ปลื้ม เปิด“ศูนย์อาชีวะอาสา” 3 วัน ประชาชนเข้าใช้บริหารเกือบ 23,000 คนแล้ว นักศึกษาแข็งขันให้บริการเต็มที่ ย้ำเปิดถึง 17 เม.ย.

เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2568 นายยศพล เวณุโกเศศ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) เปิดเผยถึงการดำเนินงาน ศูนย์ อาชีวะ-ขนส่ง อาสาช่วยประชาชน เทศกาลสงกรานต์ 2568 กระทรวงศึกษาธิการ โดย พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ห่วงใยประชาชนที่เดินทางช่วงเทศกาล มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) จัดตั้งจุดบริการประชาชน จำนวน 150 จุด ระหว่างวันที่ 11 ถึง 17 เมษายน 2568 เวลา 06.00 – 18.00 น. บนถนนสายหลักและสายรอง ทั่วประเทศ ว่า จากการรายงานยอดผู้ใช้บริการพักรถ 3 วันแรก (11–13 เมษายน) มีประชาชนเข้ารับบริการแล้ว 22,828 คน รับบริการพักรถกว่า 8,913 คัน โดยการบริการรถยนต์ที่ได้รับความนิยมสูงสุด ได้แก่ ตรวจเช็คสภาพยางรถยนต์ ไส้กรองอากาศ และน้ำมันเครื่อง ส่วนรถจักรยานยนต์ ตรวจเช็คน้ำมันเครื่อง และเปลี่ยนถ่ายมีผู้ใช้บริการมากที่สุด รองลงมาเช็คสภาพยางรถ และระบบเบรค นอกจากนี้ ยังมีประชาชนกว่า 13,915 คน รับบริการพักคน อาทิ รับเครื่องดื่มฟรี ผ้าเย็น นั่งพักผ่อน และบริการสอบถามเส้นทาง แหล่งท่องเที่ยว

“มีหลายเหตุการณ์ที่นักศึกษาอาชีวะได้ให้ความช่วยเหลือ เช่น รถพ่วง 18 ล้อแบตหมด ทีมจากวิทยาลัยการอาชีพพนมทวนเข้าให้ความช่วยเหลือจนเดินทางต่อได้ และชาวบ้านขี่จักรยานยนต์พวงข้างมาขอความช่วยเหลือ ทีมจากวิทยาลัยการอาชีพสองพี่น้อง ได้ตรวจเช็คระบบเบรก ยางรถ และเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องให้ พร้อมคำแนะนำใช้งานอย่างปลอดภัย ซึ่งต้องขอชื่นชมและขอบคุณนักศึกษาและครูทุกคนที่ร่วมออกศูนย์อาชีวะอาสาในครั้งนี้ โดย 3 วันแรก พบว่ามีประชาชนใช้บริการอย่างต่อเนื่อง น้องๆ อาชีวะไม่เพียงให้บริการด้วยทักษะวิชาชีพ แต่ยังทำให้ประชาชนรู้สึกอุ่นใจในการเดินทางเพิ่มขึ้นด้วย” เลขาธิการ กอศ. กล่าวและว่า ทั้งนี้สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือค้นหาจุดบริการใกล้บ้านได้ทาง Application / LINE / Facebook / Website “อาชีวะอาสา”

 

”ดรุณาราชบุรี” นำรูปแบบ Active Learning GPAS 5 Steps 100% จัดการเรียนการสอน เด็กแห่เข้าเรียนเพียบ”บาทหลวงอภิสิทธิ์”การันตีมาตรฐานการศึกษาไม่แพ้ระดับโลก

เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2568 บาทหลวง ผศ.ดร.อภิสิทธิ์ กฤษเจริญ ผู้อำนวยการโรงเรียนดรุณาราชบุรี ให้สัมภาษณ์ถึงการรับนักเรียนของโรงเรียนดรุณาราชบุรี  ปีการศึกษา 2568 ว่า ปีนี้ เป็นอีกปีหนึ่งที่มีนักเรียนสนใจมาสมัครเข้าเรียนชั้น ม.1 เป็นจำนวนมาก ซึ่งจริง ๆ แล้ว โรงเรียนเราไม่ใช่โรงเรียนเบอร์ 1 ที่เด็กจะเลือกเข้ามาเรียน เพราะเด็กส่วนใหญ่จะไปโรงเรียนของรัฐก่อน เพราะโรงเรียนเอกชนมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง เมื่อเด็กสอบเข้าไม่ได้ก็จะมาเรียนโรงเรียนเอกชน  ทั้งนี้จากการสัมภาษณ์ผู้ปกครอง อยากเอาลูกมาเข้าโรงเรียนดรุณาราชบุรีมาก แต่เขาก็จะมีข้อจำกัดเรื่องค่าใช้จ่าย ก็ต้องไปสอบเข้าโรงเรียนของรัฐบาลก่อน ทั้งที่ใจอยากให้ลูกมาเรียนกับเรา และเท่าที่สัมภาษณ์เด็ก ทุกคนอยากมาเรียนที่นี่ เพราะเรียนแล้วมีความสุข ได้ทำกิจกรรม ซึ่งเป็นผลมาจากที่เราจัดการเรียนการสอนด้วยรูปแบบ Active Learning ผ่านกระบวนการคิดขั้นสูง GPAS 5 Steps   เด็กได้เรียนรู้โดยการลงมือปฏิบัติไม่ได้เรียนเฉพาะในห้องเรียนเท่านั้น อีกทั้งที่โรงเรียนยังมีกิจกรรมเสริมให้เด็กได้เรียน ทำให้เด็ก ๆ มีความสุขกับเพื่อนและมีความสุขในการเรียน

