ขวัญเอ้ยขวัญมา

*** หยอก หยอก*** วันที่ 3 เมษายน 2568*** ไม่มีมูลหมามันไม่ขี้หรอก เคยได้ยินอยู่บ่อยๆ สำหรับคำพูดนี้ แต่ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรค่อยว่ากัน แต่ส่วนมากที่มีประเด็นก็เกิดจากข้อมูลที่มีอยู่จริง หรือเป็นเรื่องที่มโนขึ้นมาแต่บังเอิญไปสอดคล้องกับเรื่องที่เกิดขึ้น…เป็นคำถามโลกแตกอยู่เหมือนกันนะ…***ข่าวดังที่ทำเรตติ้งพุ่งกระฉูดในวงการศึกษาอยู่ตอนนี้ก็คงเป็นเรื่องที่ ครูสาววิทยาลัยเทคนิคแห่งหนึ่ง ในจังหวัดสงขลา ร้อง”กัน จอมพลัง” ว่า ถูกภรรยา อดีตผู้อำนวยการวิทยาลัย “หึงโหด” ที่เธอคุยโทรศัพท์กับอดีต ผอ.นาน ๆ ส่งสติกเกอร์ พูดคำหวาน ผ่านแชทไลน์ ทำให้ ภรรยา อดีต ผอ. ทนไม่ได้ ถึงกับขับรถไล่ชน และทำร้ายร่างกาย จนเป็นเรื่องฟ้องร้องขึ้นโรงขึ้นศาลกันอยู่ขณะนี้ … เรื่องนี้จะเป็นความสัมพันธ์ฉันชู้สาวระหว่างครูสาว กับ อดีต ผอ.หรือไม่ให้ศาลเป็นผู้ตัดสิน คดีจะพลิกหรือไม่ อย่ากระพริบตา อาจจะต้องร้องคำว่าอั้ยยะ… กันเลยแหละ เพราะหยอก หยอก แว่วมาว่า ภรรยาอดีต ผอ.มีหลักฐานเพียบ…เลยจร้า.. เอาไว้รอตอนขึ้นศาล.. แต่ที่รู้ ๆ ณ ตอนนี้ เรื่องร้อนถึง สมศักดิ์ ไชยโสดา ผอ.วิทยาลัยเทคนิคหาดใหญ่ ต้องออกมาสั่งการให้ครูสาวเขียนรายงาน ถึงเหตุผลที่ไปออกรายการโหนกระแส เพราะทำให้วิทยาลัยเสื่อมเสียชื่อเสียง … และแว่วมาว่า ครูสาวก็รายงานตามที่พูดในโหนกระแส และยืนยันว่าไม่มีอะไรกับอดีต ผอ. เอาเป็นว่า..ก็ว่ากันไปตามหลักฐาน… ว่าใครจะงัดอะไรขึ้นมายืนยันกันเนาะ … แต่เรื่องชู้สาวของข้าราชการถือเป็นเรื่องผิดวินัยร้ายแรงที่สุด ถ้ามีการนำมาเปิดเผย ก็มีหลายกรณีเป็นตัวอย่างให้เห็น… หยอก หยอก ขอดูตอนจบ หลักฐานเด็ดที่ว่า ถึงขั้นออกจากราชการ หรือต้องเยียวยากันอย่างไร รอลุ้น รอลุ้น กันนะ*** ขวัญเอ้ยขวัญมา… เหตุแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มีนาคม ที่ผ่านมา ทำให้ข้าราชการและบุคลากรทางการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ อกสั่นขวัญหายไปตาม ๆ กัน “เสมา1” พลตำรวจเอกเพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ก็ไม่ได้ทิ้งไปไหนเดินสำรวจ สถานที่และออกมา ให้กำลังใจข้าราชการและบุคลากร พร้อมให้วิศวกรสำรวจความเสียหาย จนกว่าจะมีความปลอดภัยถึงให้เข้าทำงานกันได้ตามปกติ…แบบนี้สิ ถึงจะได้ขึ้นชื่อว่าผู้บังคับบัญชาห่วงใยความปลอดภัยของลูกน้อง อย่างแท้จริง***ผิดตรงไหนนนน? การคัดเลือกผู้บริหารระดับต้น กระทรวงศึกษาธิการ ที่ผ่านมา รายชื่อทั้ง 9 ตำแหน่ง ตัวเต็ง 100% ได้ขึ้น เป็นผู้บริหารระดับต้น แม้ว่าผู้ใหญ่บางท่านจะบอกว่า ไม่รู้ ไม่รู้ นั่นก็แค่การแสดง 555…แต่ทั้งนี้การให้โอกาสคนก็ถือว่าเป็นการทำบุญครั้งใหญ่ ไม่มีใครไม่เคยทำผิดพลาดในชีวิต แต่ต่อนี้ไปก็ตัวใครตัวมัน หยอกจะไม่ขุดออกมาให้เป็นประเด็น (ถ้าไม่จำเป็น..555)ก็คงจะเห็นทุกคนแสดงความสามารถในการบริหารงานของตัวเองออกมาให้เห็น เพราะแต่ละคนดูแล้วกว่าจะเกษียณอายุราชการ ผู้บริหารระดับสูงก็แค่มือเอื้อม … ก็ขอแสดงความยินดีด้วยแล้วกันเนอะ…เป็นกำลังใจให้ทุกท่านประสบความสำเร็จ ยังไม่สายที่จะเริ่มต้นแสดงฝีมือ หยอก หยอก จะคอยจับตา ไม่กระพริบ***กระทรวงศึกษาธิการ โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.)ได้นำร่างขอบเขตของงาน (Terms Of Reference : TOR)โครงการส่งเสริมการเรียนรู้ทุกที่ทุกเวลา โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นฐาน ขึ้นแสดงความคิดเห็น หรือประชาวิจารณ์ร่าง TOR บนเว็บไซต์แล้ว ทั้ง 5 โครงการ งบประมาณ 20,000 ล้านบาท เป็นงบฯผูกพัน 5 ปี 2 โครงการ คือ โครงการประกวดราคาเช่าใช้ระบบประมวลผลแบบคลาวด์ งบประมาณ 2,800 กว่าล้านบาท และ โครงการประกวดราคาเช่าใช้อุปกรณ์การเรียนการสอน สำหรับครูและนักเรียน งบประมาณ 14,600 กว่าล้านบาท  วันนี้น่าจะเป็นวันสุดท้ายที่เปิดให้มีการวิจารณ์ TOR และคงมีบริษัท คู่พิพาทเพียงบริษัทเดียวที่วิจารณ์ทั้ง 5 โครงการ คือ บริษัทรุ่งศิลป์การพิมพ์( 1977) จำกัด เพราะที่ผ่านมาได้อุทธรณ์ ทุกเรื่องไม่ว่าจะเป็น การพิมพ์ตำราเรียนขององค์การค้า สกสค.ศาลปกครองกลางก็รับไว้ทุกเรื่อง…เอา เป็นว่า พอหอมปากหอมคอแล้วกันนะ ครั้งหน้าเจอกันใหม่…บาย

