต่จะเป็นใคร ระดับไหนบ้างนั้น ยังไม่ขอบอก ส่วนจะมีชื่อผู้ที่เซ็นลงนามโอนงบประมาณจัดซื้อครุภัณฑ์ฝึกทักษะมัธยมศึกษาตอนต้น งบประมาณ 6 แสนบาทต่อโรงเรียน ซึ่งอยู่ระหว่างตรวจสอบว่าอาจจะมีการล็อกสเป็ก และมีการแจ้งจัดสรร 458 โรงเรียน งบทั้งสิ้น 279 ล้านบาท แต่ภายหลังเมื่อมีการอนุมัติงบฯ พบว่า มีโรงเรียนที่ได้รับการจัดสรรงบฯทั้งหมด 600 กว่าโรงเรียน ด้วยหรือไม่นั้น ตนไม่บอก แต่ล่าสุดได้ข้อมูลเพิ่มเติม จากผู้ค้า ว่า มีการทำสัญญาจัดซื้อจัดจ้าง รถไถกับทางโรงเรียนจริง ซึ่งชัดเจนว่า เป็นนโยบายจากส่วนกลางท็อปดาวลงไป เสนอว่าจะจัดสรรรถไถให้โรงเรียน ทั้งที่ไม่แน่ใจว่ารถไถมีความจำเป็นหรือไม่
“เรื่องนี้ผมมีคำถามง่าย ๆ ว่าอำนาจในการอนุมัติงบฯ 200 กว่าล้านบาทเป็นของใคร ซึ่งผมได้เรียกคนที่อนุมัติมาคุยแล้ว เขาอ้างเซ็นส่งงบฯ แต่การจะเซ็นต้องได้รับการอนุมัติก่อน ซึ่งประเด็นนี้เขาก็อ้างอีกว่า เป็นงบฯที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)อนุมัติแล้ว ซึ่งก็ไม่ถูกต้องเพราะสนช. อนุมัติแค่กรอบงบประมาณ ส่วนโครงการต่างๆ จะมีอำนาจตามลำดับขั้น”นพ.ธีระเกียรติกล่าว และว่า พรุ่งนี้มีลุ้น แน่ๆ ขอให้รอดู ไม่อยากบอกว่าเป็นใคร เดี๋ยวไก่ตื่น และคนในศธ.ก็มีกำลังภายในเยอะ อดใจรออีกไม่ถึง 24 ชั่วโมง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผู้ที่คาดว่า จะเป็นหนึ่งในรายชื่อที่ถูกโยกย้ายในครั้งนี้คือ นายณรงค์ แผ้วพลสง รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.) โดยให้ไปเป็นดำรงตำแหน่งศึกษาธิการภาค (ศธภ.)15 ภาคเหนือตอนบน เนืองจากเป็นผู้เซ็นอนุมัติงบฯ จำนวนดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ก็ต้องให้เวลาตรวจสอบกันอีกครั้งว่าสาเหตุของการอนุมัติงบฯจำนวนดังกล่าว มีความเป็นมาอย่างไร
The scholarships are in regions of command education group support and much more.
The author within the academic writing must be responsible. Just in case you cannot pay attention to your project and undoubtedly require aid writing an article, just contact us. Hence, if you wish to publish on a topic inside this format, you need to make your writing succinct. Therefore, pupils are frequently juggling several forms of academic writing at the same period.