“ประเด็นสำคัญคือเด็กเรียนแล้วมีความสุข ไม่ต้องกดดัน ไม่ได้หมายความว่าเราไม่เน้นวิชาการ แต่ Active Learning ผ่านกระบวนการคิดขั้นสูง GPAS 5 Steps    ช่วยให้เด็กคิดเป็นกระบวนการ พอเด็กคิดเป็นกระบวนการได้ ก็สามารถต่อยอดได้ ขณะเดียวกันก็มีครูที่เอาใจใส่ ทำให้เด็กได้รับความอบอุ่น มีครูเป็นเพื่อนร่วมทางไปกับเขาด้วย อีกอย่างคือโรงเรียนมีกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง เพราะเด็กเรียนโดยการปฏิบัติ ซึ่งโรงเรียนในเครือเราทั้งหมดใช้แนวทางเดียวกันในการจัดการเรียนการสอนมานานแล้ว แต่ในช่วงสามปีที่พ่อเข้ามารับตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงเรียนเราใช้ Active Learning ผ่านกระบวนการคิดขั้นสูง GPAS 5 Steps    เต็มรูปแบบมาตลอด โดยมีสถาบันพัฒนาคุณภาพวิชาการ(พว.)เข้ามาช่วยแนะนำ อบรมครู และ เปลี่ยนวิธีการจัดการเรียนการสอนใหม่ โดยผลที่ออกมา คือ ห้องปัญญาประดิษฐ์ที่เด็กเรียนด้วยโปรเจคทำให้เด็กสามารถคิดได้เอง”ผู้อำนวยการโรงเรียนดรุณาราชบุรี กล่าว

บาทหลวง ผศ.ดร.อภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ภาพรวมปีนี้ถือว่าเด็กมาสมัครเรียนน้อยลง เพราะจำนวนประชากรช่วงวัยลดลงโดยเฉพาะในระดับประถมศึกษาและอนุบาล แต่ระดับมัธยมศึกษายังค่อนข้างคงที่พอ ๆ กับทุกปี ทำให้ปีนี้เป็นอีกปีหนึ่งที่ มีเด็ก มาสมัครชั้น ม.1 เกือบ 1,000 คน แต่รับได้แค่ห้องละ 50 คน ในห้องปกติจำนวน 9 ห้อง และห้อง AI อีก 1 ห้อง ๆละ  35 – 40 คน ซึ่งเด็กจะต้องสอบให้ได้คะแนนตามเกณฑ์ที่เราวางไว้ โดยเอาคะแนนมาเรียงลำดับรับได้จำนวนเท่าไหร่ก็เท่านั้น อย่างไรก็ตามในกรณีที่เด็กระดับปฐมวัยลดจำนวนลงทางโรงเรียนได้มีการปรับตัว โดยเตรียมการใช้การเรียนรู้แบบ Montessori มาปรับวิธีการเรียนการสอนเพื่อปูฐานให้เป็น Active Learning ผ่านกระบวนการคิดขั้นสูง GPAS 5 Steps   ในอนาคต เพราะฉะนั้นถ้าเด็กเข้าโรงเรียนในเครือได้ตั้งแต่อนุบาลก็จะอยู่ยาวไปจนถึง ม.ปลาย และทางโรงเรียนก็ได้เตรียมแผนการเรียนระดับ ม.ปลาย โดยมีการ ทำ MOU อยู่กับมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศไว้แล้ว เพราะฉะนั้นถ้าเด็กเรียนที่นี่ก็มีโอกาสเรียนต่อมหาวิทยาลัยชั้นนำจนจบการศึกษาระดับสูงสุด

ศธ.ห่วงความปลอดภัยของนักเรียน ครู และบุคลากร ช่วงเทศกาลสงกรานต์ แนะผู้ปกครองดูแลบุตรหลานใกล้ชิด

เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2568 ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า ด้วยขณะนี้เป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์ วันปีใหม่ไทย เป็นช่วงเวลาแห่งความสุข ความอบอุ่น และความสนุกสนาน เด็กๆ ต่างรอคอยการเล่นน้ำสงกรานต์ในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ กระทรวงศึกษาธิการ  โดย พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ และ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) มีความห่วงใยความปลอดภัยของนักเรียนและบุคลากรทางการศึกษา โดยเฉพาะในด้านสุขภาพร่างกาย จึงขอให้ระมัดระวังสภาพอากาศที่ร้อน ไม่ควรอยู่ท่ามกลางอากาศร้อนเป็นระยะเวลานาน อาจทำให้เกิดโรคลมแดดหรือฮีทสโตรก ที่อาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ และขอให้ผู้ปกครองดูแลบุตรหลานเล่นน้ำอย่างปลอดภัย โดยเฉพาะเด็กเล็กควรดูแลอย่างใกล้ชิด ไม่ให้เล่นน้ำติดต่อกันเกิน 1 ชั่วโมง ไม่วิ่งตัดหน้ารถ ไม่ให้เด็กเล่นลำพัง หรือใช้อุปกรณ์การเล่นที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อตนเองและผู้อื่น และขอความร่วมมือสถานศึกษาทั่วประเทศร่วมรณรงค์ความปลอดภัยในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ยานพาหนะโดยรักษากฎจราจรการสวมใส่หมวกกันน็อก ไม่ขับขี่ยานพาหนะขณะมึนเมา หรือการไม่ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ เพราะช่วงเวลาแห่งความสุขไม่ควรมีอุบัติเหตุเกิดเพียงเพราะความประมาท

เลขาธิการ กพฐ. กล่าวต่อไปว่า รมว.ศึกษาธิการ ยังได้กำชับหน่วยงานในสังกัดเฝ้าระวังสถานการณ์ด้านสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด และให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของนักเรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยอ้างอิงจากประกาศของกรมอุตุนิยมวิทยา ในช่วงวันที่ 12-14 เมษายน 2568 ขอให้ระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนและฝนตกหนักที่จะเกิดขึ้น ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีพายุฝนฟ้าคะนองและเส้นทางที่มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก หรืออยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง รวมทั้งเพิ่มความระมัดระวังการจัดกิจกรรมกลางแจ้งช่วงเทศกาลสงกรานต์ และดูแลรักษาสุขภาพในช่วงที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงไว้ด้วย พร้อมสั่งการให้ สพฐ. แจ้งสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและสถานศึกษาในสังกัด ตรวจสอบอาคารและสิ่งปลูกสร้างในโรงเรียนให้มีความมั่นคง ปลอดภัย เตรียมความพร้อมรับมือพายุ และบูรณาการกับหน่วยงานท้องถิ่น เช่น ฝ่ายปกครองในพื้นที่ หน่วยงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เพื่อช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที รวมถึงติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด

“พร้อมกันนี้ สพฐ. ได้มอบหมายให้ ศูนย์บริหารความสุขและความปลอดภัย สพฐ. ประสานความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ฝ่ายท้องถิ่น และภาคีเครือข่ายต่างๆ เฝ้าระวังความประพฤตินักเรียนภายนอกสถานศึกษาในภาวะเสี่ยง เพื่อให้สามารถช่วยเหลือได้ทันท่วงทีในทุกกรณี อีกทั้งก่อนปิดภาคเรียน สพฐ. ได้มีหนังสือเรื่อง “มาตรการเตรียมความพร้อมการปิดภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2567” แจ้งไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศ และสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ ให้เตรียมการรักษาความปลอดภัย และวางแผนรับมือสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นกับนักเรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษา และทรัพย์สินของทางราชการในทุกด้านแล้ว ซึ่งหากประสบเหตุความไม่ปลอดภัยขึ้น ขอให้สถานศึกษาดำเนินการตามมาตรการกำกับ ติดตามและรายงานเหตุ ตามแนวทางปฏิบัติที่ สพฐ. ได้แจ้งไปอย่างเคร่งครัด เพื่อช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็วทันท่วงที” เลขาธิการ กพฐ. กล่าว

มทร.กรุงเทพ ร่วมมือ สำนักข่าว efinanceThai จัดโรดโชว์อบรมความรู้อย่างเข้มสายการเงินการลงทุน หวังปั้นอินฟลูรุ่นใหม่ที่รู้จริง มีจรรยาบรรณ สื่อสารได้อย่างสร้างสรรค์

ผศ.ดร.กิตติพงษ์ โสภณธรรมภาณ คณบดีคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล(มทร.)กรุงเทพ เปิดเผยว่า  เมื่อเร็ว ๆ นี้ รศ.ดร.พิชัย จันทร์มณี อธิการบดี มทร.กรุงเทพ ได้มอบหมายให้สาขาวิชาการเงินและนวัตกรรมทางการเงิน คณบดีคณะบริหารธุรกิจ มทร.กรุงเทพ จัดกิจกรรม RoadShow โครงการ The Influencer: Financial & Investment ร่วมกับสำนักข่าว efinanceThai  เพื่อค้นหาและสร้าง Influencer สายการเงิน การลงทุน ที่มีความรู้ สามารถสื่อสารอย่างสร้างสรรค์ และมีจริยธรรมในวิชาชีพ เปิดกว้างสำหรับทุกเพศ ทุกวัย ที่รักการเรียนรู้

ผศ.ดร.กิตติพงษ์  กล่าวว่า คอร์สการบอบรมครั้งนี้เป็นการอบรมทางการเงิน การลงทุนอย่างเข้มข้น โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งผู้เข้ารับการอบรมจะได้ความรู้ทั้งทฤษฎีการลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ และวิธีการสร้างสรรค์คอนเทนต์ให้น่าสนใจในรูปแบบต่างๆ และยังมีโอกาสได้เข้าร่วมแข่งขัน เพื่อชิงรางวัลรวมมูลค่ากว่า 500,000 บาท พร้อมโอกาสในการร่วมงานกับพันธมิตรชั้นนำของผู้จัดกิจกรรมอีกด้วย โดยการแข่งขันจะแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ 1.นักศึกษาและประชาชนทั่วไป ที่มีผู้ติดตามไม่เกิน 5,000 คน และ 2.Micro Influencer ที่มีผู้ติดตามตั้งแต่ 5,000-100,000 คน ทั้งนี้ เกณฑ์การตัดสิน คือ 1.ผู้แข่งขันต้องเข้าอบรมครบ 100%  2.ส่งการบ้านตามที่กำหนด  3.ความถูกต้องของการบ้านที่ส่ง  4.รอบแรกเราจะคัดคะแนนจาก Popular Vote  และ5.รอบสุดท้ายเป็นคะแนนตัดสินจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ

“เนื้อหาหลักสูตรครอบคลุมการวางแผนการเงินและการลงทุนในทุกสินทรัพย์ ทั้งหุ้น อสังหาริมทรัพย์ ทองคำ และสินทรัพย์ดิจิทัล รวมถึงเทคนิคการสร้างตัวตนออนไลน์ การทำคอนเทนต์ และการเล่าเรื่องให้น่าดึงดูด โดยจัดการอบรมระหว่างวันที่ 26 เมษายน – 28 มิถุนายน 2568 เวลา 9.00 – 16.00 น. ที่ True Digital Park โดยมีทั้งคลาสเรียน Onsite และ Online นับต่อเนื่องทุกเสาร์ไป 9 ครั้ง  สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการ ทาง https://theinfluencer-th.com/signup หรือ  สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/profile.php?id=61571544086799 Line: https://line.me/ti/p/fwoaUbrkD8 “ผศ.ดร.กิตติพงษ์

เสมา 1 ชื่นชม โรงเรียนเตรียมการดูแลความปลอดภัยสอบเข้า ม.1 ม.4 ได้ดี เผย สอศ.จับมือขนส่งทางบก จัดจุดอาชีวะอาสาบริการประชาชนช่วงสงกรานต์ 150 จุด

เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2568 พลตำรวจเอกเพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานประชุมประสานภารกิจกระทรวงศึกษาธิการ ครั้งที่ 11/2568 ณ ห้องประชุมราชวัลลภ ชั้น 2 กระทรวงศึกษาธิการ และออนไลน์ผ่านระบบ Zoom meeting โดย รมว.ศึกษาธิการ กล่าวถึงเหตุการณ์แผ่นดินไหว ซึ่งส่งผลกระทบถึงการจัดสอบคัดเลือกนักเรียนชั้น ม.1  และ ม.4 ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) แต่ สพฐ.และโรงเรียนสามารถดำเนินการด้วยความเรียบร้อย โดยทุกโรงเรียนมีการเตรียมความพร้อมและดูแลเรื่องความปลอดภัยเป็นอย่างดี สำหรับการประชุมวันนี้ที่ประชุมได้มีการติดตามเรื่อง การขับเคลื่อนเพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาสู่มาตรฐานสากล โดยการเตรียมความพร้อมในการสอบ PISA นั้น สพฐ.ได้รายงานความก้าวหน้าการอบรมสร้างและพัฒนาข้อสอบวัดความฉลาดรู้ด้านการอ่าน วิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์ ในระดับเขตพื้นที่ จำนวน 245 เขตพื้นที่ 78 ห้องเรียน มีกลุ่มเป้าหมาย จำนวนทั้งสิ้น 445,624 คน ลงทะเบียนแล้วจำนวน 429,603 คน อบรมแล้วเสร็จ 326,375 คน