”รุ่งศิลป์ถาม “ศธ.ออกสื่อ พิมพ์ตำราเรียน ปี 68 ประหยัดงบได้ 200ล้านจริง หรือ ตีกิน?

นายนัทธพลพงศ์ จิวัจฉรานุกูล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท รุ่งศิลป์การพิมพ์ (1977) จำกัด (โรงพิมพ์รุ่งศิลป์) กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่า พล...เพิ่มพูน ชิดชอบรมว.ศึกษาธิการ แสดงความพึงพอใจต่อสถิติการผลิตหนังสือเรียน องค์การค้าของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) และอ้างว่าประหยัดงบประมาณสูงสุดในรอบ 10 ปี เป็นจำนวนเงินกว่า200 ล้านบาท ว่า สิ่งที่กระทรวงศึกษาธิการสื่อสารออกมานั้นไม่ตรงกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น และจงใจใช้ข้อมูลด้านเดียวมาสร้างความชอบธรรมให้กับกระบวนการจัดจ้างพิมพ์ตำราแบบเรียนปี 2568 ที่ขณะนี้ถูกร้อง และถูกฟ้องเป็นคดีอยู่ในศาลและองค์กรตรวจสอบต่างๆ โดยเฉพาะประเด็นการใช้งบประมาณที่ลดลงเป็นประวัติการณ์นั้น ก็เนื่องจากคณะกรรมการ สกสค.ที่ รมว.ศึกษาธิการ เป็นประธาน กำหนดงบประมาณไว้สูงกว่าความเป็นจริง จึงไม่แปลกที่การจัดจ้างตามสัญญาที่ต่ำลงถึงเกือบ 20%

กระทรวงศึกษาธิการพยายามตีกิน นำเสนอข้อมูลด้านเดียว ทำให้สังคมเข้าใจผิด ทั้งที่ในความเป็นจริง ท่านเพิ่มพูน เป็นผู้อนุมัติงบประมาณที่สูงกว่าความเป็นจริง และควรตรวจสอบดูทั้งการอนุมัติงบประมาณ และการจัดทำราคากลางว่า เหตุใดถึงมีการตีโปร่งขึ้นไปถึง 20%“ นายนัทธพลพงศ์ ระบุ

นายนัทธพลพงศ์ กล่าวต่อว่า แล้วยิ่งหากเปรียบงบประมาณต่อจำนวนหนังสือที่องค์การค้าของ สกสค.จะได้รับ จะยิ่งไม่สามารถแอบอ้างว่าเป็นการใช้งบประมาณที่คุ้มค่าได้เลย เปรียบเทียบระหว่างปี 65 งบประมาณสูงกว่าเพียง 90 ล้านบาทแต่ผลิตหนังสือได้มากกว่า 31 ล้านเล่มแต่ปี 68 ตั้งงบไว้ถึง 1,060 ล้านบาท แต่ผลิตหนังสือเพียง 26.9 ล้านเล่มเท่านั้น ซึ่งต้องไม่ลืมว่าปี 65 มีสงครามรัสเซียยูเครน ทำให้วัตถุดิบมีราคาสูงกว่าปัจจุบันถึง 30% ส่วนปีนี้ราคากระดาษในตลาดโลกลดลงไปอย่างมาก และยังมีการลดคุณภาพวัตถุดิบลง เช่น เปลี่ยนจากกระดาษปอนด์เป็นปรู๊ฟและลดแกรมกระดาษจาก 70 เหลือ 64 แต่งบประมาณต่อเล่มก็ยังสูงขึ้นอีก ซึ่งการลดคุณภาพเหล่านี้ต้นทุนจะหายไปอีกไม่น้อยกว่า 10%