หมอธี ฉุน ร.ร.สพฐ.แย่งเด็ก ทำสวนนโยบายเปิดอนุบาล 1 ห้องสอนปฐมวัย 1 คน


เตรียมความพร้อมสอบรับตั๋วครู คุรุสภาการันตรีรอบนี้แนวทางชัดเจน คาดสอบจริงปี 63
ดร.สมศักดิ์ ดลประสิทธิ์ รองเลขาธิการสภาการศึกษา ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคุรุสภา กล่าวว่า ตามที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 ในมาตรา 40 ระบุไว้ใจความตอนหนึ่งว่า บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการประกอบอาชีพ การจํากัดเสรีภาพตามวรรคหนึ่งจะกระทํามิได้ หรือก้าวก่ายการจัดการศึกษาของสถาบันการศึกษา ดังนั้นเพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ อีกทั้งให้ได้บุคคลที่จะเข้าสู่วิชาชีพครู เป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถอย่างแท้จริง นั้น ในการประชุมคณะกรรมการคุรุสภาเมื่อเร็วๆ นี้ ที่ประชุมได้มีมติเรื่องการสอบใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู โดยมอบให้สำนักงานเลขาธิการคุรุสภาไปจัดทำแนวทางการสอบรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู และมาตรฐานต่างๆ ให้ชัดเจนก่อนที่จะมีการประกาศใช้ ดังนั้นหลังจากนี้คุรุสภาจะนำข้อเสนอแนะจากคณะกรรมการคุรุสภาไปปรับปรุงแนวทางการสอบรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ซึ่งคาดว่าจะยกร่างแนวทางฯ แล้วเสร็จในปีนี้ และสามารถนำร่องได้ในปี 2562 เพื่อเป็นการตรวจสอบระบบให้มีความแม่นยำรวมถึงหาข้อบกพร่อง ก่อนที่จะประกาศใช้จริงในปี 2563
ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคุรุสภา กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้คุรุสภาได้เตรียมการในเรื่องการสอบรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพไว้บ้างแล้ว โดยได้มีการยกร่างแนวทางการดำเนินการทดสอบจากผู้ทรงคุณวุฒิและผู้แทนฝ่ายผลิต ทั้งได้มีการรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้ ส่วนเสีย จากการประชุม 5 ครั้ง ใน 4 ภูมิภาค และที่กรุงเทพมหานคร รวมถึงได้รับฟังความคิดเห็นทั้งในด้านผลกระทบและข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ ซึ่งในส่วนขององค์ประกอบการทดสอบจะต้องเป็นการทดสอบสมรรถนะทางวิชาชีพครูตามที่มาตรฐานวิชาชีพครูที่คุรุสภากำหนด ทั้งการทดสอบสมรรถนะทางวิชาชีพครู และการเทียบผลการประเมินความรู้สาขาวิชาเอก ขณะที่เกณฑ์การพิจารณาเพื่อรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูนั้น ผู้สอบจะต้องมีผลคะแนนการทดสอบสมรรถนะทางวิชาชีพครู ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60 ของคะแนนรวม และการเทียบผลการประเมินความรู้สาขาวิชาเอก ต้องมีคะแนนเฉลี่ยสะสมวิชาเอกไม่น้อยกว่า 2.00
“การสอบรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ถือเป็นการประเมินคุณภาพบัณฑิตครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ เป็นการประกันที่ผลผลิต และเป็นการพัฒนาการออกใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู โดยระยะแรกได้พิจารณาจากการรับรองปริญญาที่ได้มาตรฐานตามเกณฑ์การรับรอง ประกอบด้วย มาตรฐานหลักสูตร มาตรฐานการผลิต และมาตรฐานบัณฑิต บัณฑิตที่จบหลักสูตรที่ได้รับการรับรอง สามารถใช้คุณวุฒิในการขอขึ้นทะเบียนรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูได้เลย ส่วนระยะที่สอง เป็นการประเมินคุณภาพบัณฑิต ซึ่งจะทำให้เกิดอิสระแก่สถาบันการผลิตในการสร้างสรรค์กระบวนการผลิตครูให้มีความยืดหยุ่น และมีจุดเน้นตามศักยภาพและบริบทมากขึ้น จะทำให้ได้ครูมีคุณภาพ ที่สอดคล้องและเท่าทันกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมและกระแสโลก” ดร.สมศักดิ์ กล่าว
ด้าน ดร.บูรพาทิศ พลอยสุวรรณ์ รองเลขาธิการคุรุสภา กล่าวว่า ในการประชุมบอร์ดคุรุสภาครั้งที่ผ่านมา ที่ประชุมได้แสดงความคิดเห็นในเรื่องข้อสอบที่จะใช้ในการสอบใบอนุญาตประกอบวิชาชีพกันอย่างกว้างขวางว่าต้องเป็นข้อสอบที่สามารถวัดความรู้ ความสามารถเรื่องวิชาชีพครู ของผู้เข้าสอบได้จริง โดยอาจจะต้องมีการผสมผสานวิธีการทดสอบทั้งในรูปแบบของการสอบแบบปรนัย และอัตนัยเข้าด้วยกัน และเปิดโอกาสให้สถาบันฝ่ายผลิตได้เข้ามามีส่วนร่วมในการออกข้อสอบด้วย ส่วนหน่วยงานที่จะเป็นผู้ดำเนินการสอบนั้นได้มอบให้สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน)หรือ สทศ. เป็นหน่วยงานรับผิดชอบ และใช้ข้อสอบที่คุรุสภาดำเนินการออกข้อสอบไว้ไปดำเนินการสอบเท่านั้น.