โรงเรียนนำชุดพัฒนาความฉลาดรู้ฯ ด้านการอ่าน วิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์ ไปใช้ในภาคเรียนที่ 2/2567 จำนวน 6 – 8 เรื่อง ครบทุกโรงเรียน ผลลัพธ์ที่ได้ คือ ครูสามารถจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เพื่อเสริมสร้างสมรรถนะความฉลาดรู้ ได้สอดคล้องกับแนวทางการประเมิน มีวิธีการใช้คำถามกระตุ้นการคิดให้กับนักเรียนได้ฝึกคิด นักเรียนได้รับการฝึกการอ่าน คิดวิเคราะห์ จับประเด็น เชื่อมโยงได้ ขณะเดียวกันโรงเรียนมีการจัดกิจกรรมให้นักเรียนได้ฝึกทำข้อสอบ Computer Based Test ในภาคเรียนที่ 1 และ 2/2567 ทำให้นักเรียนคุ้นเคยการทำข้อสอบผ่านคอมพิวเตอร์มากขึ้น  และมีกิจกรรม “เพิ่มพูน” สมรรถนะความฉลาดรู้ ระยะที่ 1 ในช่วงเดือน พฤษภาคม – สิงหาคม 2568 และระยะที่ 2 ในช่วงเดือน พฤศจิกายน 2568 – กุมภาพันธ์ 2569 โดยจะเป็นการจัดการสอนวิชาการอ่าน วิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์ ในรูปแบบ Anywhere Anytime ทางออนไลน์ ผ่านช่องทาง OBEC Channel : OBEC TV , Facebook, YouTube  และ  สพฐ. ได้เชิญชวนเด็ก ๆ เข้าร่วมกิจกรรมปิดเทอมใหญ่ เด็กไทย ฉลาดคิด เล่นเกม “สนุกคิด ปิดเทอมใหญ่” ตอบคำถาม PISA ชิงเกียรติบัตรและรางวัลจาก รมว.ศึกษาธิการ ระหว่างวันที่ 8 เมษายน – 16 พฤษภาคม 2568 โดย ณ วันที่ 7 เมษายน มีนักเรียนร่วมเล่นเกมแล้ว 1,019 คน

รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า ในส่วนของสภาการศึกษา(สกศ.) ได้เสนอเกี่ยวกับ AI Mapping for Education Development  ซึ่งมีการประเมินความพร้อม 4 มิติ เพื่อจัดทำยุทธศาสตร์ เติมเต็มช่องว่างให้เกิดประสิทธิผลสูงสุด ได้แก่ ด้านโครงสร้างพื้นฐาน ด้านบุคลากรทุกภาคส่วน ด้านการจัดการเรียนการสอน และด้านการบริหารจัดการศึกษา  พร้อมนำเสนอ 7 ประเด็นการศึกษาที่ผู้กำหนดนโยบายต้องตระหนัก ช่วงปี 2568 – 2570 ได้แก่ 1. ระบบการศึกษาที่ขับเคลื่อนและจัดหาเงินทุน  2. การเรียนรู้ตลอดชีวิตและการเรียนรู้ภายนอกกรอบสถาบัน 3. การเปลี่ยนแปลงในระบบการศึกษา 4. แนวโน้มล่าสุดในระบบการศึกษาและผลกระทบในอนาคต 5. ประโยชน์ของการศึกษา ต่อบุคคลและสังคม 6. การเริ่มต้นของการศึกษาในโรงเรียนและการเรียนรู้พื้นฐาน (การศึกษาปฐมวัย – ประถมศึกษา) 7. การขาดแคลนครูและความน่าดึงดูดใจของอาชีพครู

พล.ต.อ.เพิ่มพูน กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) ได้รายงานถึงความท้าทายของโรงเรียนไทย ว่า สมศ.ได้มีการประเมินคุณภาพโรงเรียนทั้งหมด 5,075 แห่ง โดยใช้มาตรฐาน 3 ด้าน ได้แก่ ผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียน การบริหารจัดการและสิ่งสนับสนุนการเรียนรู้ และการสอนและหลักสูตร ซึ่งประเด็นสำคัญที่ได้จากการวิเคราะห์ พบว่า การลงทุนในด้านครูและการสอน อาจมีผลต่อผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนมากขึ้น และการปรับกลยุทธ์การพัฒนาโรงเรียนไม่ควรใช้แนวทางเดียวกันทั้งหมด แต่ควรปรับตามบริบทของโรงเรียนในแต่ละกลุ่ม จึง ขอให้ สมศ.เป็นหลักในการขับเคลื่อนต่อเนื่อง ปรับข้อมูลให้ผลเข้าใจง่าย เอาผลทุกหน่วยงานวัดมาวิเคราะห์ ไม่อยากให้ดูเฉพาะผลลัพธ์ แต่ขอให้ดูข้อมูลตัวป้อน เพราะต้นทุน บริบทแต่ละโรงเรียนแตกต่างกัน และให้ สพฐ. นำข้อมูลนี้ไปใช้พัฒนาโรงเรียนต่อไป และอีกสิ่งหนึ่งที่อยากให้เกิดขึ้น คือ โรงเรียนคู่พัฒนา โรงเรียนที่มีคุณภาพเด่น ช่วยเหลือโรงเรียนที่มีคุณภาพน้อยกว่า

“น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มีข้อสั่งการในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยขอให้ทุกหน่วยงานอำนวยความสะดวก ในการเดินทางและดูแลความปลอดภัย โดยขอความร่วมมือกระทรวงศึกษาธิการในการเตรียมอาสาสมัครนักเรียนอาชีวะ เพื่อช่วยซ่อมรถของประชาชนที่เสียระหว่างการเดินทาง ซึ่งในส่วนนี้สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(สอศ.)ได้ร่วมกับ กรมการขนส่งทางบก และเครือข่ายภาคเอกชน จัดกิจกรรมอาชีวะ-ขนส่ง อาสาช่วยประชาชน ระหว่างวันที่ 11 – 17 เมษายน 2568 ตั้งแต่ 6 โมงเช้า – 6 โมงเย็น จำนวน 150 จุดบริการ ใน 77 จังหวัดทั่วประเทศ  ซึ่งมีบริการ ฟรี “พักรถ” ตรวจเช็คสภาพรถยนต์ 20 รายการ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง หลอดไฟรถจักรยานยนต์ ตรวจเช็คสภาพและชาร์ตแบต รถยนต์ไฟฟ้า EV ช่วยเหลือกรณีฉุกเฉิน ระยะ 5 กม. จากจุดบริการ “พักคน” จัดบริการน้ำดื่ม กาแฟ ชาร์จแบต นวดผ่อนคลาย และบริการสอบถามเส้นทาง ฯลฯ” รมว.ศึกษาธิการกล่าว