ต้องถามไปถึงบอร์ด สกสค. ที่ท่าน รมว.ศึกษาฯ นั่งเป็นหัวโต๊ะว่า ในเมื่อจำนวนแบบเรียนปี 68 ลดลงหลักล้านเล่ม มีการลดสเปกกระดาษ ราคากระดาษก็ลดต่ำลงมากแล้วทำไมจึงกำหนดงบประมาณสูงกว่าเดิม และสูงมากเมื่อเทียบราคาต่อเล่ม จึงทำให้เรื่องที่ รมว.ศึกษาฯภาคภูมิใจ และออกมาเยินยอ เพราะคิดว่าไม่มีใครรู้ตื้นลึกหนาบางนายนัทธพลพงศ์ กล่าว.

ศธ.-สอศ.พร้อมหนุนทุกด้าน ช่วย  2 นักศึกษา วท.ร้อยเอ็ด ติดในซากตึก สตง.ที่ถล่มจากเหตุแผ่นดินไหว 

พลตำรวจเอกเพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ แสดงความห่วงใยต่อเหตุการณ์แผ่นดินไหว เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ที่ทำให้อาคาร สตง.ถล่ม โดยมีนักศึกษาฝึกงานจากวิทยาลัยเทคนิคร้อยเอ็ด 2 ราย คือ นายศักดิ์ชัย สุมาลี และนายวรวุฒิ ตรีวุฒิ นักศึกษา ระดับชั้น ปวช.2/4 แผนกวิชาช่างไฟฟ้ากำลัง สูญหายภายในอาคารพร้อมทีมช่างไฟฟ้าอีก 4 คน ยังมีความหวังในการช่วยชีวิตผู้ประสบเหตุ เนื่องจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยตรวจพบสัญญาณชีพจรจากบริเวณที่คาดว่าผู้สูญหายติดอยู่

นายยศพล เวณุโกเศศ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(กอศ.) กล่าวว่า ทีมกู้ภัยยังคงเร่งค้นหาผู้ประสบเหตุอย่างต่อเนื่อง แต่ต้องทำงานอย่างระมัดระวังเนื่องจากโครงสร้างอาคารยังเสี่ยงต่อการถล่มซ้ำ นักศึกษาทั้งสองกำลังฝึกงานกับห้างหุ้นส่วนจำกัด สมใจ เจ้บุ๋ม การไฟฟ้า มีกำหนดฝึกงาน 1 ภาคเรียน (มีนาคม-กันยายน 2568) โดยดำเนินการตามขั้นตอนครบถ้วน ทั้งใบคำร้อง หนังสือยินยอมจากผู้ปกครอง และหนังสือตอบรับจากสถานประกอบการ โดยนักศึกษาได้ติดต่อฝึกงานผ่านญาติที่ทำงานในสถานประกอบการดังกล่าว ในการนี้วิทยาลัยได้ทำประกันอุบัติเหตุหมู่ให้กับนักศึกษาทุกคน ครอบคลุมการเสียชีวิตทุกกรณี วงเงิน 100,000 บาท โดย สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(สอศ.) พร้อมให้การสนับสนุนทุกด้านเพื่อให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็วที่สุด

“เสมา 1” นำทีมวิศวกรโยธาลงพื้นที่เร่งสำรวจหลังแผ่นดินไหว ย้ำเข้มงวดความปลอดภัย สำรวจอาคารสถานที่ หากไม่ปลอดภัยให้รายงานด่วน ส่วนบุคลากรให้เวิร์คฟอร์มโฮมจนกว่าสถานการณ์จะปกติ

เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2568 พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วย นายสุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ  นายธีร์ ภวังคนันท์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.)  นายณรงค์ชัย เจริญรุจิทรัพย์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(กอศ.)  นายเกิดศักดิ์ ยะโสธร รองอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง  นายขจิตพันธ์ สุวรรณสิริภักดิ์ ผอ.โรงเรียนสตรีวิทยา และเจ้าหน้าที่ ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบอาคารต่าง ๆ หลังเกิดแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มีนาคม ที่ผ่านมา โดย