คุรุสภาสัญจร เปิดเวทีสื่อมวลชนแสดงความคิดเห็น (มีคลิป!)
เมื่อวันที่ 1-2 มิถุนายน 2561 สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา ได้จัดประชุมสัมมนาเครือข่ายสื่อมวลชนเพื่อการประชาสัมพันธ์ ของสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา ที่อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยมี ดร.สมศักดิ์ ดลประสิทธิ์ ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคุรุสภา ดร.บูรพาทิศ พลอยสุวรรณ์ รองเลขาธิการคุรุสภา นายไพบูลย์ เสียงก้อง ที่ปรึกษาสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา และผู้บริหารระดับสูงของสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา เข้าร่วม
ทั้งนี้ ดร.สมศักดิ์ กล่าวว่า การประชาสัมพันธ์มีความสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับองค์กรต่างๆ เพราะการประชาสัมพันธ์ช่วยให้เกิดความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องแก่ ประชาชน ด้วยการประชาสัมพันธ์ที่ดียังช่วยให้เกิดทัศนคติที่ดีเกิดการยอมรับ และให้ความร่วมมือสนับสนุน การดำเนินงานทั้งจากบุคลากรภายในองค์กรและจากประชาชนภายนอกทั้งยังช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของหน่วยงาน และได้แถลงข่าวการดำเนินโครงการไตรมาสที่ 3-4 ของสำนักงานเลขาธิการคุรุสภาด้วย
ดร.บูรพาทิศ กล่าวว่า การดำเนินงานของคุรุสภา ในฐานะสภาครูและบุคลากรทางการศึกษามีหน้าที่กำหนดมาตรฐานวิชาชีพ ออกและเพิกถอน ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ กำกับ ดูแลการปฏิบัติตามมาตรฐานวิชาชีพและจรรยาบรรณของวิชาชีพทางการศึกษารวมถึงการพัฒนาวิชาชีพทางการศึกษาซึ่งมีครู ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้บริหารการศึกษา และศึกษานิเทศ เป็นสมาชิกกระจายอยู่ทั่วประเทศ จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือและการสนับสนุนจากทุกภาคส่วน ซึ่งสื่อสารมวลชนนับว่าเป็นเครือข่ายที่สำคัญและจำเป็นต่อการขับเคลื่อนการดำเนินงานตามนโยบายของสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา ในการสื่อสารและประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารต่างๆ
จากนั้นสื่อมวลชนหลายแขวงได้แสดงความคิดเห็นถึงแนวทาง “การพัฒนาประสิทธิภาพด้านการประชาสัมพันธ์ของสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา
มทร.ธัญบุรี เชียร์บอลโลก ปลอดพนัน
4 ปีมีครั้งหนึ่งกับฟุตบอลโลก โดยรัสเซียเป็นเจ้าภาพจัดการแข่
เริ่มต้นจากหัวใหญ่ รศ.ดร.ประเสริฐ ปิ่นปฐมรัฐ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยี
เสียงของนักศึกษาอย่างเช่น “ฟินต์” นายพุทธินันต์ หมายมั่น นักศึกษาชั้นปีที่ 4 สาขาวิชาวิศวกรรมอุตสาหการ คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม นายกองค์การนักศึกษา มทร.ธัญบุรี เล่าว่า ใครๆ ต่างก็รอคอยการแข่งขันฟุตบอลโลก เพราะว่า 4 ปีจัดการแข่งขันที ทีมทีเข้ารอบส่วนใหญ่เป็นทีมที่