เด็ก มทร.กรุงเทพคว้าเหรียญฝีมือยอดเยี่ยมสาขาไม้เครื่องเรือน ในการแข่งขันฝีมือแรงงานแห่งชาติ ครั้งที่ 30

รศ.ดร.พิชัย จันทร์มณี อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล(มทร.)กรุงเทพ เปิดเผยว่า กระทรวงแรงงาน โดยกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ได้จัดการแข่งขันฝีมือแรงงานแห่งชาติ ครั้งที่ 30 และการแข่งขันฝีมือคนพิการครั้งที่ 10 ระหว่างวันที่ 22-23 มีนาคม 2568 ณ ศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยมีนักศึกษาจากสถาบันต่างๆ ทั่วประเทศเข้าร่วมการแข่งขันในสาขาวิชาชีพที่หลากหลาย เพื่อพัฒนาเยาวชนในการยกระดับฝีมือแรงงานไทยสู่มาตรฐานสากล ซึ่งผู้เข้าร่วมแข่งขันในแต่ละสาขาจะต้องผ่านการแข่งขันในรอบการคัดเลือกระดับภาคก่อนที่จะเข้าสู่การแข่งขันในรอบระดับประเทศ จากนั้นผู้ที่ผ่านการคัดเลือกในแต่ละสาขาในระดับประเทศ จะได้เป็นตัวแทนของประเทศไทยเข้าร่วมการแข่งขันระดับอาเซียน เอเชีย และนานาชาติต่อไป

รศ.ดร.พิชัย กล่าวต่อไปว่า สำหรับการแข่งขันในครั้งนี้ทางสาขาเทคโนโลยีเครื่องเรือนและการออกแบบ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มทร.กรุงเทพ ได้ร่วมกับบริษัท เคหะพลัส จำกัด สนับสนุนเครื่องมือและอุปกรณ์ในการแข่งขัน และได้ส่งนักศึกษาสาขาเทคโนโลยีเครื่องเรือนและการออกแบบ เข้าร่วมการแข่งขันมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ ในกลุ่มสาขาอาชีพเทคโนโลยีก่อสร้างและอาคาร (Construction and Building Technology) และสาขาไม้เครื่องเรือน (Cabinetmaking) ซึ่งการแข่งขันในครั้งนี้ผลปรากฏว่า นายสุรศักดิ์ รัตนถาวร  นักศึกษาปริญญาตรีชั้นปีที่ 1 ภาคสมทบ สาขาเทคโนโลยีเครื่องเรือนและการออกแบบ สามารถคว้ารางวัลชมเชย ได้รับเหรียญฝีมือยอดเยี่ยมสาขาไม้เครื่องเรือน ซึ่งถือเป็นความภาคภูมิใจของมหาวิทยาลัย และเป็นความร่วมมือในการจัดการเรียนการสอนแบบบูรณาการกับการทำงานระหว่างมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ กับภาคเอกชน ในอีกทางหนึ่งด้วย

“กระทรวงศึกษาธิการ”ชี้แจง กรณีมีข่าวเฟคนิวส์

เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2568 ดร.สุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.)กล่าวถึงกรณีที่มีการแชร์ข่าวกันในโซเชียล ข้อความว่า กระทรวงศึกษาธิการเห็นด้วยกับร่างพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. … นั้น จริง ๆ แล้ว เรื่องนี้เกิดจากเมื่อปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา ตนได้ประชุมร่วมกับกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ (พณ.) ถึงประเด็นการแก้ปัญหาบุหรี่ไฟฟ้าในสถานศึกษา สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ที่มี พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) เป็นประธาน ซึ่งได้ประชุมถึงปัญหาบุหรี่ไฟฟ้ากำลังเป็นที่นิยมและแพร่ระบาดในกลุ่มเด็กและเยาวชน ซึ่งเจตนารมณ์ของ ศธ.ต้องการให้อำนาจผู้อำนวยการสถานศึกษา หรือครูฝ่ายปกครองที่ได้รับมอบหมายจากผู้อำนวยการสถานศึกษาได้ทำหน้าที่เป็นเจ้าพนักงานตรวจยึดบุหรี่ไฟฟ้าได้ตามข้องกฎหมายของกระทรวงพาณิชย์ โดย ศธ.ได้ย้ำว่าการให้อำนาจผู้อำนวยการสถานศึกษา หรือครูฝ่ายปกครองที่ได้รับมอบหมายจากผู้อำนวยการสถานศึกษาได้ทำหน้าที่เป็นเจ้าพนักงานตรวจยึดบุหรี่ไฟฟ้านั้น จะดำเนินการเฉพาะภายในขอบเขตของสถานศึกษาเพียงอย่างเดียว ซึ่ง พณ.มีความเข้าใจและเห็นชอบในหลักการที่จะปรับแก้ไขระเบียบที่เกี่ยวข้อง เพราะมีช่องทางที่สามารถแก้ไขระเบียบข้อบังคับตามประกาศ เรื่อง กำหนดให้บารากู่และบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าที่ต้องห้ามในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ.2557

“ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้ถามถึงประเด็นการจัดทำร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. …กระทรวงศึกษาธิการก็ได้ให้ความเห็นไปว่า การจัดทำร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวถือเป็นเรื่องดีที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศ แต่ทั้งนี้จะต้องกำหนดเงื่อนไขป้องกันเด็กและเยาวชนไม่ให้ไปสุ่มเสี่ยงกับกับการพนันด้วย ซึ่งเป็นการให้ความเห็นประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี(ครม.)เกี่ยวกับเรื่องนี้  ไม่ได้ขัดข้องในการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ด้วยกระทรวงศึกษาธิการ เป็นหน่วยงานที่ให้การศึกษา แก่เด็กและเยาวชน จึงต้องมีเงื่อนไข ในการดำเนินการตามกฏหมายเดิม เพื่อคุ้มครองเด็กและเยาวชน อย่างเคร่งครัดด้วย”ปลัด ศธ.กล่าวและว่า ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่านักข่าวต้นฉบับนี้แปลความหมายการสัมภาษณ์ตนอย่างไร เพราะมีนักข่าวหลายสำนักมาสัมภาษณ์ แต่ก็ไม่เห็นมีฉบับไหนลงเหมือนกับที่เป็นข่าว ซึ่งทำให้กระทรวงศึกษาธิการเสียหายเป็นอย่างมาก