พล.ต.อ.เพิ่มพูน กล่าวว่า จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นหลายพื้นที่ทั่วประเทศเมื่อวานนี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีเป็นห่วงความปลอดภัยของประชาชนทุกคนโดยเฉพาะผู้เรียนของเรา จึงได้กำชับมายังกระทรวงศึกษาธิการดูแลในเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและร่างกายของนักเรียนครูและบุคลากรทางการศึกษาในสังกัดและองค์กรในกำกับ โดยมุ่งหวังที่จะให้น้องนักเรียนและบุคลากรดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ภายในโรงเรียนและหน่วยงานได้อย่างปลอดภัย โดยครู นักเรียน และบุคลากรสามารถสังเกตเองได้ หากมีจุดสงสัยไม่แน่ใจชัดเจนสามารถส่งข้อมูลมาสอบถามได้ที่สภาวิศวกร หากพบว่ามีจุดเสียหายรุนแรงโครงสร้างอาคารปูนร้าวจนเห็นเหล็กให้ เราจะประสานไปยังกรมโยธาธิการและผังเมืองและสภาวิศวกรเข้ามาดำเนินการตรวจสอบเชิงลึกอย่างเป็นระบบในการควบคุมพร้อมติดตามอย่างต่อเนื่อง

รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า กระทรวงศึกษาธิการได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ซึ่งขณะนี้ได้มอบหมายให้สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ รับผิดชอบจัดทำแบบฟอร์มออนไลน์เพื่อเร่งสำรวจข้อมูลว่ามีสถานศึกษา หน่วยงานในสังกัดและองค์กรในกำกับทั่วประเทศได้รับความเสียหายจากผลกระทบแผ่นดินไหวในครั้งนี้ โดยให้สำรวจความเสียหายของอาคารเรียน ให้เสร็จสิ้นภายในวันอาทิตย์ที่ 30 มีนาคม 2568 โดยจะนำข้อมูลทั้งหมดมาพิจารณาความปลอดภัย แบ่งระดับออกเป็น 3 สี ได้แก่ สีเขียว = ปลอดภัย สีเหลือง = เสียหายเล็กน้อย และสีแดง = อันตราย เพื่อนำข้อมูลที่ได้มาประเมินให้เสร็จสิ้นก่อนวันเปิดทำการ หากปลอดภัยก็สามารถเปิดทำการได้ปกติ แต่หากมีแนวโน้มได้รับความเสียหายระดับสีแดงจะยังไม่เปิดให้เข้าพื้นที่และให้ต้นสังกัดให้ความช่วยเหลือทันที ซึ่งจากรายงานของเขตพื้นที่การศึกษา 34 เขต 130 โรงเรียน พบว่า มีโรงเรียนได้รับความเสียหายบ้างแต่เป็นความเสียหายเล็ก ๆ น้อย ๆ ยังไม่พบความเสียหายหนัก

ส่วนการลงพื้นที่สำรวจความเสียหายภายในโรงเรียนสตรีวิทยากับผู้บริหารหน่วยงานต่าง ๆ ในสังกัด ร่วมกับกรมโยธาธิการและผังเมือง และผู้แทนสภาวิศวกร  ยังไม่พบความเสียหาย เพราะมีโครงสร้างแข็งแรงมาก ระบบไฟและระบบน้ำใช้งานได้ปกติ และสำหรับวันนี้และวันพรุ่งนี้ที่จะมีการสอบคัดเลือกเข้าศึกษาต่อของนักเรียนชั้น ม.1 และ ม.4 เมื่อดูจากสภาวการณ์แล้วยังเป็นที่น่ากังวลใจ จึงให้เลื่อนการสอบไปทั้งหมด ซึ่ีงต้องขอขอบคุณผู้อำนวยการสถานศึกษา รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่ให้ความร่วมมือในการดำเนินการเป็นอย่างดี โดยหลังจากตรวจสอบว่าอาคารมีความปลอดภัยทั้งหมดแล้วต้นสังกัดจะประกาศวันสอบอีกครั้งเพื่อความปลอดภัยของผู้เรียน

สำหรับอาคารต่าง ๆ ภายในกระทรวงศึกษาธิการ ทีมวิศวกรอาสาได้ลงพื้นที่สำรวจแล้วไม่พบความเสียหายของโครงสร้าง พร้อมยืนยันว่าบุคลากรสามารถมาปฏิบัติงานได้ปกติไม่เกิดอันตรายอย่างแน่นอน ทั้งนี้ หากหน่วยงานหรือสถานศึกษาใดไม่มีเจ้าหน้าที่ตรวจสอบอาคารสามารถแจ้งไปได้ที่ศูนย์รับเรื่องราวของกรมโยธาธิการและผังเมือง โดยแจ้งดำเนินการตรวจสอบอาคารเบื้องต้นทั้งโรงเรียนและสถานที่ราชการต่าง ๆ จะมีวิศวกรอาสาเข้ามาดูแลและอำนวยความสะดวก