ด้าน “แจ็ค” นายณัฐปภัสร์ ฉิ่งเชิด นักศึกษาชั้นปีที่ 4 สาขาวิชา เทคโนโลยีงานประดิษฐ์สร้างสรรค์ คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ ประธานสภานักศึกษา มทร.ธัญบุรี เล่าว่า ในปีนี้ขอส่งกำลังใจเชียร์ฝรั่
ส่วน “เบท์” นายอดิศร ปี่ทอง นักศึกษาชั้นปีที่ 3 สาขาวิชาวิศวกรรมไฟฟ้า คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม เล่าว่า ส่วนตัวชอบกีฬาฟุตบอลมาก ชอบเสพข่าวฟุตบอล ตื่นเช้ามาต้องอ่านข่าวฟุตบอล เพราะว่า ฟุตบอลเป็นกีฬาที่ตนเองเล่นมาตั้
“อาย” นางสาวกัลยา อินโต นักศึกศึกษาชั้นปีที่ 2 สาขาวิชาการแพทย์แผนไทยประยุกต์ วิทยาลัยการแพทย์แผนไทย เล่าว่า เมื่อมีการแข่งขันฟุตบอล ต้องมีการเล่นพนันบอล ตนเองมีคนใกล้ตัวเล่นพนันบอล การพนันเป็นสิ่งที่ไม่ดี เงินที่ได้มา อีกสักพักก็เสียไป บางครั้งเสียเยอะกว่าได้ จึงอยากเตือนเพื่อนๆ “อย่าคิดที่จะเล่นการพนันทุกชนิ
เจออีก ทุจริตในศธ.ยิ่งขุด ยิ่งเจอ แฉเพิ่ม ผอ.สพท.ส่งไลน์ขอจิ๊จ๊ะ ครูสาว
นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.)เปิดเผยความคืบหน้าการตรวจสอบปัญหาทุจริตในกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.)โยล่าสุดพล.ท.โกศล ประทุมชาติ ที่ปรึกษารมว.ศึกษาธิการ ได้ลงพื้นที่ภาคอีสานใต้ ตนวันนี้ตนได้เชิญผู้บริหารจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เพื่อนำข้อมูลต่าง ๆ ที่พล.ท.โกศล ตรวจพบมาดูรายละเอียด เอกสาร และคนที่เกี่ยวข้อง เพราะขณะนี้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อที่จะเดินหน้าตรวจสอบ 3 เรื่อง ซึ่งได้ พบข้อมูลระดับหนึ่ง และบางเรื่องมีมูลชัดเจน และเตรียมสอบสวนวินัย เนื่องจากมาตรการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในระบบราชการของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่กำหนด ให้ตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน และหากเรื่องใดมีความชัดเจนให้สามารถสอบสวนได้ทันที โดยขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบให้แน่ชัด เพื่อสั่งการให้ทีมกฎหมาย และสพฐ.ดำเนินการ
“ เรื่องที่มีมีหลักฐานชัดเจน และน่าจะตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยได้ เช่น กรณีที่ผู้ค้าร้องเรียนว่าถึงการจัดซื้อครุภัณฑ์ฝึกทักษะมัธยมศึกษาตอนต้น งบประมาณ 6 แสนบาทต่อโรงเรียน ว่าอาจจะมีการล็อกสเป็ก ซึ่งงบฯดังกล่าวมีการแจ้งจัดสรร 458 โรงเรียน งบทั้งสิ้น 279 ล้านบาท แต่ภายหลังเมื่อมีการอนุมัติงบฯ พบว่า มีโรงเรียนที่ได้รับการจัดสรรงบฯทั้งหมด 600 กว่าโรงเรียน ซึ่งตอนนี้หลักฐานทางบัญชี มีหมดแล้ว แต่ยังไม่สามารถบอกรายละเอียดได้หมด ยังมีขั้นตอนต้องสืบต่อ ว่าใครทำอะไร อย่างไร รวมถึงขั้นตอนการดำเนินการด้วย ซึ่งคงต้องใช้เวลา เพราะถ้าเปิดเผยตอนนี้อาจจะมีการทำลายหลักฐานได้”รมว.สึกษาธิการ กล่าวและว่า เรื่องที่ทำให้ตนนอนไม่หลับทั้งคืน คือเรื่องที่พล.ท.