“เสมา 1” ตรวจความปลอดภัยสนามสอบ ม.4 สวนกุหลาบ-ศึกษานารี ชื่นชมโรงเรียนทั่วประเทศ เตรียมการรับมือแผ่นดินไหวอย่างดี พร้อมยันยันเด็กต้องมีที่เรียนทุกคน


เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2568 พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วย ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสนามสอบคัดเลือกนักเรียนเข้าศึกษาต่อ ชั้น ม.4 ณ สถานศึกษาในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร ได้แก่ โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย และโรงเรียนศึกษานารี เพื่อติดตามการดำเนินการจัดสอบหลังเหตุการณ์แผ่นดินไหว และการเตรียมพร้อมแผนเผชิญเหตุ ตามแนวปฏิบัติในการเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกรณีหากเกิดแผ่นดินไหวในพื้นที่จัดสอบ โดยมีผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และบุคลากรที่เกี่ยวข้อง ร่วมติดตามการตรวจเยี่ยมในครั้งนี้

พลตำรวจเอก เพิ่มพูน กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสนามสอบในวันนี้ พบว่าโรงเรียนได้ดำเนินการจัดสนามสอบตามแนวปฏิบัติที่กำหนด เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกรณีเกิดแผ่นดินไหวอย่างมีประสิทธิภาพมาตรการที่ดำเนินการ ได้แก่ การตรวจสอบความมั่นคง แข็งแรง และความปลอดภัยของอาคารสถานที่ โดยเลือกใช้อาคารที่มีโครงสร้างแข็งแรง ปลอดภัย และไม่สูงมาก นอกจากนี้ ภายในโรงเรียนยังมีการกำหนดจุดรับ-ส่ง จุดพักคอย อาคารสอบ ทางออกฉุกเฉิน และจุดรวมพลไว้อย่างชัดเจน พร้อมประสานงานกับโรงพยาบาลและหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อให้สามารถให้ความช่วยเหลือและส่งต่อผู้ที่ต้องการการดูแลได้อย่างทันท่วงทีสำหรับสถานที่จัดสอบ ไม่ว่าจะเป็นห้องเรียนหรืออาคารอเนกประสงค์ ได้มีการเตรียมทางออกฉุกเฉิน เคลียร์สิ่งกีดขวางบนทางเดินและบันได รวมถึงห้ามวางสิ่งของบนที่สูง เพื่อลดความเสี่ยงในการร่วงหล่น โดยทุกขั้นตอนให้ความสำคัญกับความปลอดภัยเป็นอันดับแรก นอกจากนี้ก่อนถึงวันสอบโรงเรียนทุกโรงที่เป็นสนามสอบได้จัดการฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุแผ่นดินไหวแบบเสมือนจริง และในวันสอบจริงได้มีการแจ้งให้นักเรียนทราบถึงแนวปฏิบัติตามแผนเผชิญเหตุก่อนเริ่มการสอบ โดยภาพรวม โรงเรียนสามารถดำเนินการจัดสอบได้อย่างเรียบร้อยดี จึงขอส่งกำลังใจให้แก่นักเรียนทุกคนที่เข้าสอบในวันนี้


ทางด้าน ว่าที่ร้อยตรี ธนุ  กล่าวว่า สำหรับภาพรวมของการสอบคัดเลือกนักเรียนชั้น ม.4 ทั่วประเทศในปีนี้ มีการจัดสอบใน 74 จังหวัด รวม 64 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา โรงเรียนที่จัดสอบ จำนวน 423 โรงเรียน มีนักเรียนรวม 122,228 คน ซึ่งทาง สพฐ. ได้กำชับเรื่องความปลอดภัยของนักเรียนและครูเป็นสำคัญ และให้ดำเนินการตามมาตรการและแผนเผชิญเหตุอย่างเคร่งครัด ในส่วนโรงเรียนทั้ง 2 แห่งที่เราได้มาตรวจเยี่ยมวันนี้ สำหรับโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย วางแผนรับนักเรียนชั้น ม.4 จำนวนที่รับได้ 65 คน มีผู้สมัครสอบ จำนวน 523 คน อัตราการแข่งขัน 1 : 8.05 ส่วนโรงเรียนศึกษานารี วางแผนรับนักเรียนชั้น ม.4 จำนวนที่รับได้ 60 คน มีผู้สมัครสอบ จำนวน 406 คน อัตราการแข่งขัน 1 : 6.77 โดยหลังจากเสร็จสิ้นการสอบแล้ว จะประกาศผลภายในวันที่ 8 เมษายน และรายงานตัว/มอบตัวภายในวันที่ 10 เมษายน 2568 ต่อไป

“ทั้งนี้ หากนักเรียนคนใดพลาดหวัง ไม่สามารถสอบเข้าเรียนยังโรงเรียนที่ตั้งใจได้ สพฐ. มีศูนย์ประสานงานการรับนักเรียน ปีการศึกษา 2568 โดยผู้ปกครองสามารถยื่นความจำนง ณ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทุกแห่ง ตั้งแต่วันที่ 17-22 เมษายน ประกาศผลการจัดสรรภายในวันที่ 24 เมษายน และรายงานตัว/มอบตัวภายในวันที่ 27 เมษายน 2568 ดังนั้น ขอให้มั่นใจว่านักเรียนทุกคนจะมีที่เรียนในโรงเรียนคุณภาพที่พร้อมสร้างนักเรียนให้เป็นคนดี เป็นคนเก่ง “เรียนดี มีความสุข” อย่างแน่นอน” เลขาธิการ กพฐ. กล่าว

 

พร้อมกันนี้ เลขาธิการ กพฐ. ได้มอบหมายให้ผู้บริหารระดับสูงของ สพฐ. ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสนามสอบในพื้นที่อื่นๆ ด้วย ได้แก่ นายพัฒนะ พัฒนทวีดล รองเลขาธิการ กพฐ. ลงพื้นที่ ณ โรงเรียนวัดเขียนเขต (สพป.ปทุมธานี 2) โรงเรียนธัญรัตน์ (สพม.ปทุมธานี), นายภูธร จันทะหงษ์ ปุณยจรัสธำรง ผู้ช่วยเลขาธิการ กพฐ. ลงพื้นที่ ณ เตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ นนทบุรี (สพม.นนทบุรี) นางสาวพัชรกันย์ เมธาอัครเกียรติ รักษาการที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผน ลงพื้นที่ ณ โรงเรียนเมืองสุราษฎร์ธานี โรงเรียนสุราษฎร์พิทยา และโรงเรียนสุราษฎร์ธานี (สพม.สุราษฎร์ธานี ชุมพร) รวมทั้งคณะที่ปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญ สพฐ. ที่กระจายลงพื้นที่ ณ โรงเรียนต่าง ๆ พร้อมกันในแต่ละภูมิภาค

สกร.เปิดรับสมัครสอบเทียบความรู้ขั้นพื้นฐาน ครั้งที่ 1 วันที่ 4-10 เม.ย.