สุดท้ายนี้ ฝากความห่วงใยไปยังผู้ปกครองขอให้สบายใจในเรื่องการดูแลผู้เรียนของเรา หากสถานที่ไม่ปลอดภัยเราจะไม่ให้เข้ามาในโรงเรียนเด็ดขาด หากตรวจสอบว่าปลอดภัยแล้วผู้อำนวยการสถานศึกษาจะแจ้งไปว่าให้มาเข้าปฏิบัติกิจกรรมตามปกติ ในส่วนของสถานที่ทำงานแต่ละหน่วยงานก็เช่นเดียวกัน หากไม่ปลอดภัยก็จะไม่ให้เข้ามาปฏิบัติงาน ถ้ายังไม่เข้าสู่สถานการณ์ปกติก็ให้เวิร์คฟอร์มโฮมไปก่อน ยกเว้นมีภารกิจเร่งด่วนที่จะเข้ามาปฏิบัติงานในสถานที่ได้

 

 

“เสมา 2” ลงสำรวจอาคารเรียนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล หลังแผ่นดินไหว กำชับโรงเรียนทั่วประเทศเร่งสำรวจความสียหาย ย้ำหากพบรอยแตกร้าวรีบแจ้งศูนย์ปฏิบัติการเฝ้าเพื่อช่วยเหลือสถานศึกษาที่ประสบเหตุภัยพิบัติแผ่นดินไหว สพฐ.ทันที

เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2568 นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวภายหลังลงพื้นที่สำรวจความเสียหายของอาคารเรียนในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลภายหลังเกิดแผ่นดินไหว ว่า ขอเป็นกำลังให้ครูบุคลากรทางการศึกษา ลูก ๆ นักเรียน และ พ่อแม่ผู้ปกครองทุกครอบครัว เราทุกคนจะร่วมแรงร่วมใจกันก้าวข้ามสถานการณ์นี้ไปด้วยกัน อย่างไรก็ตามจากสถานการณ์แผ่นดินไหวทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือน ส่งผลให้โรงเรียนในหลายพื้นที่ทั่วประเทศได้รับความเสียหายเกิดรอยแตกร้าว ตนจึงได้สั่งการให้โรงเรียนใน สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐา่น(สพฐ.) และโรงเรียนสังกัด อื่น ๆ เร่งสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้น หลังจากนั้นให้รวบรวมข้อมูลความเสียหายทั้งหมด ส่งเข้ามายัง “ศูนย์ปฏิบัติการเฝ้าเพื่อช่วยเหลือสถานศึกษาที่ประสบเหตุภัยพิบัติแผ่นดินไหว สพฐ.” เพื่อให้ความช่วยเหลือโรงเรียนอย่างทันท่วงทีต่อไป

“จากการสำรวจรอยแตกร้าวอาคารในโรงเรียนนั้น ถือว่ามีความสำคัญและจำเป็นอย่างมาก เพราะความแข็งแรงของอาคารถือเป็นเรื่องสำคัญ และทำให้เกิดความมั่นใจว่าโรงเรียนของเรามีความแข็งแรง มั่นคงปลอดภัย   นอกจากนี้หากพบ ครู บุคลากรทางการศึกษา หรือ นักเรียน ได้รับผลกระทบจากการเกิดแผ่นดินไหวก็ให้รีบรายงานเข้ามาทันที​ เพื่อที่กระทรวงศึกษาธิการจะได้เร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือโดยเร็วที่สุดต่อไป” รมช.สุรศักดิ์ กล่าว

คณะวิศวะ มทร.กรุงเทพ ตรวจสอบอาคารสูงในมหาวิทยาลัยประเมินความมั่นคงและปลอดภัยหลังแผ่นดินไหว

เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2568 รศ.ดร.พิชัย จันทร์มณี อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล(มทร.)กรุงเทพ เปิดเผยว่า ภายหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มีนาคม ที่ผ่านมา  วันนี้คณาจารย์จากสาขาวิชาต่าง ๆ ของ คณะวิศวกรรมศาสตร์  ได้แก่ วิศวกรรมโยธา วิศวกรรมสำรวจ วิศวกรรมเครื่องกล  วิศวกรรมอุตสาหการ และวิศวกรรมไฟฟ้า ร่วมกันดำเนินการตรวจสอบอาคารสูงภายในมหาวิทยาลัย เพื่อเป็นการประเมินเบื้องต้นในด้านความมั่นคงและความปลอดภัยของอาคาร รวมถึงสร้างความมั่นใจให้กับนักศึกษา บุคลากร และผู้มาใช้บริการภายในมหาวิทยาลัย

“การดำเนินการครั้งนี้ คณาจารย์จากแต่ละสาขาได้นำความรู้ทางวิชาการและประสบการณ์ด้านวิศวกรรมมาใช้ในการประเมินโครงสร้างอาคาร  และปัจจัยด้านความปลอดภัยต่าง ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าอาคารภายในมหาวิทยาลัยสามารถรองรับการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยต่อทุกคน เพราะมทร.กรุงเทพ ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของนักศึกษาและบุคลากรเสมอ และจะมีการตรวจสอบสภาพอาคารอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจว่าอาคารและสิ่งปลูกสร้างต่างๆ อยู่ในสภาพที่เหมาะสมและปลอดภัยสำหรับการเรียน การสอน และการทำงานภายในมหาวิทยาลัย”อธิการบดี มทร.กรุงเทพกล่าว