โกศล รายงานเมื่อวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา แต่ตอนเช้ายังพบว่า มีคนสั่งให้โอนงบฯ ดังกล่าวให้โรงเรียน ซึ่งตนถือว่าเป็นการท้าทายกันมาก ถึงแม้ว่าฝ่ายกองคลังของ สพฐ. ไม่มีการโอนเงินจำนวนดังกล่าวก็ตาม ส่วนใครสั่งให้โอนนั้น อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ว่ามือมืดอยู่ที่ไหน กำลังสืบอยู่ เพราะการอนุมัติงบประมาณเป็น 100 ล้าน เป็นอำนาจของใคร ใช่อำนาจรัฐมนตรีหรือไม่ แล้วทำไมถึงอนุมัติกันได้ เรื่องนี้ก็ต้องมีการตรวจสอบ
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ ล่าสุด มีครูโรงเรียนแห่งหนึ่ง ส่งข้อมูล ทางไลน์คนรู้จักของตน ให้ตรวจสอบ ว่ามีผู้อำนวยการเขตพื้นที่ฯ แห่งหนึ่งส่งไลน์ลวนลามครู และขอนอนด้วย ซึ่งเรื่องนี้ตนได้สั่งการให้พล.ท.โกศล ตรวจสอบ และส่งเรื่องให้สพฐ. ดำเนินการแล้ว ส่วนจะเป็นพื้นที่ใด นั้นยังไม่ขอเปิดเผย
พล.ท.โกศล กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ โดยความคืบหน้า กรณีเจ้าหน้าที่พัสดุ สพป.นครราชสีมา เขต 5 มีการวางฎีกาเบิกเงินซ้ำ กับเงินที่โรงเรียนได้มีการเบิกจ่ายไปแล้วนั้น ตนได้คุยรายละเอียดกับทาง สพฐ.) แล้ว เบื้องต้นทราบว่าทางเขตพื้นที่ฯได้ตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง และตนได้เห็นข้อมูลจากเขตพื้นที่ฯ แล้ว จากนี้ต้องไปสอบถามทางศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) ว่ามีการตั้งกรรมการสอบสวนวินัยแล้วหรือยังและตั้งสอบใครบ้าง ถ้าโยงไม่ถึงคนที่เกี่ยวข้อง ตามที่ตนตรวจสอบพบ ก็ต้องให้มีการสอบเพิ่ม
“ทุกสิ้นปีงบประมาณ จะมีงบฯเหลือ คนกลุ่มนี้จะตั้งฎีกาลอย หมายถึงการตั้งเบิกเตรียมไว้ เป็นการเบิกซ้ำซ้อนกับสิ่งที่โรงเรียนได้เบิกไปแล้ว และทำกับร้านค้าประจำ ซึ่งอยู่ในจังหวัดสมุทรสาคร มีการทำหลักฐานไว้ครบถ้วน ชัดเจนถ้าเจ้าหน้าที่พัสดุกับฝ่ายการเงิน ไม่ร่วมหัวจนท้ายกัน คงทำไม่ได้ ชัดเจนว่า เรื่องนี้ทำเป็นกระบวนการ เพราะปกติเจ้าหน้าที่พัสดุ จะไปวางฎีกาเบิกไม่ได้ เรื่องนี้ต้องไปตรวจสอบ แต่ผมตั้งข้อสังเกตว่า การจะทำแบบนี้ผู้บริหารระดับสูงไม่รู้เห็น คงไม่ได้ เพราะเลขรหัสต่างๆ จะมีเพียงผอ.เขตพื้นที่ฯ และหัวหน้าการเงินและบัญชีเท่านั้น แต่นี้กลายเป็นว่า มีรหัสอยู่หลายคน รวมทั้งเจ้าหน้าที่พัสดุ ซึ่งก็คือครู และอาจไม่รู้เรื่องหรืออาจถูกขโมยรหัสไปก็ได้”พล.ท.โกศล กล่าว
รอง.ศธจ.ปัตตานี โต้ข่าวขัดคำสั่งรมต. กรณีแต่งฮิญาบ รร.อนุบาลปัตตานี
จากกรณีปัญหาการแต่งชุดฮิญาบของนักเรียนมุสลิมโรงเรียนอนุบาลปัตตานี บานปลายกลายเป็นความขัดแย้งทางความคิดระหว่างคนพุทธและมุสลิม หลายฝ่ายได้แสดงความกังวลและมีการวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆนาๆทางโชเชียลมีเดีย มาตั้งแต่วันที่ 16 พค. นั้น