นายธนากร ดอนเหนือ อธิบดีกรมส่งเสริมการเรียนรู้ เปิดเผยถึงการเทียบระดับการศึกษาด้วยวิธีการสอบวัดระดับความรู้การศึกษาขั้นพื้นฐาน ว่า ระหว่างวันที่ 410 เมษายนนี้ กรมส่งเสริมการเรียนรู้ (สกร.) เปิดรับสมัครและรับขึ้นทะเบียนผู้มีสิทธิสอบตามรายวิชาที่ลงทะเบียน ครั้งที่ 1 จากนั้น สกร.จะตรวจสอบความถูกต้องก่อนประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์เข้ารับการทดสอบ ในวันที่ 18 เมษายน 2568 ผ่านระบบออนไลน์ที่ http://ekas.dole.go.th และ สกร.จะร่วมกับสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) ดำเนินการสอบเทียบระหว่างวันที่ 26-27 เมษายน 2568 จึงขอเชิญชวนนักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไปที่มีสัญชาติไทย ซึ่งประสงค์จะมีคุณวุฒิระดับประถมศึกษา ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น และระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย สมัครสอบเทียบระบบออนไลน์ได้ที่ http://ekas.dole.go.th หรือ ที่ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ระดับอำเภอเมืองทุกจังหวัด และศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ระดับเขตลองเตย กรุงเทพฯ รวมทั้งสิ้น 77 แห่ง ทั่วประเทศ ทั้งนี้ สามารถสมัครได้ไม่จำกัดอายุ ในกรณีอาย่ำกว่า 20 ปี ต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง และผู้สมัครต้องเป็นผู้มีคุณวุฒิในระดับการศึกษาที่ต่ำกว่าระดับที่ประสงค์จะขอสอบเทียบหนึ่งระดับ ยกเว้นขอสอบเทียบวัดระดับในระดับประถมศึกษา

​ ​” การจัดสอบเทียบวัระดับความรู้การศึกษาขั้นพื้นฐาน ครั้งที่ 1 ไม่คิดค่าใช้จ่ายจากผู้สมัครสอบ โดย สกร.จะสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการสำหรับศูนย์สอบและสถานศึกษาที่ทำใหน้าที่เทียบระดับ และคาดว่าจะดำเนินการจัดสอบเทียบวัดระดับความรู้การศึกษาขั้นพื้นฐาน ครั้งที่ 2 ได้ประมาณเดือนมิถุนายน 2568 ครั้งที่ 3 เดือนกรกฎาคม 2568ทั้งนี้ คาดว่าจะมีนักเรียนที่เก่ง มีความพร้อมไม่ต้องการใช้เวลาเรียนในโรงเรียนนาน รวมถึงนักศึกษา และประชาชนทั่วไป สนใจสมัครข้ารับการสอบเทียบรวมไม่ต่ำกว่า 3,000 คน นายธนากร กล่าว

ขณะที่ นายชัยพัฒน์ พันธุ์วัฒนสกุล รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเรียนรู้ ในฐานะช่วยกำกับดูแลด้านวิชาการ กล่าวว่า ข้อสอบที่ใช้จะเป็นข้อสอบประมวลความรู้ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560 ) ระดับประถมศึกษา ระดับมัธมศึกษาตอนต้น และระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย มีอบข่ายเนื้อหาใน 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ดังนี้ 1. ภาษาไทย 2. คณิตศาสตร์ 3. วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 4. สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม 5. สุขศึกษาและพลศึกษา 6.ศิลปะ 7.การงานอาชีพ และ 8. ภาษาต่างประเทศ ทั้งนี้ สำหรับระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย สามารถเลือกแผนการสอบได้ทั้งแผนทั่วไป และแผนวิทย์ – คณิต และหลังผ่านการทดสอบความรู้แล้ว ต้องเข้าร่วมสัมมนาวิชาการ เพื่อประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน การประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ และผ่านกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนด้วย จึงจะได้รับวุฒิการศึกษาในแต่ละระดับชั้น ซึ่งการออกวุฒิการศึกษาในแต่ละระดับจะมีเกรดเฉลียและมีค่าคะแนให้ด้วย การสอบเทียบวัดระดับความรู้นีเป็นการให้โอกาสทางการศึกษากับทุกคน เน้นการเรียนรู้ด้วยตนเองในทุกรูปแบบ ใครมีความพร้อมก็มาสอบ และวุฒิการศึกษาขั้นพื้นฐานในแต่ละระดับที่ได้รับมีศักดิ์และสิทธิ์เช่นเดียวกับการเรียนในสถานศึกษาทุกประการ สามารถนำไปศึกษาต่อในมหาวิทยาลัย และทำงานได้.

“รร.เครือคาทอลิก”พัฒนาคุณภาพการศึกษาไทย นำผู้เรียนก้าวสู่มาตรฐานโลก

“ครูปฐมวัย”คาทอลิก12แห่งกว่าร้อยคนแห่อบรมปฏิบัติการเพิ่มศักยภาพ พลิกโฉมเรียนรู้แนว Montessori เชื่อมโยง Active Learningพัฒนาทักษะแห่งศตวรรษที่ 21

เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2568 ณ หอประชุมเซนต์ฟรังซิส โรงเรียนดรุณาราชบุรี สถาบันพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) ได้จัดอบรมเชิงปฏิบัติการครูต้นแบบปฐมวัย ของโรงเรียนคาทอลิก 12 แห่งในสังกัดสังฆมณฑลราชบุรี และเขตการศึกษาที่ 6 อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ จำนวน 146 คน เข้าสู่การเป็นครูต้นแบบ “การเรียนรู้แบบมอนเตสซอรี่ (Montessori Approach) ให้สามารถเชื่อมโยงActive Learning เพื่อเพิ่มทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดย การอบรมนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 5-6 เมษายน 2568 ที่โรงเรียนดรุณาราชบุรี