แผ่นดินไหว …ศธ.ห่วงนักเรียนและครูรับผลกระทบ”บิ๊กอุ้ม”สั่งด่วนเลื่อนวันสอบเข้า ม.1 – ม.4 รอตรวจสภาพอาคารและแจ้งวันสอบใหม่

เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568  พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ส่งความห่วงใยไปยังทุกส่วนราชการของ ศธ. ภายหลังเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว และมีหลายจังหวัดของประเทศได้รับผลกระทบจาก Aftershock โดยมีข้อสั่งการให้นายสุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ แจ้งทุกหน่วยงานให้ดำเนินการ ดังนี้

1. ตรวจสอบความมั่นคงของอาคาร สถานที่ มีความปลอดภัยหรือไม่ และให้ บุคลากร ปฏิบัติงานที่บ้านทันที จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่สภาวการณ์ปกติและมีความปลอดภัย

2.ให้หยุดและเลื่อนการเรียนการสอนและกิจกรรมในอาคาร อาคารสูง ทุกประเภท ไว้ก่อน จนกว่าจะมีสถานการณ์ที่ปลอดภัย และตรวจสอบอาคารว่าปลอดภัย

ทั้งนี้ ในส่วนของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) ได้พิจารณาสั่งการไปถึง ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา(สพม.)ทั่วประเทศ ให้แจ้งไปยังโรงเรียนมัธยมฯที่จะสอบเรียนต่อในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และมัธยมศึกษาปีที่ 4 ให้ “เลื่อนการสอบทั้งหมด” ออกไปก่อน แล้ว พร้อมให้โรงเรียนตั้งคณะกรรมการตรวจสอบความมั่นคง ความแข็งแรงความปลอดภัยของอาคารเรียน โดยเฉพาะอาคารเรียนสูง จนกว่าคณะกรรมการแจ้งยืนยันความปลอดภัย จึงจะดำเนินการสอบใหม่อีกครั้ง

ด้าน ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.)กล่าวว่า  จากเหตุการณ์ดังกล่าว  พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศธ. นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รมช.ศธ. นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำ ศธ. และ สพฐ. มีความห่วงใยสวัสดิภาพของนักเรียนและผู้ปกครอง รวมถึงครูและบุคลากรทางการศึกษา จึงขอให้ สพท.ทั่วประเทศติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และขอส่งกำลังใจให้ทุกโรงเรียน ครู นักเรียน และผู้ปกครองที่ได้รับผลกระทบ ให้ผ่านพ้นสถานการณ์นี้ไปได้อย่างปลอดภัย ทั้งนี้ หากพบว่ามีนักเรียน ครู โรงเรียน หรือเขตพื้นที่ใด ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งนี้ สามารถแจ้งมายัง ศูนย์บริหารความสุขและความปลอดภัย สพฐ. เบอร์โทร 02-123-8789 หรือ 02-288-5599 เพื่อประสานให้ความช่วยเหลือต่อไป นอกจากนี้ ตนได้สั่งการให้ สพท.ทุกแห่งทั่วประเทศ แจ้งไปยังโรงเรียนมัธยมฯในสังกัด ที่จะจัดสอบคัดเลือกนักเรียนเข้าศึกษาต่อในชั้น ม.1 และ ม.4 ให้เลื่อนการสอบทั้งหมดออกไปก่อน และให้โรงเรียนตั้งคณะกรรมการตรวจสอบความมั่นคง ความแข็งแรงความปลอดภัยของอาคารเรียนโดยเฉพาะอาคารเรียนสูง จนกว่าคณะกรรมการจะแจ้งยืนยันความปลอดภัยจึงจะดำเนินการสอบใหม่อีกครั้ง โดย สพฐ. จะกำหนดปฏิทินการรับนักเรียนและการสอบใหม่อีกครั้งและแจ้งให้ทราบต่อไป

“เสมา1”ไฟเขียว Anywhere Anytimeขึ้นTORประชาพิจารณ์ก่อนจัดซื้อจัดจ้าง

เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2568 พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) เปิดเผยว่า การปฏิวัติการศึกษา แก้ปัญหาประเทศ รวมถึงปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษานั้น ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนขนาดเล็ก โรงเรียนในพื้นที่ห่างไกล โรงเรียนที่ผู้ปกครองนักเรียนมีฐานะยากจน ศธ.จะต้องมาหาวิธีลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ซึ่งกลไกหลักที่จะมาตอบรับคือ การศึกษาเรียนรู้ได้ทุกที่ ทุกเวลา ( Anywhere Anytime) นอกจากนี้ยังมีความท้าทายกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลก ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีดิจิทัล การเข้ามามีบทบาทของระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่จะมีส่วนช่วยในการดำเนินการศึกษา ซึ่ง ศธ.ได้พยายามพัฒนาครูให้มีคุณภาพในการจัดการเรียนการสอน นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่าง ๆ มาใช้ในการจัดการเรียนการสอน พัฒนาผู้เรียนให้ก้าวทันโลก และ คณะรัฐมนตรี (ครม.)ก็ได้อนุมัติงบประมาณ 2 หมื่นล้านบาท (งบผูกพันตั้งแต่ปี 2568-2572)โครงการส่งเสริมการเรียนรู้ทุกที่ทุกเวลา โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นฐาน เรียนได้ทุกที่ ทุกเวลา หรือ Anywhere Anytime เรียนฟรี มีงานทํา โดยยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง มีระบบ หรือแพลตฟอร์มการเรียนรู้ โดยผู้เรียนไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา จัดหาอุปกรณ์และการแจกอุปกรณ์เทคโนโลยีประกอบการสอนให้แก่ครู ซึ่ง ศธ.จะต้องเร่งดำเนินการขับเคลื่อนโดยเร็ว