ดร.ชูสิน วรเดช รองศึกษาธิการจังหวัดปัตตานี กล่าวว่า “ในฐานะที่เป็นคนกลางในการเจรจา ทำให้รับทราบปัญหามาตั้งแต่ต้น และในฐานะที่ต้องรักษาราชการแทนศึกษาธิการจังหวัดปัตตานี ซึ่งเป็นตัวแทนของกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งมีหน้าที่ดูแลโรงเรียนอนุบาลปัตตานีด้วย จำเป็นต้องลงพื้นที่ เพื่อรับทราบสถานการณ์” ทั้งนี้เมื่อวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา ตนได้ไปเยี่ยมพบปะคุณครูและนักเรียนเพื่อสอบถามนักเรียนว่ามีดัชนีความสุขเป็นอย่างไรบ้าง ด้วยความเป็นห่วงว่าครูและนักเรียนจะเครียดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหรือไม่ ซึ่งจากการสอบถามเด็กนักเรียนบอกว่า มีความสุข ไม่มีใครมากดดัน และยังได้มีการประชุมครูเพื่อให้ขวัญกำลังใจและมอบแนวทางการทำงาน ร่วมมือ ร่วมแรงใจกันในช่วงระยะเวลาปัจจุบันแก่ผู้บริหารและคณะครู
“มีการออกข่าวทางสื่อว่าผมไปห้ามไม่ให้เด็กใส่ชุดฮิญาบ และขัดคำสั่งรัฐมนตรีว่ากระ และรัฐมนตรีช่วยว่าการธ.นั้น ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ผมไม่ได้พูดห้ามหรือมีเจตนาอย่างนั้นเพราะผมเข้าใจในวิถีพี่น้องมุสลิมเป็นอย่างดี และที่สำคัญผมเน้นเรื่องคุณภาพการศึกษา ของเด็ก ของครู และความร่วมมือของผู้ปกครองเป็นำคัญ” ดร.ชูสิน กล่าวและว่า ขณะนี้มีนักเรียนแต่งชุดฮิญาบและกางเกงยาว ประมาณ 15 คน ซึ่งมีรูปแบบที่แตกต่างกัน จึงจำเป็นที่จะต้องมีการกำหนดชุดเครื่องแบบที่เหมือนกันเป็นการเฉพาะที่เป็นอัตลักษณ์ของโรงเรียนอนุบาลปัตตานี โดยเฉพาะคนที่จะแต่งใหม่จะได้ไม่ต้องให้ผู้ปกครองเดือดร้อน..
รองศธจ.ปัตตานี กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม การที่จะเปลี่ยนแปลงอะไร เราต้องให้เวลากับทุกฝ่าย ได้บริหารความรู้สึก ซึ่งตนเป็นคนกลางลำบากใจและต้องรับฟังทั้งสองฝ่าย ขณะนี้กำลังประสานผู้เกี่ยวข้องเพื่อจัดตั้งคณะทำงานร่วม โดยจะมีทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อหาทางออกที่ดีที่สุด ในเรื่องของ การกำหนดแบบฟอร์มการแต่งกายนักเรียน รวมทั้งวัน เวลา ที่จะต้องมีการแต่งกายชุดอะไร ดังนั้นขอให้ทุกๆฝ่ายได้เข้าใจถึงวิธีการทำงาน เราต้องเคารพในกฏระเบียบจารีตประเพณีของบ้าน ของโรงเรียน ของชุมชน และของประเทศชาติ ทุกปัญหาย่อมมีทางออก ขอฝากไปยังสื่อต่างๆขอให้สร้างสรรค์ในการนำเสนอข่าวด้วย.ขอฝากไปถึงทุกๆฝ่ายที่เกี่ยวข้อง.ในช่วงเดือนรอมฏอนอันประเสริฐของพี่น้องชาวไทยที่นับถือศาสนาอิสลาม ขอร้องอย่าเอาเรื่องของศาสนา หรือเอาเด็กนักเรียนมาเป็นเครื่องมือในการทำร้ายซึ่งกันและกัน..ขอพรพระเจ้าดลบันดาลให้ทุกคนที่คิดดี ทำดี เจตนาดี ต่อชาติบ้านเมืองประสบแต่ความสุขความเจริญด้วยครับ
อาชีวะ ผลึกกำลังบีเอสเอ เครือปตท. ผลิตคนคุณภาพป้อนสถานประกอบการ
ดร.บุญส่ง จำปาโพธิ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ได้ลงนามความร่วมมือกับบริษัท บิซิเนส เซอร์วิเซส อัลไลแอนซ์ จำกัด (BSA) เป็นบริษัทในกลุ่ม บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจสถานีการบริการน้ำมัน ปตท. ร้านค้าสะดวกซื้อ 7-eleven ร้านกาแฟ Café Amazon และสาขาธุรกิจอื่นที่เกี่ยวข้องกับบริษัท เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการเรียนการสอนอาชีวศึกษา และร่วมผลิตและพัฒนากำลังคนให้ได้มาตรฐานสอดคล้องกับความต้องการของสถานประกอบการและตลาดแรงงาน ในรูปแบบการศึกษาระบบทวิภาคี