‌บาทหลวง ผศ.ดร.อภิสิทธิ์ กฤษเจริญ ผู้อำนวยการโรงเรียนดรุณาราชบุรี ประธานฝ่ายอบรมศึกษาสังฆมณฑลราชบุรี กล่าวว่าการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการครูปฐมวัยในสังกัดโรงเรียนคาทอลิก 12 แห่งไม่ใช่แค่กิจกรรมพัฒนาครูเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการวางรากฐานใหม่ให้กับอนาคตเด็กไทย ผ่านพลังของครูที่เราเชื่อว่าเด็กเล็ก ๆ ทุกคนมีศักยภาพ และเราเชื่อมั่นว่าภายใต้การสนับสนุนของสถาบันพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) ที่มีองค์ความรู้ในการเรียนรู้แบบ Montessori จะเชื่อมโยงสู่ Active Learning และ การพัฒนาทักษะ  แห่งศตวรรษที่ 21 เช่น การคิดวิเคราะห์ แก้ปัญหา การสื่อสาร และการทำงานร่วมกันทั้งหมดนี้เท่ากับเริ่มต้น จาก “การเปลี่ยนห้องเรียน” ด้วยหัวใจของครูปฐมวัยของเราที่จะเป็นแรงบันดาลใจให้กับที่อื่น ๆ ด้วย
“ขอขอบคุณ สถาบันพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.)ที่มีองค์ความรู้ในการเรียนรู้แบบ Montessori จะเชื่อมโยงสู่ Active Learning และ การพัฒนาทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 เช่น การคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหา การสื่อสาร และการทำงานร่วมกันทั้งหมดนี้เท่ากับเริ่มต้น จาก “การเปลี่ยนห้องเรียน” ด้วยหัวใจของครูปฐมวัยของเราที่จะเป็นแรงบันดาลใจให้กับที่อื่น ๆ ด้วย ทำให้โรงเรียนคาทอลิกทั้ง 12 แห่ง เมื่อเข้ารับการอบรมปฏิบัติการแล้ว จะสามารถถ่ายทอดและประยุกต์ใช้ในห้องเรียนของตนได้ และจะมีการขยายผลจาก 12 แห่ง เป็น 24 แห่ง 50 แห่ง และขยายไปยังเครือข่ายคาทอลิกทั่วประเทศต่อไป และในอนาคตอาจเป็นโรงเรียนต้นแบบการจัดการเรียนรู้ปฐมวัยในแนว Montessori ที่โรงเรียนอื่นสามารถเข้ามาเรียนรู้และปรับใช้ได้ด้วย” บาทหลวง ผศ.ดร.อภิสิทธิ์ กล่าว

 ด้าน บาทหลวงเดชา อาภรณ์รัตน์ หัวหน้าเขตการศึกษาที่ 6 อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ กล่าวว่า ครูปฐมวัยไม่ได้แค่สอนหนังสือ แต่กำลังทำหน้าที่หล่อหลอมเด็กด้วยความเข้าใจ โดยโรงเรียนเราแม้จะเน้นวิชาการแต่ก็ไม่เคยมองข้ามการปลูกฝังคุณธรรม เมื่อนำมาเชื่อมกับ Montessori ซึ่งเน้นการพัฒนาองค์รวมของมนุษย์ ก็จะเป็นพลังที่สมดุลเกิดขึ้นระหว่างจิตใจ สติปัญญา และคุณค่าของมนุษย์คนหนึ่งได้อย่างดี ซึ่งครูปฐมวัยโรงเรียนคาทอลิกที่เข้ารับการอบรมก็กำลังเริ่มต้นเส้นทางของการเป็นแม่แบบผู้นำทางชีวิตอย่างแท้จริง เพราะการอบรมครั้งนี้จะเป็นรากฐานสู่การเรียนการสอนแบบ Active Learning เพื่อพัฒนาให้ผู้เรียนเรียนรู้ผ่านการลงมือปฏิบัติจริง (hands-on activities) เด็กเรียนรู้ตามความสนใจของตนเอง ครูจะมีบทบาทเป็นผู้สังเกตและให้คําแนะนํา เพื่อให้เด็กได้พัฒนาทักษะ การคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหา และการทำงานร่วมกับผู้อื่น

“เมื่อผสมผสานระหว่างมอนเตสซอรี่และ Active Learning เข้าด้วยกันจะช่วยให้เด็ก ๆ ได้พัฒนาทักษะที่จําเป็นสำหรับการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 เช่น ทักษะการคิด วิเคราะห์การแก้ปัญหา การสื่อสาร และการทำงานร่วมกับผู้อื่น ทักษะเหล่านี้ล้วนเป็นรากฐานสำคัญที่จะช่วยให้เด็ก ๆ ประสบความสำเร็จในการเรียนรู้ในระดับที่สูงขึ้นและในชีวิตจริง” บาทหลวงเดชา กล่าวและว่า สำหรับครูที่เข้ารับการอบรมมาจาก โรงเรียนคาทอลิก 12 แห่งในสังกัดสังฆมณฑลราชบุรี และเขตการศึกษาที่ 6 อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ประกอบด้วย โรงเรียนดรุณาราชบุรี โรงเรียนเทพินทร์พิทยา โรงเรียนอนุชนศึกษา โรงเรียนวังตาลวิทยา โรงเรียนสารสาสน์วิเทศสมุทรสงคราม โรงเรียนราษฎร์บํารุงศิลป์ อยุธยา โรงเรียนเซนต์แมรี อยุธยา โรงเรียน     แม่พระประจักษ์ สุพรรณบุรี โรงเรียนเซนต์เทเรซาแสงทอง โรงเรียนเซนต์จอห์น บัปติสต์ โรงเรียนยอแซฟอยุธยา และโรงเรียนยอแซฟอุปถัมภ์อู่ทอง

ดร.ศักดิ์สิน โรจน์สราญรมย์ อดีตกรรมการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา ประธานกรรมการบริหาร สถาบันพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) กล่าวว่า ขอชื่นชมโรงเรียนในเครือคาทอลิก ที่มีการพัฒนา คุณภาพการศึกษา ถึงขั้นยกระดับการศึกษาเข้าสู่มาตรฐานโลก