“โครงการดังกล่าวเป็นความรับผิดชอบของ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) ซึ่งตนทราบว่า สพฐ. ได้ขึ้นเว็บไซต์เพื่อให้แสดงความคิดเห็น หรือ วิจารณ์ร่าง TOR แล้ว ก่อนจะดำเนินการในขั้นตอนกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง ส่วนจะมีผู้วิจารณ์ TOR อย่างไรนั้น ก็ให้ดำเนินการตามกระบวนการ เพราะมีขั้นตอนของการดำเนินงานอยู่แล้ว แต่ทั้งนี้เพื่อการปฏิบัติการศึกษา เพื่อแก้ปัญหาประเทศ เราก็ต้องเร่งดำเนินการโดยเร็ว”รมว.ศึกษาธิการ กล่าว

ศธ.-สกสค.-MOU สกร.เชิญชวนครูและบุคลากรทางการศึกษาเข้าโครงการ ชพค.ชพส.สวัสดิการสูง

วันที่ 26 มีนาคม 2568 สำนักงานคณะกรรมการส่งสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา( สกสค.) ร่วมกับ กรมส่งเสริมการเรียนรู้ (สกร.) ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เพื่อส่งเสริมสิทธิและสวัสดิการสำหรับครูและบุคลากรทางการศึกษา และสมาชิก ช.พ.ค. – ช.พ.ส. ให้ครอบคลุมถึงคู่สมรสเพศเดียวกัน ในกลุ่มหลากหลายทางเพศ (LGBTQ) ตามหลักสมรสเท่าเทียม  โดยดร.พีระพันธ์  เหมะรัต เลขาธิการคณะกรรมการ สกสค. และ นายธนากร ดอนเหนือ อธิบดีกรมส่งเสริมการเรียนรู้ พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงจากทั้งสองหน่วยงาน ร่วมเป็นสักขีพยาน

โดย ดร.พีระพันธ์ เหมะรัต เลขาธิการคณะกรรมการ สกสค. กล่าวว่า “การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ในครั้งนี้ เป็นการเน้นย้ำว่า สกสค. พร้อมสนับสนุนสิทธิประโยชน์ของบุคลากรทางการศึกษาในทุกมิติ เป็นการตอกย้ำเจตนารมณ์ของ สกสค. ที่มุ่งมั่นส่งเสริมสิทธิและสวัสดิการของครูให้ครอบคลุมและทันสมัย เพื่อให้บุคลากรทางการศึกษาได้รับการดูแลอย่างทั่วถึง และเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนากระทรวงศึกษาธิการ ครบรอบ 133 ปี สกสค. ในฐานะหน่วยงานในกำกับ มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาสวัสดิการให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาให้ได้รับสิทธิประโยชน์ที่ครอบคลุมและเหมาะสมกับยุคสมัย ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการฉลองโอกาสพิเศษนี้ ด้วยการเปิดรับสมัครสมาชิก ช.พ.ค.-ช.พ.ส. กรณีพิเศษอายุเกิน 35 ปี  ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน จนครบ 133 วัน ทั้งนี้เพื่อให้การส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพ ของ สกสค. ทั่วถึงและครอบคลุมครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกสังกัด

“ปี 2568 ในโอกาสกระทรวงศึกษาธิการ ครบรอบ 133 ปี เราจะให้โรงพยาบาลครูเคลื่อนที่ไปหาโรงเรียน เพื่อไปให้ความรู้ในการดูแลสุขภาพของนักเรียน หลังจากที่ผ่านมาเราทำงานเชิงรุกจัดโรงพยาบาลครู เคลื่อนที่ตรวจสุขภาพครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกจังหวัดทั่วประเทศ นอกจากนี้ทางโรงพยาบาลครูจะขอรับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่มาฉีดให้บุคลากรในกระทรวงศึกษาธิการ เพราะนอกจากการรักษาแล้วเราจะต้องมีการป้องกันด้วย โดยผู้สนใจสามารถมาลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน นี้”เลขาธิการ สกสค.กล่าว