ดร.บุญส่ง กล่าวต่อไปว่า สอศ.เป็นสถาบันการศึกษาที่มีภารกิจหลักในการจัดการอาชีวศึกษาและฝึกอบรมวิชาชีพ เพื่อผลิตและพัฒนากำลังคนในระดับฝีมือ ระดับเทคนิค และระดับเทคโนโลยี ให้มีคุณภาพสอดคล้องกับการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม จึงร่วมมือกับทางบีเอสเอด้านวิชาการในการจัดการอาชีวศึกษา ประเภทวิชาพาณิชยกรรม หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) สาขาวิชาธุรกิจค้าปลีก และหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) สาขาวิชาการจัดการธุรกิจค้าปลีก และสาขาวิชาที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของบริษัท โดยมุ่งเน้นความเป็นเลิศด้านวิชาชีพ เน้นการเรียนรู้จากการปฏิบัติงานจริง เพื่อเพิ่มพูนความรู้ ทักษะ และประสบการณ์นอกเหนือจากตำราหรือห้องเรียน ส่งเสริมให้นักเรียน นักศึกษา เข้าสู่ตลาดแรงงานได้ตรงตามเป้าหมายเมื่อสำเร็จการศึกษา และมีงานรองรับ
ด้าน นางเบญญาภรณ์ จารุจินดา กรรมการผู้จัดการ บริษัท บิซิเนส เซอร์วิสเซล อัลไลแอนซ์ จำกัด (BSA) บริษัทในกลุ่ม ปตท.บริหารร้านค้าปลีกสถานีบริการน้ำมัน กล่าวเพิ่มเติมว่า ทางบริษัทได้มีการวางแผนจัดโปรแกรมการฝึกประสบการณ์วิชาชีพ ต่อเนื่องตลอดปีการศึกษา และจัดโปรแกรมการทำงานพิเศษช่วงปิดภาคเรียน หรือช่วงเวลาหนึ่งเวลาใดในระหว่างปีการศึกษา ซึ่งบริษัทจะรับนักเรียน นักศึกษา ในสาชาวิชาที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของบริษัทที่มีความสมัครใจเข้าทำงานที่บริษัท โดยบริษัท จะให้ความรู้ ให้การฝึกอบรม และฝึกทักษะอาชีพในด้านต่างๆ แก่ นักเรียน นักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการ รวมทั้งจัดทำแผนการเรียนการสอน ตลอดจนแผนการฝึกอาชีพ การวัดและประเมินผลการฝึกประสบการณ์วิชาชีพ ร่วมกับสอศ. และสถานศึกษาที่ร่วมโครงการ เพื่อพัฒนา ปรับปรุงแก้ไขปัญหา อุปสรรคในการจัดการศึกษาร่วมกัน และบริษัทยังสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการเข้าฝึกปฏิบัติงานและแจ้งสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่นักเรียน นักศึกษาจะได้รับจากโครงการ
สำหรับ การลงนามความร่วมมือในครั้งนี้ สอศ.ต้องขอขอบคุณ บริษัท บิซิเนส เซอร์วิสเซล อัลไลแอนซ์ จำกัด (BSA) ที่เห็นความสำคัญของการจัดการอาชีวศึกษา ความร่วมมือในครั้งนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาการศึกษาสายวิชาชีพให้มีศักยภาพนำไปสู่การผลิตและพัฒนาบุคลากรที่มีคุณภาพ ตรงกับความต้องการของสถานประกอบการ และเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศต่อไป ดร.บุญส่ง กล่าวปิดท้าย
กลุ่มประชาสัมพันธ์ สอศ / 31 พฤษภาคม 2561