ด้าน นายธนากร ดอนเหนือ อธิบดีกรมส่งเสริมการเรียนรู้ ในฐานะกรรมการ ช.พ.ส. กล่าวว่า “กรมส่งเสริมการเรียนรู้ มุ่งมั่นที่จะสร้างสังคมแห่งความเสมอภาคและความเข้าใจซึ่งกันและกัน ความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยให้บุคลากรทางการศึกษาทุกคนได้รับสิทธิอย่างเท่าเทียม และสามารถเข้าถึงสวัสดิการที่พึงได้รับโดยไม่มีข้อจำกัดด้านเพศสภาพ  ซึ่งความร่วมมือดังกล่าวเป็นการตอกย้ำแนวทางของหน่วยงานภาครัฐที่สนับสนุนความเท่าเทียมและสิทธิของทุกคนในสังคม อันเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างความเข้มแข็งให้กับระบบสวัสดิการของบุคลากรทางการศึกษาในประเทศไทย อย่างไรก็ตาม สกร.ไม่ได้บังคับให้เข้าโครงการ ชพค.ชพส.แต่เราได้หยิบยื่นสิ่งที่ดีให้กับทุกคน เพื่อให้รับสวัสดิการที่ดี

สพฐ.ขึ้นประชาวิจารณ์TORโครงการส่งเสริมการเรียนรู้ทุกที่ทุกเวลาแล้ว ปีนี้คาดว่าจะต้องใช้งบฯกว่า5พันล้านบาท

เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2568 ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.)แถลงข่าว ภายหลังการประชุมผู้บริหารระดับสูงสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.)ว่า ขณะนี้ สพฐ.ได้นำร่างขอบเขตของงาน (Terms Of Reference : TOR)โครงการส่งเสริมการเรียนรู้ทุกที่ทุกเวลา โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นฐาน ขึ้นแสดงความคิดเห็น หรือวิจารณ์ร่าง TOR แล้ว จำนวน 5 กิจกรรม คือ 1,ประกวดราคาเช่าใช้ระบบประมวลผลแบบคลาวด์ ภายใต้โครงการส่งเสริมการเรียนรู้ขั้นพื้นฐานทุกที่ทุกเวลา สพฐ. กระทรวงศึกษาธิการ ด้วยวิธีประกวด ราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) (เลขที่โครงการ : 68039476031)งบประมาณ 2,800 กว่าล้านบาท(งบฯผูกพัน5ปี) 2, ประกวดราคาซื้อจัดซื้อซอฟต์แวร์สำเร็จรูปพร้อมพัฒนาแพลตฟอร์มการจัดการเรียนรู้แห่งชาติ โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นฐาน ระยะที่ 2 ภายใต้โครงการส่งเสริมการเรียนรู้ขั้นพื้นฐานทุกที่ทุกเวลา ระยะที่ 2 ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) (เลขที่ โครงการ : 68039476484)งบประมาณ 1,330 กว่าล้านบาท  3,ประกวดราคาเช่าใช้อุปกรณ์การเรียนการสอน สำหรับครูและนักเรียนภายใต้โครงการส่งเสริมการเรียนรู้ชั้นพื้นฐานทุกที่ทุกเวลาสพฐ. ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) (เลขทีโครงการ : 68039475584) งบประมาณ 14,600 กว่าล้านบาท(งบฯผูกพัน5ปี) 4,ประกวดราคาจ้างเหมาดำเนินการจัดหานวัตกรรมสื่อการเรียนรู้ ภายใต้โครงการส่งเสริมการเรียนรู้ขั้นพื้นฐานทุกที่ทุกเวลา ระยะที่ 2 ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) (เลขที่โครงการ : 68039476084)งบประมาณ 237 กว่าล้านบาท  และ 5,ประกวดราคาจ้างจ้างเหมาดำเนินการจัดหานวัตกรรมสื่อการจัดการเรียนรู้ผู้เรียนยุคใหม่สำหรับศตวรรษที่ 21 ภายใต้โครงการส่งเสริมการเรียนรู้ขั้นพื้นฐานทุกที่ทุกเวลา ระยะที่ 2 ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) (เลขที่โครงการ : 68039475825)งบประมาณ 195 กว่าล้านบาท โดยคาดว่างบประมาณที่จะต้องใช้ดำเนินการในปี 2568 จะใช้งบฯกว่า 5,000 ล้านบาท  โดยจะขึ้นให้แสดงความคิดเห็นหรือวิจารณ์ร่าง TOR ประมาณ 5-7 วัน หลังจากนั้นก็จะเข้าสู่กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างต่อไป

เลขาธิการ กพฐ.กล่าวต่อไปว่า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดความซ้ำซ้อนของงาน และเป็นไปตามนโยบายของ พลตำรวจเอกเพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ที่ต้องการลดภาระครูและบุคลากรทางการศึกษา ตนจึงให้ปรับสำนักภายในของสพฐ.ให้เป็นไปตามกฏหมายที่เดิมมีอยู่ 12 สำนักใหญ่ แต่สพฐ.ได้ขยายไปถึง 20 สำนัก ดังนั้นจึงได้ปรับลดลงมาให้มีเท่าเดิม คือ 12 สำนักใน สพฐ.